สศก. แนะผู้เลี้ยงโคนมพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส

ข่าวทั่วไป Wednesday October 22, 2008 11:24 —สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร

สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร คาดคะเนการผลิตน้ำนมดิบภายในประเทศปี 51 ผลิตได้ 827.5 พันตัน แต่ความต้องการน้ำนมดิบมี 975.6 พันตัน ทำให้เกษตรกรยังมีโอกาสที่จะขยายกำลังการผลิตได้อีก ด้านกระแสสารตกค้างประเภทเมลามีน ปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์นม แนะรณรงค์การดื่มนมสดที่ผลิตเองภายในประเทศเพื่อพลิกวิกฤตเป็นโอกาส

นายมณฑล เจียมเจริญ รองเลขาธิการ และโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากการคาดคะเนน้ำนมดิบที่ผลิตได้ภายในประเทศปี 2551 มีประมาณ 827.5 พันตัน ใกล้เคียงกับปีที่แล้วที่ผลิตได้ 822.2 พันตัน เนื่องจากต้นทุนการผลิตสูงขึ้นทำให้หลายปีที่ผ่านมาเกษตรกรลดการผลิตลง ในขณะที่ความต้องการน้ำนมดิบเพื่อใช้ผลิตนมพร้อมดื่มทั้งหมดมีประมาณ 975.6 พันตัน ซึ่งยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ ดังนั้นจึงต้องใช้นมผงมาผลิตนมพร้อมดื่ม เพื่อทดแทนส่วนที่ขาดหายไป แต่ขณะนี้รัฐบาลได้ปรับราคากลางน้ำนมดิบ ณ ราคาหน้าฟาร์มแล้ว 2 ครั้ง คือ เมื่อเดือนตุลาคม 2550 ปรับจาก กิโลกรัมละ 12.50 บาท เป็น 14.50 บาท และครั้งที่ 2 เมื่อเดือนกรกฎาคม 2551 ปรับเพิ่มเป็น 18.00 บาท ซึ่งน่าจะทำให้เกษตรกรขยายกำลังการผลิตได้เพิ่มขึ้น

ซึ่งจากกระแสสารตกค้างประเภทเมลามีน ปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์นมส่วนผสมของผลิตภัณฑ์นมทุกชนิด ทำให้มีการตรวจสอบผลิตภัณฑ์นม และอาหารที่มีนมเป็นส่วนผสม บางชนิดก็ตรวจไม่พบ บางชนิดมีการปนเปื้อนเล็กน้อย และหลายชนิดที่ถูกห้ามจำหน่าย เนื่องมาจากการนำเข้าหางนมผง และผลิตภัณฑ์จากต่างประเทศ ซึ่งล้วนแล้วแต่มีสารปนเปื้อน ผู้บริโภคจึงระมัดระวังและเลือกการบริโภคสินค้ามากขึ้น และอาจส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำนมดิบภายในประเทศ

หากเป็นเช่นนี้เกษตรกรจะต้องปรับตัวพัฒนาคุณภาพ ประสิทธิภาพน้ำนมดิบให้ดียิ่งขึ้น โดยต้องเน้นเรื่องความสะอาด เช่น การระมัดระวัง การมีน้ำปะปน การใช้ยาปฏิชีวนะ และการดูแลรักษา เป็นต้น เพื่อไม่ให้มีสารตกค้าง อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสารปนเปื้อนจะไม่พบในผลิตภัณฑ์ที่ทำจากน้ำนมดิบ แต่ผู้บริโภคก็เกิดความลังเลในการบริโภค อาจทำให้เกิดวิกฤตน้ำนมดิบล้นตลาดได้ โดยเฉพาะช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอม ควรรณรงค์การดื่มนมสดที่ผลิตเองภายในประเทศ เร่งให้ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ ใช้น้ำนมดิบเป็นส่วนผสมนมและผลิตภัณฑ์ต่างๆ ภายในประเทศให้มากขึ้น แทนการนำเข้าจากต่างประเทศ ขณะเดียวกันก็เร่งให้เกษตรกรทำมาตรฐานฟาร์มควบคุมการผลิตให้ดียิ่งขึ้น นายมณฑล กล่าวทิ้งท้าย

--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--

-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ