สรุปภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไตรมาสที่ 1 ปี 2556 (มกราคม — มีนาคม 2556)(อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม)

ข่าวเศรษฐกิจ Monday May 27, 2013 14:56 —สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม

ปัจจุบันผู้ประกอบการอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มต้องเผชิญหลาย ๆ ปัญหาทั้งขาดแคลนแรงงาน การแข็งค่าของเงินบาท และค่าจ้างขั้นต่ำปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการต้องย้ายฐานหรือขยายฐานการลงทุนไปยังประเทศเพื่อนบ้านที่ต้นทุนด้านแรงงานต่ำกว่า และไม่เกิดปัญหา

ขาดแคลนแรงงาน เช่น กัมพูชา เมียนมาร์ ลาว อินโดนีเซีย เป็นต้น สำหรับเงินบาทที่แข็งค่ามาก ได้ส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกของไทยในขณะนี้ ซึ่งอีกด้านหนึ่งเป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการสามารถนำเข้าสินค้าวัตถุดิบกึ่งสำเร็จรูป และสำเร็จรูปจากต่างประเทศในราคาที่ถูกลง ทั้งนี้ หากสถานการณ์เงินบาท ยังแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง อาจมีผลให้เกิดการนำเข้าที่เพิ่มขึ้น และจะสง่ ผลกระทบต่อระบบห่วงโซ่การผลิตในอุตสาหกรรมต้นน้ำ และกลางน้ำของไทยในหลายอุตสาหกรรมรวมถึงอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ พิจารณาได้จากเริ่มมีการนำเข้าวัตถุดิบ และสินค้ากึ่งสำเร็จรูปจากต่างประเทศมากขึ้น

การผลิตและการจำหน่าย

กลุ่มสิ่งทอ ในไตรมาส 1 ปี 2556 เมื่อพิจารณาจากดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม การผลิตเส้นใยสิ่งทอรวมทั้งการทอสิ่งทอ มีการผลิตใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.85 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน สอดคล้องกับการจำหน่ายที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.85 และ 9.75 ตามลำดับ จากความต้องการของตลาดภายในประเทศ ประกอบกับคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นจากต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มอาเซียนและญี่ปุ่น ที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนการส่งออกสิ่งทอในระยะต่อไป

กลุ่มเครื่องนุ่งห่ม ในไตรมาส 1 ปี 2556 การผลิตผ้าที่ได้จากการถักนิตติ้งและโครเชท์(เสื้อผ้าสำเร็จรูปผลิตจากผ้าถัก) ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนและไตรมาสเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 14.81 และ 0.97 ตามลำดับ สอดคล้องกับการจำหน่ายที่เพิ่มขึ้น ร้อยละ 16.65 และ 3.41 ตามลำดับสำหรับการผลิตเครื่องแต่งกายยกเว้นเครื่องแต่งกายที่ผลิตจากขนสัตว์ (เสื้อผ้าสำเร็จรูปผลิตจากผ้าทอ) ดัชนีปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 1.38 และ 14.33ตามลำดับ สอดคล้องกับการจำหน่ายที่ปรับตัวลดลงเช่นเดียวกันร้อยละ 1.72 และ 13.17 ตามลำดับ เนื่องจากมีคำสั่งซื้อลดลงของกลุ่มสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นตลาดหลัก ประกอบกับความผันผวนของค่าเงินบาทในครึ่งปีหลังเมื่อเทียบกับค่าเงินเหรียญสหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก ปัจจัยเหล่านี้ล้วนกระทบต่อคำสั่งซื้อสินค้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มในภาพรวม

การตลาด

การค้าระหว่างประเทศ

การส่งออก

ไตรมาส 1 ปี 2556 อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม มีมูลค่าการส่งออก 1,841.29 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.72 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.10 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากคำสั่งซื้อทั้งจากตลาดเอเซียและอาเซียนที่ขยายตัว โดยเฉพาะจากญี่ปุ่น จีน อินโดนีเซีย เวียดนาม และ บังคลาเทศ เพื่อนำไปผลิตและส่งออกไปตลาดอื่น ๆ โดยผลิตภัณฑ์สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มส่งออกที่สำคัญ ได้แก่

1. กลุ่มสิ่งทอ มีมูลค่าการส่งออก 1,139.74 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.02 เมื่อเทียบกับไตรมาก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.37 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสิ่งทอ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 61.90 ของการส่งออกสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มทั้งหมด สำหรับ การส่งออกในผลิตภัณฑ์ที่สำคัญ มีดังนี้

1.1 ผ้าผืนและด้าย ไตรมาส 1 ปี 2556 มีมูลค่าการส่งออก 621.14 ล้านเหรียญสหรัฐฯเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.58 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.92 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ประกอบด้วย ผ้าผืน มีมูลค่าการส่งออก 391.07 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 62.96 และด้ายและเส้นใยประดิษฐ์ มีมูลค่าการส่งออก 230.07 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 37.04 โดยตลาดส่งออกหลัก คือ เวียดนาม จีน และ บังคลาเทศ

1.2 เคหะสิ่งทอ ไตรมาส 1 ปี 2556 มีมูลค่าการส่งออก 78.07 ล้านเหรียญสหรัฐฯลดลงร้อยละ 6.15 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน แต่เพิ่มขึ้นร้อยละ 23.27 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยตลาดส่งออกหลัก คือ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และสหรัฐอเมริกา

1.3 เส้นใยประดิษฐ์ ไตรมาส 1 ปี 2556 มีมูลค่าการส่งออก 208.25 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.52 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน แต่ลดลงร้อยละ 2.98 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยตลาดส่งออกหลัก คือ อินโดนีเซีย เวียดนาม และจีน 1.4 สิ่งทออื่น ๆ ไตรมาส 1 ปี 2556 มีมูลค่าการส่งออก 152.03 ล้านเหรียญสหรัฐฯเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.44 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.45 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยตลาดส่งออกหลัก คือ ญี่ปุ่น จีน และ อินโดนีเซีย

2. กลุ่มเครื่องนุ่งห่ม ไตรมาส 1 ปี 2556 มีมูลค่าการส่งออก 701.55 ล้านเหรียญสหรัฐฯลดลงร้อยละ 0.31 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และลดลงร้อยละ 6.43 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเครื่องนุ่งห่ม คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 38.10 ของการส่งออกสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มทั้งหมด สำหรับการส่งออกผลิตภัณฑ์สำคัญ มีดังนี้

2.1 เสื้อผ้าสำเร็จรูป มีมูลค่าการส่งออก 599.01 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 0.86 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และลดลงร้อยละ 6.43 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยเสื้อผ้าสำเร็จรูปมีมูลค่าการส่งออกคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 85.38 ของมูลค่าการส่งออกเครื่องนุ่งห่มทั้งหมด สำหรับ ตลาดส่งออกหลัก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป ซึ่งมีมูลค่าการส่งออกลดลง เนื่องจากการ ชะลอตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป ส่งผลให้มีคำสั่งซื้อลดลง

การนำเข้า

ไตรมาส 1 ปี 2556 มีการนำเข้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มคิดเป็นมูลค่า 1,071.00 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงร้อยละ 0.06 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และลดลงร้อยละ 7.07 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าส่วนใหญ่จะเป็นสิ่งทอต้นน้ำที่เป็นวัตถุดิบเพื่อใช้ในการผลิตสินค้าสำเร็จรูป ซึ่งผลิตภัณฑ์นำเข้าที่สำคัญ แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้

1. กลุ่มสิ่งทอ มีมูลค่าการนำเข้า (ด้ายและเส้นใย ผ้าผืน และผลิตภัณฑ์สิ่งทออื่น ๆ) รวมทั้งสิ้น 914.59 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 1.14 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และลดลงร้อยละ 10.22เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยมูลค่าการนำเข้าในกลุ่มนี้ คิดเป็นสัดส่วนการนำเข้าถึงร้อยละ 85.40 ของมูลค่าการนำเข้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มทั้งหมด ซึ่งผลิตภัณฑ์สำคัญที่นำเข้า มีดังนี้

1.1 เส้นใยที่ใช้ในการทอ มีมูลค่านำเข้า 238.84 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.33 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน แต่ลดลงร้อยละ 14.56 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยตลาดนำเข้าสำคัญในไตรมาสนี้ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และ บราซิล

1.2 ด้ายทอผ้าฯ มีมูลค่านำเข้า 181.70 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 3.10 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และลดลงร้อยละ 11.16 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยตลาดนำเข้าที่สำคัญในไตรมาสนี้ ได้แก จีน ญี่ปุน่ และ อินโดนีเซีย

1.3 ผ้าผืน มีมูลค่านำเข้า 419.63 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 5.91 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และลดลงร้อยละ 8.86 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยตลาดนำเข้าสำคัญในไตรมาสนี้ ได้แก่ จีน ไต้หวัน และ เกาหลีใต้1.4 ผลิตภัณฑ์สิ่งทออื่นๆ มีมูลค่านำเข้า 89.02 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 18.28 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และลดลงร้อยละ 4.99 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยตลาดนำเข้าสำคัญ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น และไต้หวัน

2. กลุ่มเสื้อผ้าสำเร็จรูป มีมูลค่าการนำเข้าทั้งสิ้น 156.41 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.79 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.95 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนโดยมูลค่าการนำเข้าเสื้อผ้าสำเร็จรูป คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 14.60 ของการนำเข้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มทั้งหมด สำหรับตลาดนำเข้าหลัก ได้แก่ จีน เวียดนาม และ บังคลาเทศ

นโยบายภาครัฐที่เกี่ยวข้อง

การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ทั่วประเทศตั้งแต่ต้นปี 2556 ที่ผ่านมา เริ่มส่งผลกระทบที่ขยายวงกว้างต่ออุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้น จึงมีแนวโน้มที่ผู้ประกอบการบางรายจะต้องปรับปรุงกิจการ รวมถึงการย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อลดปัญหาขาดแคลนแรงงานและเพื่อให้ได้ความได้เปรียบด้านต้นทุนแรงงานที่ต่ำกว่า ซึ่งจะเป็นการรักษาขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมดังกล่าวในระยะต่อไป นอกจากนี้การแข็งค่าของเงินบาทจะกระทบต่อการตัดสินใจรับคำสั่งซื้อของผู้ประกอบการไทย ปัจจุบันผู้ประกอบการหลายรายต้องชะลอการรับคำสั่งซื้อจากต่างประเทศ ซึ่งอาจมีผลต่อการตัดสินใจขยายการลงทุนในธุรกิจสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มใน ประเทศ

สรุปและแนวโน้ม

สรุป

กลุ่มสิ่งทอ การผลิต การส่งออกผลิตภัณฑ์สิ่งทอในไตรมาส 1 ปี 2556 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนและไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้น เนื่องจากฐานการผลิตที่ต่ำในปีที่ผ่านมา ประกอบกับมีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นจากตลาดเอเซียและอาเซียน โดยเฉพาะจากญี่ปุ่น จีน อินโดนีเซีย เวียดนาม และ บังคลาเทศส่งผลให้การผลิตผลิตภัณฑ์สิ่งทอเพิ่มสูงขึ้นกลุ่มเครื่องนุ่งห่ม การผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปจากผ้าถักเพิ่มขึ้น เนื่องจากในปีที่ผ่านมาเกิดวิกฤตน้ำท่วม ทำให้ฐานการผลิตต่ำ ในขณะที่การผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูป ที่ผลิตจากผ้าทอลดลง เนื่องจากคำสั่งซื้อของกลุ่มสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นตลาดส่งออกหลักลดลง อย่างไรก็ตามมีการนำเข้าเสื้อผ้าสำเร็จรูปเพิ่มขึ้น จากจีน เวียดนาม และ บังคลาเทศ ในรูปเสื้อผ้าสำเร็จรูปราคาถูกสำหรับตลาดระดับล่าง

แนวโน้ม

แนวโน้มการผลิตและการส่งออกสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มในไตรมาส 2 ปี 2556 คาดว่าจะขยายตัวได้ในส่วนของเส้นใยสิ่งทอและผ้าผืน เพื่อสนองความต้องการโดยเฉพาะผู้ผลิตในกลุ่มประเทศอาเซียน ส่วนเสื้อผ้าสำเร็จรูปอาจชะลอตัว จากการแข็งค่าของเงินบาทในช่วงไตรมาสที่ 2 ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่บั่นทอนความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไทยในช่วงครึ่งปีหลังโดยเฉพาะกลุ่ม SMEs ที่ผู้ประกอบการจะต้องเน้นกลยุทธ์การเจรจาต่อรองราคา เพื่อให้สามารถรองรับความเสี่ยงจากการผันผวนของค่าเงิน ประกอบกับยังต้องเผชิญกับต้นทุนการผลิตสินค้าที่ปรับเพิ่มขึ้นอยู่ก่อนแล้วจากการปรับขึ้นค่าจ้างแรงงาน ราคาวัตถุดิบ ค่าขนส่ง และโลจิสติกส์ รวมถึงการชะลอตัวของคำสั่งซื้อจากกลุ่มสหภาพยุโรปซึ่งเป็นตลาดหลัก อาจส่งผลให้การส่งออกเครื่องนุ่งห่มในภาพรวมอยู่ในระดับที่ทรงตัว

--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ