สศก.ลงพื้นที่ติดตามงานระบบชลประทานน้ำเค็มเพื่อการเลี้ยงกุ้งทะเล

ข่าวทั่วไป Thursday February 26, 2009 13:40 —สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร

สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ล่องใต้ลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ติดตามระบบชลประทานน้ำเค็มเพื่อการเลี้ยงกุ้งทะเล พบเกษตรกรมีการรวมกลุ่มบริหารงานกันเอง ชี้ยังคงพบปัญหาเดิมในเรื่องของต้นทุนการผลิตสูงแต่ราคาขายค่อนข้างต่ำ

นางนารีณัฐ รุณภัย รองเลขาธิการและรองโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า สศก. ได้ทำการติดตามงานการผลิตสินค้าเกษตรที่ได้รับการส่งเสริมและพัฒนา กิจกรรมระบบชลประทานน้ำเค็มเพื่อการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ซึ่งเป็นการจัดระบบชลประทานน้ำเค็มเพื่อการเลี้ยงกุ้งทะเลอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการเพื่อลดปัญหามลภาวะด้านสิ่งแวดล้อมจากการปล่อยน้ำเสียจากนากุ้ง โดยจะทำการสูบน้ำที่สะอาดจากบริเวณชายฝั่งและการบำบัดน้ำเสียจากการเลี้ยงก่อนจะทำการปล่อยลงสู่ทะเล

จากการติดตามงานโครงการดังกล่าวที่บ้านหน้าโกฎิ ตำบลขนาบนาก อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งทางกรมประมงได้ดำเนินการก่อสร้างระบบชลประทานน้ำเค็มเพื่อการเพาะเลี้ยงกุ้งทะเลในพื้นที่ดังกล่าวเมื่อปี 2536 พื้นที่ครอบลุม 1,216 ไร่ มีจำนวนเกษตรกรทั้งหมด 196 ครัวเรือน พบว่า เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งได้มีการรวมกลุ่มเพื่อทำการบริหารกันเองภายในกลุ่ม เช่น การบริการสูบน้ำทะเลในแต่ละเดือน เกษตรกรจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการสูบน้ำเอง เนื่องจากทางภาครัฐมีงบประมาณในการสนับสนุนในด้านการบริการสูบน้ำในแต่ละเดือนไม่เพียงพอต่อความต้องการของเกษตรกร

สำหรับการเลี้ยงสัตว์น้ำประเภทใดนั้นขึ้นอยู่กับทุนทรัพย์ของผู้เลี้ยง เช่น เกษตรกรที่มีรายได้เฉลี่ย 119,000 บาทต่อรุ่น ส่วนใหญ่จะเลี้ยงกุ้งขาวแวนนาไม และจะเช่าพื้นที่ในการเลี้ยงกุ้ง ในขณะที่บางรายมีทุนน้อย มีรายได้อยู่ที่ 9,500 บาทต่อเดือน จะเลี้ยงปลากะพงขาวและปูดำในพื้นที่ของตนเอง เพราะเป็นการลงทุนที่ไม่มากนัก ซึ่งกิจกรรมระบบชลประทานน้ำเค็มเพื่อการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำนี้ จะส่งผลดีต่อเกษตรกรที่มีทุนทรัพย์มาก ช่วยลดต้นทุนในการบำบัดน้ำ และลูกกุ้งมีการเจริญเติบโตดี เพราะเกษตรกรมีเงินทุนในการดำเนินการเพียงพอ โดยกรมประมงยังได้มีการสุ่มตรวจสอบคุณภาพน้ำเป็นระยะอย่างสม่ำเสมอ ส่วนเกษตรกรรายย่อยที่มีเงินทุนน้อยก็ยังคงประสบปัญหาต้นทุนการผลิตสูง แต่ราคาที่เกษตรกรขายได้ค่อนข้างต่ำ จึงทำให้เกษตรกรต้องหันมาเลี้ยงปลากะพงและปูดำแทน นางนารีณัฐ กล่าว

--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--

-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ