สุโขทัยเฟ้นหาเกษตรกรปราดเปรื่อง เปิดโผ 3 ผู้ชนะ สู่การเป็นต้นแบบอย่างสมาร์ท

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday February 20, 2014 13:41 —สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร

สุโขทัย เปิดตัว 3เกษตรกรปราดเปรื่องด้านการผลิตข้าวของจังหวัด ตามนโยบายสร้างเกษตรกรปราดเปรื่องของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ด้าน สศข.2 เผย เกณฑ์ผู้ชนะคัดเฟ้นเข้มข้น เน้นผลผลิตต่อไร่สูง ต้นทุนการผลิตต่ำ และได้คุณภาพ สู่การเป็นต้นแบบเพื่อการเรียนรู้ขยายผลต่อเกษตรกรรายอื่นต่อไป

นายชวพฤฒ อินทรเทศ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 2 พิษณุโลก (สศข.2) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยในฐานะคณะกรรมการประกวดผลผลิตข้าวระดับจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 6 จังหวัด (พิษณุโลก ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ แพร่ น่าน) ว่า ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีนโยบายสร้างเกษตรกรปราดเปรื่องขึ้น เพื่อให้เกษตรกรไทยมีความรู้ในเรื่องการผลิตข้าว โดยส่วนราชการมีส่วนร่วมบูรณาการด้านวิชาการและเทคโนโลยี และจัดให้มีการประกวดใน 43 จังหวัดทั่วประเทศที่มีพื้นที่ทำนาตั้งแต่ 200,000 ไร่ขึ้นไปนั้น

จังหวัดสุโขทัย ได้จัดให้มีการประกวดคัดเลือกเกษตรกรที่มีคุณสมบัติในการเป็นเกษตรกรปราดเปรื่องด้านข้าว หรือ Smart Farmer จำนวน 3 ราย เพื่อเป็นเกษตรกรต้นแบบของจังหวัด ซึ่งเมื่อวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา ทางคณะกรรมการฯ ได้ประกาศผลการตัดสินเรียบร้อยแล้ว ปรากฏว่า อันดับที่ 1 ได้แก่ นายเรไร สร้อยสุวรรณ ได้รับผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ 966.69 กิโลกรัม ต้นทุนการผลิตต่อไร่ รวม 4,052.17 บาท มีผลตอบแทนสุทธิ 12,769.97 บาทต่อไร่ อันดับที่ 2 ได้แก่ นายสมาน ถาวร ได้รับผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ 1,068.80 กิโลกรัม ต้นทุนการผลิตต่อไร่ รวม 4,226.67 บาท มีผลตอบแทนสุทธิ 7,401.87 บาทต่อไร่ และ อันดับที่ 3 คือ นายกล โฉมคุ้ม ได้รับผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ 733.91 กิโลกรัม ต้นทุนการผลิตต่อไร่ รวม 3,399.10 บาท มีผลตอบแทนสุทธิ 5,724.52 บาทต่อไร่ โดยเกษตรกรทั้ง 3 รายจะได้รับโอกาสในการจัดทำแปลงขยายผลเพื่อการเรียนรู้ เพื่อถอดบทเรียนองค์ความรู้ บันทึกข้อมูลพร้อมภาพกิจกรรมในช่วงต่างๆ ในตลอดฤดูกาลผลิตข้าวของแปลงประกวด เพื่อใช้เป็นข้อมูลเปรียบเทียบกับเกษตรกรรายอื่น และจะมีเจ้าหน้าที่ของศูนย์วิจัยข้าว/ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวในพื้นที่รับผิดชอบ มาติดตามความก้าวหน้าและให้คำปรึกษา ซึ่งการจัดทำแปลงขยายผลเพื่อเป็นต้นแบบให้เกษตรกรรายอื่นในจังหวัดได้มาศึกษาดูงานเพื่อเป็นแบบอย่างนั้น เกษตรกรที่ได้อันดับที่ 1 - 3 จะได้ขนาดแปลงขยายจำนวน 3 ไร่ 2 ไร่ และ 1 ไร่ ตามลำดับ

ทั้งนี้ จังหวัดสุโขทัยมีพื้นที่ทำนาปี 1,145,457 ไร่ พื้นที่ทำนาปรัง 738,252 ไร่ ซึ่งในส่วน 43 จังหวัดที่มีพื้นที่นามากกว่า 200,000 ไร่ขึ้นไปนั้น ประกอบด้วย ภาคเหนือ (11 จังหวัด) ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ ตาก ลำปาง น่าน แพร่ พะเยา เพชรบูรณ์ สุโขทัย อุตรดิตถ์ อุทัยธานี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (20จังหวัด)ได้แก่ กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ขอนแก่น ชัยภูมิ นครพนม นครราชสีมา เลย บึงกาฬ หนองคาย บุรีรัมย์ ยโสธร มหาสารคาม อำนาจเจริญ ร้อยเอ็ด อุดรธานี ศรีสะเกษ สกลนคร สุรินทร์ หนองบัวลำภู อุบลราชธานี ภาคกลาง (2 จังหวัด) ได้แก่ ปทุมธานี สระบุรี ภาคตะวันออก (4 จังหวัด) ได้แก่ ฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ภาคตะวันตก (4 จังหวัด) ได้แก่ กาญจนบุรี นครปฐม เพชรบุรี ราชบุรี และ ภาคใต้ (2 จังหวัด) ได้แก่ สงขลา นครศรีธรรมราช โดยเกณฑ์ของเกษตรกรที่จะเข้าประกวด คือ จะต้องมีรายได้จากการประกอบอาชีพด้านการเกษตรไม่ต่ำกว่า 180,000 บาทต่อครัวเรือนต่อปี ต้องมีความรู้ในเรื่องที่ทำอยู่ มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจ มีการบริหารจัดการผลผลิตและการตลาด และตระหนักถึงคุณภาพสินค้าและความปลอดภัยของผู้บริโภค ที่สำคัญคือ มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม มีความภาคภูมิใจในความเป็นเกษตรกร รวมถึงเป็นครอบครัวที่มีประสบการณ์ในการทำนามาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี และได้รับผลผลิตข้าวสูงกว่าค่าเฉลี่ยของจังหวัด นายชวพฤฒ กล่าวทิ้งท้าย

--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ