สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาในประเทศ
สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ได้พยากรณ์เนื้อที่ให้ผล ผลผลิต ผลผลิตต่อไร่ปี 2558 ดังนี้ เนื้อที่ให้ผลผลิตกาแฟจะมีประมาณ 248,523 ไร่ ลดลงจากปี 2557 จำนวน 10,926 ไร่ หรือลดลงร้อยละ 4.21 ผลผลิต 26,489 ตัน ลดลงจากปีที่ผ่านมา 11,302 ตัน หรือลดลงร้อยละ 29.91 และผลผลิตต่อไร่ต่อเนื้อที่ให้ผล เฉลี่ยไร่ละ 107 กิโลกรัม ลดลงจากปีที่ผ่านมา 39 กิโลกรัมต่อไร่ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 26.71
เนื้อที่ให้ผลรวมทั้งประเทศลดลง เนื่องจากเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟทางภาคใต้ซึ่งเป็นแหล่งผลิตใหญ่ของประเทศ เริ่มโค่นต้นกาแฟที่ปลูกแซมในสวนผลไม้ ยางพารา และปาล์มน้ำมันออก เพราะไม้ยืนต้นดังกล่าวเริ่มให้ผลผลิต แต่เนื้อที่ให้ผลกาแฟทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพิ่มขึ้น จากการที่มีหน่วยงานทางภาครัฐและเอกชนส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกกาแฟในสวนไม้ผลไม้ยืนต้น และพื้นที่ป่าชุมชนตั้งแต่ปี 2554 เริ่มให้ผลผลิต สำหรับผลผลิตต่อไร่เฉลี่ยทั้งประเทศลดลง เนื่องจากช่วงที่กาแฟออกดอกเกิดภาวะแห้งแล้ง ทำให้ดอกกาแฟเจริญเติบโตไม่สมบูรณ์ติดผลไม่ดี ประกอบกับในแหล่งผลิตในภาคใต้ มีการปลูกกาแฟมานานทำให้สภาพดินเสื่อมโทรม กาแฟไม่ตอบสนองกับปุ๋ยที่เกษตรกรใส่มากนัก ทำให้ต้นกาแฟไม่สมบูรณ์ ส่งผลให้ผลผลิตรวมทั้งประเทศลดลงด้วย
ภาคเหนือ เนื้อที่ให้ผลเพิ่มขึ้น จากต้นกาแฟที่ปลูกแซมในสวนไม้ผลไม้ยืนต้น และในพื้นที่ป่าชุมชนที่ทางภาครัฐสนับสนุนให้เกษตรกรปลูกตั้งแต่ปี 2554 เริ่มให้ผลผลิต ส่วนผลผลิตต่อไร่ลดลง เนื่องจากในปีที่ผ่านมาสภาพอากาศแห้งแล้ง ในช่วงที่กาแฟกำลังออกดอก ทำให้กาแฟติดผลลดลง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เนื้อที่ให้ผลกาแฟเพิ่มขึ้น จากกาแฟที่ปลูกแซมตามสวนป่าตั้งแต่ปี 2554 เริ่มให้ผลผลิต สำหรับผลผลิตต่อไร่ลดลง เนื่องจากในปีที่ผ่านมา เกิดภาวะฝนแล้ง ต้นกาแฟเจริญเติบโตไม่ดี ทั้งยังกระทบต่อช่วงที่กาแฟออกดอก ทำให้กาแฟติดผลน้อยลง
ภาคกลาง เนื้อที่ให้ผลเพิ่มขึ้นจากกาแฟที่ปลูกแซมในสวนไม้ผลและสวนป่าในปี 2554 เริ่มให้ผลผลิต สำหรับผลผลิตต่อไร่ลดลงเล็กน้อย เนื่องจากกาแฟเป็นพืชปลูกแซม และราคาตกต่ำติดต่อกันหลายปี เกษตรกรบางส่วนไม่เอาใจใส่ดูแล ใส่ปุ๋ยต้นกาแฟเท่าที่ควร
ภาคใต้ เนื้อที่ให้ผลกาแฟยังลดลงอย่างต่อเนื่อง ในช่วงปีที่ผ่านมาเกษตรกรที่ต้องการเปลี่ยนการปลูกกาแฟได้นำไม้ผลไม้ยืนต้นอื่น เช่น ยางพารา ปาล์มน้ำมัน และทุเรียน มาปลูกแซมในสวนกาแฟ ปัจจุบันไม้ผลไม้ยืนต้นเหล่านี้โตและเริ่มให้ผลผลิต เกษตรกรจึงโค่นต้นกาแฟออก สำหรับผลผลิตต่อไร่ลดลง เนื่องจากประสบปัญหาฝนทิ้งช่วงอากาศร้อนและแห้งแล้งในช่วงกาแฟออกดอก อีกทั้งยังขาดการดูแลรักษา บำรุงต้นกาแฟด้วย ส่งผลให้กาแฟติดดอกออกผลไม่ดี
กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ รายงานความต้องการใช้เมล็ดกาแฟในปี 2557 ของโรงงานแปรรูปในประเทศ มีปริมาณสูงขึ้น จาก 75,000 ตัน เป็น 70,000 ตัน ในปี 2556 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.14 เนื่องจากการบริโภคในประเทศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และคาดคะเนความต้องการใช้กาแฟของปี 2558 ว่าจะมีประมาณ 80,000 ตัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.66
ปี ความต้องการใช้เมล็ดกาแฟของโรงงาน 2553 58,000 2554 61,480 2555 67,620 2556 70,000 2557 75,000 อัตราเพิ่ม (ร้อยละ) 6.65 2558* 80,000 หมายเหตุ * : ประมาณการ การค้า
การส่งออกกาแฟขอไทยใน 6 เดือนแรก ของปี 2558 (มค. – มิ.ย.) มีปริมาณ 386.35 ตัน มูลค่า 69.35 ล้านบาท สูงขึ้นจาก 255.14 ตัน มูลค่า 51.17 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาคิดเป็นร้อยละ 51.42 และ 35.85 ตามลำดับ สำหรับกาแฟสำเร็จรูปมีการส่งออก 3,720.73 ตัน มูลค่า 498.35 ล้านบาท สูงขึ้นจาก 1,065.25 ตัน มูลค่า 179.85 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาคิดเป็นร้อยละ 249.28 และ 177.10 ตามลำดับ และไทยนำเข้าเมล็ดกาแฟ ปริมาณ 21,839.56 ตัน มูลค่า 128.42 ล้านบาท สูงขึ้นจากปริมาณ 9,560.93 ตัน มูลค่า 750.32 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาคิดเป็น ร้อยละ 128.42 และ 101.94 ตามลำดับ สำหรับกาแฟสำเร็จรูปมีการนำเข้าปริมาณ 3,703.30 ตัน มูลค่า 1,105.29 ล้านบาท สูงขึ้นจาก 3,306.50 ตัน และมูลค่า 985.17 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาคิดเป็นร้อยละ 12.00 และ 12.19 ตามลำดับ
กระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา (USDA) รายงานผลผลิตกาแฟโลกปี 2556/57 มีปริมาณ 9.150 ล้านตัน ลดลงจาก 9.259 ล้านตัน ของปี 2555/56 ร้อยละ 1.49 เนื่องจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย และ คาดคะเนว่าจะมีผลผลิต ในปี 2557/58 ประมาณ 8.99 ล้านตัน ลดลง 0.163 ล้านตัน หรือลดลงร้อยละ 1.78
บราซิล ผู้ผลิตกาแฟอันดับ 1 ของโลก ในปี 2556/57 มีผลผลิต ปริมาณ 3.270 ล้านตัน ลดลง 0.186 ล้านตัน ในปี 2555/56 หรือลดลงร้อยละ 2.382 และคาดคะเนว่าจะมีผลผลิต ในปี 2557/58 ประมาณ 3.072 ล้านตัน ลดลง 0.198 ล้านตัน หรือลดลงร้อยละ 6.055
เวียดนาม ผู้ผลิตกาแฟอันดับ 2 ของโลก และเป็นผู้ผลิตกาแฟพันธุ์โรบัสตาอันดับ 1 ของโลก มีผลผลิตกาแฟปี 2556/57 ปริมาณ 1.789 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจาก 0.200 ล้านตัน ในปี 2555/56 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.577 และคาดคะเนว่าจะมีผลผลิต ในปี 2557/58 ประมาณ 1.761 ล้านตัน ลดลง 0.029 ล้านตัน หรือลดลงร้อยละ 1.619
กระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา รายงานความต้องการใช้กาแฟของโลกปี 2556/57 มี 8.545 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจาก 8.518 ล้านตันของปี 2555/56 ร้อยละ 0.312 และคาดคะเนความต้องการใช้กาแฟของปี 2557/58 ว่าจะมีประมาณ 8.858 ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.66
กระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา รายงานการส่งออกกาแฟโลกปี 2556/57 มี 7.143 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจาก 6.992 ล้านตัน ในปี 2555/56 ร้อยละ 2.159 และคาดการณ์ว่า ในปี 2557/58 จะมีการส่งออก ประมาณ 7.195 ล้านตัน หรือสูงขึ้นร้อยละ 0.736 ประเทศที่ส่งออกมากที่สุดได้แก่ บราซิล มีการส่งออกในปี 2556/57 ปริมาณ 2.048 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจาก 1.840 ล้านตัน ของปี 2555/56 ร้อยละ 11.318 เนื่องจากผลผลิตเพิ่มขึ้น รองลงมาได้แก่ ประเทศเวียดนาม มีการส่งออก ปริมาณ 1.607 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจาก 1.479 ล้านตัน ของปี 2555/56 ร้อยละ 0.68 เนื่องจากผลผลิตเพิ่มขึ้น
ผลผลิตกาแฟของโลก ปี 2552/53 - 2557/58
หน่วย : ล้านตัน
ประเทศ 2552/53 2553/54 2554/55 2555/56 2556/57 อัตราเพิ่ม (ร้อยละ) 2557/58* 1 บราซิล 2.688 3.27 2.952 3.456 3.27 4.575 3.072 2. เวียดนาม 1.11 1.165 1.56 1.59 1.79 13.505 1.761 3. อินโดนีเซีย 0.63 0.56 0.498 0.63 0.57 -0.82 0.528 4. โคลัมเบีย 0.486 0.512 0.459 0.596 0.725 9.986 0.75 5. เอธิโอเปีย 0.36 0.368 0.379 0.38 0.381 1.465 0.381 6. อินเดีย 0.29 0.3 0.314 0.318 0.305 1.604 0.306 7. ฮอนดูรัส 0.213 0.239 0.336 0.284 0.264 6.203 0.3 8. เม็กซิโก 0.249 0.24 0.258 0.279 0.228 -0.256 0.234 9. เปรู 0.198 0.246 0.312 0.258 0.255 5.692 0.204 10. กัวเตมาลา 0.241 0.238 0.265 0.241 0.205 -3.063 0.217 19. ไทย 0.051 0.051 0.051 0.051 0.051 0 0.054 อื่นๆ 1.2 1.236 1.25 1.176 0.806 -2.107 1.181 รวม 7.716 8.425 8.634 9.259 9.15 4.449 8.988 หมายเหตุ : * ประมาณการ ที่มา : กระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา (ธันวาคม 2557) www.usda.gov ความต้องการใช้เมล็ดกาแฟของโลก
หน่วย : ล้านตัน
ปี ปริมาณ 2552/53 8.264 2553/54 8.045 2554/55 8.496 2555/56 8.518 2556/57 8.545 อัตราเพิ่ม (ร้อยละ) 1.248 2557/58 8.858 หมายเหตุ * ประมาณการ ที่มา : กระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา (ธันวาคม 2557) www.usda.gov ราคาตลาดในประเทศ
-ไม่มีรายงาน เนื่องจากหมดฤดูกาลผลิต-
ราคาเมล็ดกาแฟดิบอาราบิก้า ตลาดนิวยอร์กซื้อขายทันทีเฉลี่ย 163.33 เซนต์/ปอนด์ (127.83 บาท/กิโลกรัม) ลดลงจาก 163.67 เซนต์/ปอนด์ (127.01 บาท/กิโลกรัม) คิดเป็นร้อยละ0.21
ราคาเมล็ดกาแฟดิบโรบัสตา ตลาดนิวยอร์กซื้อขายทันที่เฉลี่ย 87.63 เซนต์/ปอนด์ (68.58 บาท/กิโลกรัม) ลดลงจาก 88.16 เซนต์/ปอนด์ (68.42 บาท/กิโลกรัม) คิดเป็นร้อยละ 0.60
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ประจำวันที่ 17 - 23 ส.ค. 2558--