นายโฆสิต วิโรจน์เพ็ชร์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 12 นครสวรรค์ (สศข.12) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้จัดทำโครงการพัฒนาระบบบริหารจัดการน้ำเพื่อการเกษตรตั้งแต่ปีงบประมาณ 2554 โดยมุ่งเน้นการทำงานร่วมกันแบบบูรณาการของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ และเครือข่ายทุกภาคส่วนโดยคำนึงถึงศักยภาพของพื้นที่และความต้องการของชุมชนเพื่อมุ่งหวังให้เกิดประโยชน์โดยตรงแก่เกษตรกรในการเพิ่มประสิทธิภาพด้านการผลิต การเพิ่มมูลค่าการตลาด การบริหารจัดการ และการพัฒนาชุมชนให้เกิดความเข้มแข็งและยั่งยืน ซึ่งได้มอบหมายคณะอนุกรรมการบูรณาการแผนปฏิบัติการพัฒนาด้านการเกษตรระดับจังหวัด ดำเนินการจัดทำแผนพัฒนาการเกษตรคัดเลือกพื้นที่ที่ได้รับประโยชน์จากการพัฒนาแหล่งน้ำและบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ชลประทาน ระดับจังหวัดๆ ละ 1 พื้นที่ และในปีงบประมาณ 2556 กำหนดให้ขยายจุดพื้นที่ดำเนินงานเพิ่มอย่างน้อยจังหวัดละ 1 แห่ง รวมทั้งให้มีการประกวดโครงการฯ เพื่อกระตุ้นการทำงาน โดยแบ่งรางวัลออกเป็น 2 ระดับ คือ ระดับเขตตรวจราชการ และระดับประเทศ
สำหรับการประกวดการดำเนินงานโครงการฯ ในเขตพื้นที่ตรวจราชการที่ 18มีผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข)เป็นประธานอนุกรรมการประกวด ได้แต่งตั้งคณะทำงานประกวดฯระดับจังหวัด โดยมีผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 12 เป็นประธาน และผู้แทนหน่วยงานต่างๆ ร่วมเป็นคณะทำงาน มีหน้าที่รวบรวมผลการดำเนินงานโครงการเสนอต่อคณะอนุกรรมการประกวดฯ ระดับเขต เพื่อคัดเลือกจังหวัดที่ได้รับรางวัลที่ 1 ส่งเข้าประกวด ในระดับประเทศต่อไป ซึ่งขณะนี้คณะทำงานประกวดฯ ได้เร่งตรวจสอบเอกสาร หลักฐานการดำเนินงานโครงการฯ พร้อมทั้งลงพื้นที่พบปะเกษตรกรในพื้นที่โครงการ ในจังหวัดพิจิตร อุทัยธานี กำแพงเพชร และนครสวรรค์ เพื่อคัดเลือกจังหวัดที่ได้รับรางวัลชนะเลิศเสนอต่อคณะอนุกรรมการประกวดฯ ระดับเขต ในวันที่ 28 มิถุนายนนี้ ก่อนเสนอต่อคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการพัฒนาระบบบริหารจัดการน้ำเพื่อคัดเลือกในระดับประเทศต่อไป
ทั้งนี้ ผลการประกวดการดำเนินงานโครงการในระดับเขตตรวจราชการและระดับประเทศ จะเป็นสิ่งบ่งชี้ถึงการบูรณาการทำงานอย่างจริงจังของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ และภาคส่วนต่างๆในพื้นที่ ให้มีการบริหารจัดการโครงการอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งนอกจากจะได้รับรางวัลเป็นโล่เกียรติคุณแล้ว เหนือสิ่งอื่นใดยังเป็นความภาคภูมิใจของผู้ปฏิบัติงานและเกษตรกรในพื้นที่โครงการที่ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาอาชีพการเกษตรอันจะส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น นายโฆสิต กล่าว
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--