1. สถานการณ์การผลิต การตลาดและราคาในประเทศ
การผลิต
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา(18 — 24 ก.ค. 2552) สัตว์น้ำทุกชนิดส่งเข้าประมูลจำหน่ายที่องค์การสะพานปลากรุงเทพฯ มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 873.80 ตัน แยกเป็นสัตว์น้ำเค็ม 521.34 ตัน สัตว์น้ำจืด 352.46 ตัน ประกอบด้วย สัตว์น้ำที่สำคัญ ได้แก่
1.1 ปลาดุก ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 2.50 ตัน
1.2 ปลาช่อน ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 4.17 ตัน
1.3 กุ้งทะเล ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 113.20 ตัน
1.4 ปลาทู ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 11.03 ตัน
1.5 ปลาหมึก ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 70.00 ตันการตลาด
ประมงดันมาตรฐานจีเอพีพลัสหนุนเลี้ยงกุ้ง
นายพุทธ ส่องแสงจินดา หัวหน้าสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง จังหวัดตรังเปิดเผยในการสัมมนา เรื่อง จีเอพีพลัส (GAP plus) เครื่องมือในการแข่งขัน เพื่อฝ่าฟันสู้ตลาดโลกว่า เพื่อความเชื่อมั่นให้กับกุ้งไทยมากยิ่งขึ้น กรมประมงกำลังปรับปรุงมาตรฐานการปฏิบัติที่ดีในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำหรือจีเอพีใหม่ หรือจีเอพีพลัส เบื้องต้นร่างมาตรฐานนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ(มกอช.)คาดว่าจะประกาศใช้ในเดือนกันยายนนี้ มาตรฐานจีเอพีใหม่ ประกอบด้วยหลักปฏิบัติที่ดี 5 ด้าน คือ
1. การปฏิบัติ ที่ดีด้านอาหารปลอดภัยและคุณภาพการผลิต ผู้เลี้ยงกุ้งต้องเข้มงวดต่อเงื่อนไขการปฏิบัติอย่างเหมาะสมและให้สอดคล้องกับข้อกำหนดมาตรฐานสากล เช่น การใช้ยาและสารเคมีอย่างมีความรับผิดชอบ
2. ความรับผิดชอบกับสิ่งแวดล้อม จะครอบคลุมถึงความหลากหลายทางชีวภาพ ถิ่นที่อยู่ และระบบนิเวศน์ ความหลากหลายทางพันธุกรรม ผลกระทบต่อคุณภาพดินและอากาศ โดยต้องมีพื้นที่ที่เหมาะสมกับการเลี้ยง น้ำทิ้งหรือตะกอนเลนต้องได้รับการบำบัด
3. ความรับผิดชอบต่อสังคม การเลี้ยงกุ้งจะต้องเป็นประโยชน์ต่อคนงาน ท้องถิ่น และประเทศ มีส่วนร่วมในการพัฒนาชนบท แก้ไขความยากจน
4.การปฏิบัติการที่ดีด้านสวัสดิภาพและสุขภาพสัตว์เลี้ยง ผู้เลี้ยงต้องมีความมั่นใจว่ากุ้งที่เลี้ยงได้รับการจัดการป้องกันและแก้ไขเป็นอย่างดี และ
5. สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ พื้นที่เลี้ยงกุ้งทุกฟาร์มจะต้องจดบันทึกข้อมูลประจำวัน เพื่อตรวจสอบกระบวนการผลิตทุกขั้นตอน
นายนิวัติ สุธีมีชัยกุล ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า ผู้นำเข้ากุ้งของไทยระบุว่าไทยมีการเลี้ยงที่หนาแน่นเกินไป ต้องใช้ยาและสารเคมีในปริมาณมาก เพื่อให้กุ้งอยู่รอด แม้ว่ากรมประมงจะชี้แจงถึงระบบการจัดการฟาร์ม มีการถ่ายเทน้ำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเลี่ยงการใช้ยา แต่ก็ไม่ได้รับความเชื่อมั่น ดังนั้น การปรับปรุงมาตรฐานจีเอพีครั้งนี้จะระบุการเลี้ยงกุ้งต่อบ่อที่เหมาะสม การเลี้ยงทุกขั้นตอนต้องจดบันทึกรายละเอียด หากพบว่ามีสารตกค้าง ไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคม กรมประมงจะไม่ออกใบรับรองให้เด็ดขาด
ความเคลื่อนไหวของราคาสัตว์น้ำที่สำคัญประจำสัปดาห์นี้มีดังนี้ คือ
2.1 ปลาดุกบิ๊กอุย ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 40.40 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 41.68 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 1.28 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ ไม่มีรายงานราคาจากองค์การสะพานปลากรุงเทพฯ
2.2 ปลาช่อน ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 65.17 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 64.68 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 0.49 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯเฉลี่ยกิโลกรัมละ 110.71 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 120.00 บาท ของสัปดาห์ก่อน 9.29 บาท
2.3 กุ้งกุลาดำ ราคาที่ชาวประมงขายได้ขนาดกลาง (51-60 ตัว/กก.) สัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคา
สำหรับราคา ณ ตลาดกลางกุ้งสมุทรสาครขนาดกลาง (60 ตัว/กก.) สัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคา
2.4 กุ้งขาวแวนนาไม ราคาที่ชาวประมงขายได้ขนาดกลาง (51-60 ตัว/กก.) เฉลี่ยกิโลกรัมละ 105.52 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 105.39 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 0.13 บาท
สำหรับราคา ณ ตลาดกลางกุ้งสมุทรสาครขนาดกลาง (60ตัว/กก.) เฉลี่ยกิโลกรัมละ 110.00 บาททรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
2.5 ปลาทู ปลาทูสดขนาดกลาง ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 54.17 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 60.71 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 60.00 บาท ของสัปดาห์ก่อน 0.71 บาท
2.6 ปลาหมึก ราคาปลาหมึกกระดองสดที่ชาวประมงขายได้ ไม่มีรายงานราคา
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 120.00 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 128.75 บาท ของสัปดาห์ก่อน 8.75 บาท
2.7 ปลาเป็ดและปลาป่น ราคาปลาเป็ดที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 8.02 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
สำหรับราคาขายส่งปลาป่นชนิดโปรตีนต่ำกว่า 60%(ระหว่างวันที่ 8 - 14 ส.ค. 2552) เฉลี่ยกิโลกรัมละ 35.17 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 35.70 ของสัปดาห์ก่อน 0.53 บาท
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ประจำวันที่ ข่าวสัปดาห์ 10 - 16 สิงหาคม 2552--