Macro Morning Focus ประจำวันที่ 27 สิงหาคม 2553
Summary:
1. อัตราเงินเฟ้อจีนเดือน ก.ค. 53 ขยายตัวสูงสุดในรอบ 21 เดือนที่ร้อยละ 3.3 ต่อปี
2. ยอดขายบ้านจากมหกรรมเลือกซื้อบ้าน-คอนโดสูงถึง 3,000 ล้านบาท
3. ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าระดับที่ตลาดคาดไว้ร้อยละ 0.3
Highlight:
1. อัตราเงินเฟ้อจีนเดือน ก.ค. 53 ขยายตัวสูงสุดในรอบ 21 เดือนที่ร้อยละ 3.3 ต่อปี
- ทางกลางจีนประกาศว่าอัตราเงินเฟ้อจีนขยายตัวร้อยละ 3.3 ต่อปี ซึ่งถือเป็นการขยายตัวสูงสุดในรอบ 21 เดือน โดยมีสาเหตุสำคัญมาจากความเสียหายที่เกิดจากน้ำท่วมในประเทศจีนในช่วงก่อนหน้า นอกจากนี้จากการสอบถามผู้บริโภคยังพบว่าสินค้าอุปโภคหลายรายการยังได้เพิ่มสูงขึ้นเป็นเท่าตัว ส่งผลให้หลายฝ่ายกังวลต่อภาวะเงินเฟ้อในจีน
- สศค. วิเคราะห์ว่า อัตราเงินเฟ้อของจีนในปัจจุบันที่ร้อยละ 3.3 ต่อปีนั้น ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่สูงมากเมื่อเทียบกับอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ร้อยละ 10.3 ต่อปีในไตรมาสก่อนหน้า อย่างไรก็ตามจากผลสำรวจที่พบว่าราคาสินค้าอุปโภคบริโภคได้เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวนั้น ส่งผลให้ สศค. มองว่ามีความเป็นไปได้ที่อัตราเงินเฟ้อที่แท้จริงของจีนน่าจะขยายตัวสูงกว่าร้อยละ 3.3 ต่อปี ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวจะส่งผลให้แรงกดดันจากภาวะเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งอาจจะส่งผลต่อการตัดสินใจปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หรือปรับค่าเงินหยวนให้แข็งค่าขึ้นเพื่อลดความร้อนแรงของเศรษฐกิจ
2. ยอดขายบ้านจากมหกรรมเลือกซื้อบ้าน-คอนโดสูงถึง 3,000 ล้านบาท
- งานมหกรรมเลือกซื้อบ้าน-คอนโดฯ ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19 -22 ส.ค. ที่ผ่านมา มีผู้เข้าชมงานแสดงประมาณ 80,000 คน ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา แต่ต่ำกว่าประมาณการเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ยอดขายจากงานดังกล่าว มีมูลค่ารวมทั้งสิ้นประมาณ 3,000 ล้านบาท โดยเป็นยอดขายที่เกิดขึ้นภายในงาน 1,500 ล้านบาท และคาดว่าจะมียอดขายหลังงานเกิดขึ้นอีก 1,500 ล้านบาท
- สศค. วิเคราะห์ว่า ถึงแม้มาตรการช่วยเหลือภาษีค่าโอนอสังหาริมทรัพย์จะสิ้นสุดไปแล้วตั้งแต่วันที่ 30 มิ.ย. 2553 ยอดขายบ้านดังกล่าวบ่งชี้ความต้องการซื้อบ้านที่ยังคงมีอยู่สูง ซึ่งสอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือน ก.ค. 53 ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ที่ระดับ 71.4 สะท้อนการบริโภคโดยเฉพาะในหมวดสินค้าคงทนที่มีแนวโน้มดีขึ้น นอกจากนี้อัตราการว่างงานที่มีแนวโน้มลดลง โดยในเดือน มิ.ย. 53 อัตราการว่างงานอยู่ที่ร้อยละ 1.2 ของกำลังแรงงานรวม ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ร้อยละ 1.5 ของกำลังแรงงานรวม บ่งชี้อุปสงค์ในประเทศที่มีแนวโน้มขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง
3. ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าระดับที่ตลาดคาดไว้ร้อยละ 0.3
- ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐประจำเดือน ก.ค. 53 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ร้อยละ 0.3 ต่อเดือน ต่ำกว่าระดับที่ตลาดคาดไว้ที่ร้อยละ 2.8 ต่อเดือน โดยในรายงานตัวเลขเศรษฐกิจดังกล่าวระบุว่าตัวเลขการใช้จ่ายสินค้าทุนซึ่งเดิมเคยเป็นตัวเลขเศรษฐกิจที่ขยายตัวได้ดีกว่าในหมวดอื่นๆนั้นเริ่มมีสัญญาณชะลอตัวลงแล้ว ทั้งนี้ ตัวเลขยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนที่ชะลอตัวดังกล่าวนั้นมีออกมาหลังจากที่ตัวเลขยอดขายบ้านประจำเดือน ก.ค. 53 ลดต่ำลงมามากที่สุดในรอบ 10 ปีที่ -27.2 ต่อเดือน บ่งชี้ถึงความเสี่ยงของเศรษฐกิจสหรัฐที่เริ่มมีแนวโน้มชะลอตัวลงอาจมีมากขึ้น
- สศค. วิเคราะห์ว่า หนึ่งในสาเหตุสำคัญทีเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มมีแนวโน้มชะลอตัวลงนั้นอาจมีส่วนหนึ่งมาจากมาตรการสนับสนุนการบริโภคโดยเฉพาะมาตรการสนับสนุนการซื้อบ้านและรถยนต์ในช่วงที่ผ่านมาเริ่มหมดลง ประกอบกับอัตราการว่างงานที่ยังอยู่ในระดับที่สูงที่ร้อยละ 9.5 ของกำลังแรงงานรวมนั้นส่งผลให้ประชาชนมีข้อจำกัดทางด้านรายได้ในการจับจ่ายใช้สอย ในขณะเดียวกัน อัตราดอกเบี้ยนโยบายของ FED ที่อยู่ในระดับที่ต่ำมากที่ร้อยละ 0 — 0.25 นั้นอาจเป็นข้อจำกัดในการใช้นโยบายการเงินในการสนับสนุนเช่นกัน ดังนั้น ภาครัฐอาจจำเป็นต้องพิจารณาถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบที่ 2 ที่มุ่งเน้นถึงการลงทุนในระยะยาวและการสร้างงาน และในขณะเดียวกันต้องคำนึงถึงการใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่าเพื่อมิให้ระดับหนี้สาธารณะของสหรัฐฯปรับตัวเพิ่มขึ้นไปมาก
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group:
Fiscal Policy Office Tel 02-273-9020 Ext 3665: www.fpo.go.th