สรุปภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไตรมาสที่ 3 ปี 2556 (กรกฎาคม – กันยายน 2556)(อุตสาหกรรมรองเท้าและผลิตภัณฑ์หนัง)

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday November 27, 2013 14:00 —สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม

การผลิตและการส่งออกสินค้ารองเท้าและชิ้นส่วน ไตรมาส 3 ปี 2556 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ปรับตัวลดลง เนื่องจากอุปสงค์ภายในประเทศลดลงจากค่าครองชีพ และภาระหนี้ภาคครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่ภาวะเศรษฐกิจยังชะลอตัว ทำให้ประชาชนประหยัดค่าใช้จ่ายสินค้าฟุ่มเฟือยลง ประกอบกับยอดคำสั่งซื้อจากต่างประเทศลดลง

จากความไม่เชื่อมั่นในภาวะเศรษฐกิจโลก รวมถึงการย้ายฐานการผลิตของอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้นไปยังประเทศที่มีขีดความสามารถในการแข่งขันด้านต้นทุนที่มีศักยภาพกว่า

การผลิต

ในช่วงไตรมาส 3 ปี 2556 ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมรองเท้าและผลิตภัณฑ์หนัง จำแนกได้ ดังนี้

1. การฟอกและการตกแต่งหนังฟอก ดัชนีผลผลิตไตรมาส 3 ปี 2556 เทียบกับ ไตรมาสก่อน และไตรมาสเดียวกันของปีก่อน มีปริมาณลดลง ร้อยละ 0.74 และ 0.89 ตามลำดับ โดยดัชนีการส่งสินค้าเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ร้อยละ 0.41 แต่เมื่อเทียบไตรมาสเดียวกันของปีก่อนลดลง ร้อยละ 0.29 เป็นผลจากการที่ดัชนีสินค้าสำเร็จรูปคงคลังเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้น ร้อยละ 1.36 และ 7.71 ตามลำดับ

2. การผลิตกระเป๋าเดินทางกระเป๋าถือและสิ่งที่คล้ายกัน อานม้าและเครื่องเทียมลาก ดัชนีผลผลิตไตรมาส 3 ปี 2556 เทียบกับไตรมาสก่อนเพิ่มขึ้น ร้อยละ 14.18 แต่เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน มีปริมาณการผลิตลดลง ร้อยละ 6.58 โดยดัชนีการส่งสินค้าเทียบกับไตรมาสก่อนเพิ่มขึ้น ร้อยละ 9.89 แต่เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนลดลง ร้อยละ 7.93 ในส่วนดัชนีสินค้าสำเร็จรูปคงคลังเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนเพิ่มขึ้น ร้อยละ 4.94 แต่เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนลดลง ร้อยละ 7.71

3. การผลิตรองเท้า ดัชนีผลผลิตไตรมาส 3 ปี 2556 เทียบกับไตรมาสก่อน และ ไตรมาสเดียวกันของปีก่อน มีปริมาณการผลิตลดลง ร้อยละ 2.34 และ 11.38 ตามลำดับ มีผลให้ดัชนีการส่งสินค้าเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และไตรมาสเดียวกันของปีก่อนลดลง ร้อยละ 12.73 และ 9.35 ตามลำดับ ส่งผลให้ดัชนีสินค้าสำเร็จรูปคงคลังเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้น ร้อยละ 1.85 และ 6.52 ตามลำดับ

การตลาดและการจำหน่าย

การค้าระหว่างประเทศ

การส่งออก

ในช่วงไตรมาส 3 ปี 2556 อุตสาหกรรมรองเท้าและผลิตภัณฑ์หนัง มีมูลค่าการส่งออกรวมทั้งสิ้น 427.29 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง ร้อยละ 8.40 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน แต่เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้น ร้อยละ 1.42 ประกอบด้วย 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์สำคัญ ดังนี้

1. หนังและผลิตภัณฑ์หนังฟอกและหนังอัด ไตรมาส 3 ปี 2556 มีมูลค่าการส่งออก 184.61 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2556 มีมูลค่า 192.85 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง ร้อยละ 4.27 เป็นผลจากมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์หนังโคกระบือฟอก ซึ่งเป็นสินค้าสำคัญปรับตัวลดลง ร้อยละ 17.94 สำหรับผลิตภัณฑ์ของเล่นสำหรับสัตว์เลี้ยงถุงมือหนัง และเครื่องแต่งกายและเข็มขัด หนังและผลิตภัณฑ์หนังอื่น ๆ มีมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้น ร้อยละ 15.33 4.54 45.99 และ 5.71 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน มูลค่าการส่งออกหนังและผลิตภัณฑ์หนังฟอกและ หนังอัด ปรับตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 13.01 ซึ่งเป็นผลจากการส่งออกถุงมือหนัง เครื่องแต่งกายและเข็มขัด และหนังและผลิตภัณฑ์หนังอื่น ๆ มีมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้น ร้อยละ 24.87 37.03 และ 24.81 ตามลำดับ ตามความต้องการในกลุ่มประเทศเอเซียและอาเซียน สำหรับผลิตภัณฑ์หนังโคกระบือฟอก และของเล่นสำหรับสัตว์เลี้ยงลดลง ร้อยละ 1.06 และ 7.05 ตามลำดับ โดยตลาดคู่ค้าสำคัญของกลุ่มหนังและผลิตภัณฑ์หนังฟอกและหนังอัด ได้แก่ ฮ่องกง เวียดนาม และจีน มีสัดส่วนร้อยละ 19.16 15.12 และ 14.69 ตามลำดับ

2. เครื่องใช้สำหรับเดินทาง ไตรมาส 3 ปี 2556 มีมูลค่าส่งออก 77.55 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2556 มีมูลค่า 73.07 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 6.14 ซึ่งเป็นผลจากการส่งออกในผลิตภัณฑ์ประเภทกระเป๋าถือ กระเป๋าใส่เศษสตางค์ และเครื่องเดินทางอื่น ๆ มีมูลค่าเพิ่มขึ้น ร้อยละ 7.72 21.67 และ 14.63 ตามลำดับ สำหรับผลิตภัณฑ์ กระเป๋าเดินทาง มีมูลค่าลดลง ร้อยละ 8.43 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน มูลค่าการส่งออกเครื่องใช้สำหรับเดินทาง ปรับตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 4.38 ซึ่งเป็นผลจากการส่งออกผลิตภัณฑ์ประเภทกระเป๋าถือ และกระเป๋าใส่เศษสตางค์ ขยายตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 6.84 และ 35.84 ตามลำดับ สำหรับผลิตภัณฑ์กระเป๋าเดินทาง และเครื่องเดินทางอื่น ๆ ปรับตัวลดลง ร้อยละ 2.27 และ 5.59 ตามลำดับ โดยตลาดคู่ค้าสำคัญของกลุ่มเครื่องใช้สำหรับเดินทาง ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และสวิตเซอร์แลนด์ มีสัดส่วน ร้อยละ 26.55 12.53 และ 8.29 ตามลำดับ

3. รองเท้าและชิ้นส่วน ไตรมาส 3 ปี 2556 มีมูลค่าการส่งออก 165.12 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2556 มีมูลค่า 200.57 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง ร้อยละ 17.67 ซึ่งเป็นผลจากการส่งออกในผลิตภัณฑ์สำคัญลดลง ได้แก่ รองเท้าหนัง รองเท้าแตะ และรองเท้าอื่น ๆ ลดลง ร้อยละ 9.03 45.62 และ 16.48 ตามลำดับ สำหรับรองเท้ากีฬา และส่วนประกอบของรองเท้า มูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้น ร้อยละ 50.40 และ 1.21 ตามลำดับ

เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน มูลค่าการส่งออกรองเท้าและชิ้นส่วน ปรับตัวลดลง ร้อยละ 10.09 ซึ่งเป็นผลจากมูลค่าการส่งออกในเกือบทุกผลิตภัณฑ์ ได้แก่ รองเท้ากีฬา รองเท้าแตะ รองเท้าหนัง และส่วนประกอบของรองเท้า ลดลง ร้อยละ 39.99 11.20 6.61 และ 31.23 ตามลำดับ เนื่องจากผู้ประกอบการอุตสาหกรรมรองเท้ารายใหญ่ของไทย ได้มีการตัดสินใจขยายการลงทุนไปยังประเทศเพื่อนบ้านโดยเฉพาะกัมพูชา พม่า และลาว จากปัญหาต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นและการขาดแคลนแรงงาน อีกทั้งเจ้าของลิขสิทธิ์รองเท้ากีฬายี่ห้อดัง ๆ เช่น NIKE เริ่มยกเลิกคำสั่งซื้อจากประเทศไทย เพราะผู้ประกอบการไทยเริ่มปฏิเสธคำสั่งซื้อหรือตกลงราคากันไม่ได้ ส่งผลให้ชาวต่างชาติหันไปสั่งซื้อรองเท้ากีฬาจากเวียดนาม อินโดนีเซียและบังกลาเทศแทน

เนื่องจากมีต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่าไทยมาก ในส่วนการส่งออกรองเท้าอื่น ๆ ยังขยายตัวได้ ร้อยละ 7.07 สำหรับตลาดคู่ค้าสำคัญของกลุ่มรองเท้าและชิ้นส่วน คือ สหรัฐอเมริกา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเดนมาร์ก มีสัดส่วนร้อยละ 13.92 8.42 และ 6.59 ตามลำดับ

การนำเข้า

ในช่วงไตรมาส 3 ปี 2556 อุตสาหกรรมรองเท้าและผลิตภัณฑ์หนัง มีมูลค่าการนำเข้าทั้งสิ้น 338.48 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 2.50 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนและร้อยละ 13.48 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ประกอบด้วย 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์สำคัญ ดังนี้

1. หนังดิบและหนังฟอก ไตรมาส 3 ปี 2556 มีมูลค่าการนำเข้า 184.71 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนลดลง ร้อยละ 1.03 เป็นไปในทิศทางเดียวกับการผลิตเพื่อการส่งออกที่ลดลง แต่เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนปรับตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 12.22 เนื่องจากมีการนำเข้าเพื่อนำมาผลิตสินค้าปลายน้ำภายในประเทศ เช่น รองเท้า กระเป๋า เฟอร์นิเจอร์หนัง และเบาะหนัง ตามการขยายตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ รวมถึงการฟอกหนังเพื่อการส่งออก โดยแหล่งนำเข้าหนังดิบและหนังฟอกที่สำคัญ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา บราซิลและอาร์เจนตินา มีสัดส่วนร้อยละ 14.24 11.60 และ 9.97 ตามลำดับ

2. กระเป๋า ไตรมาส 3 ปี 2556 มีมูลค่าการนำเข้า 85.47 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ปรับตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 9.14 และ 9.38 ตามลำดับ ซึ่งเป็นผลจากการนำเข้าผลิตภัณฑ์ ประเภท กระเป๋าถือและกระเป๋าอื่น ๆ ขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยแหล่งนำเข้าสำคัญ ได้แก่ จีน อิตาลี และฝรั่งเศส มีสัดส่วนร้อยละ 48.12 21.25 และ 15.61 ตามลำดับ

3. รองเท้า ไตรมาส 3 ปี 2556 มีมูลค่าการนำเข้า 68.30 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ปรับตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 4.65 และ 23.00 ตามลำดับ ซึ่งเป็นผลจากการนำเข้าผลิตภัณฑ์ ประเภทรองเท้ากีฬา และรองเท้าหนัง ขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยแหล่งนำเข้าสำคัญ ได้แก่ จีน เวียดนาม และอิตาลี มีสัดส่วนร้อยละ 53.70 12.58 และ 9.35 ตามลำดับ

นโยบายภาครัฐที่เกี่ยวข้อง

1. นโยบายการปรับค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำ 300 บาท ทั่วประเทศ เริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2556 ส่งผลให้ผู้ประกอบการรองเท้าและผลิตภัณฑ์หนังซึ่งส่วนใหญ่เป็นธุรกิจ SMEs ต้องปรับตัวทั้งกลยุทธ์ด้านการผลิตและการตลาดเพื่อรักษาขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมได้อย่างต่อเนื่อง

2. นโยบายรถคันแรกของภาครัฐที่ประกาศใช้ตั้งแต่ปี 2555 ซึ่งผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมยานยนต์ยังส่งมอบรถยนต์ไม่แล้วเสร็จ ต่อเนื่องมาจนถึงปี 2556 จึงยังส่งผลต่อความต้องการใช้หนังฟอกในชิ้นส่วนของรถยนต์อย่างต่อเนื่อง

สรุปและแนวโน้ม

สรุป

ภาวะการผลิตอุตสาหกรรมรองเท้าและผลิตภัณฑ์หนัง ไตรมาส 3 ปี 2556 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เริ่มชะลอตัว ได้แก่ การฟอกและตกแต่งหนังฟอก ผลิตลดลงเนื่องจากปริมาณสินค้าคงค้างในสต๊อกมีจำนวนมาก และสินค้าต่อเนื่องที่ใช้หนังฟอกเป็นวัตถุดิบในการผลิต เช่น รองเท้า กระเป๋า เป็นต้น มีทิศทางการผลิตที่ลดลง สำหรับการผลิตรองเท้าปรับตัวลดลงเช่นกัน เนื่องจากอุปสงค์ภายในประเทศลดลงจากค่าครองชีพ และภาระหนี้ภาคครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่ภาวะเศรษฐกิจยังชะลอตัว ทำให้ประชาชนประหยัดค่าใช้จ่ายสินค้าฟุ่มเฟือยลง ในส่วนการผลิตกระเป๋าเดินทาง กระเป๋าถือและสิ่งที่คล้ายกัน อานม้าและเครื่องเทียมลาก เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน มีการผลิตที่ลดลง จากการชะลอตัวลงตามแนวโน้มอุปสงค์ในตลาดโลก

การส่งออก ในช่วงไตรมาส 3 ปี 2556 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ชะลอตัวลงในผลิตภัณฑ์หนังและผลิตภัณฑ์หนังฟอกและหนังอัด สำหรับสินค้ารองเท้าและชิ้นส่วน เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และไตรมาสเดียวกันของปีก่อนปรับตัวลดลง เนื่องจากยอดคำสั่งซื้อจากต่างประเทศลดลงจากความไม่เชื่อมั่นในภาวะเศรษฐกิจโลก รวมถึงการย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศที่มีขีดความสามารถในการแข่งขันด้านต้นทุนที่มีศักยภาพกว่า เช่น จีน และเวียดนาม เป็นต้น แต่สำหรับกลุ่มเครื่องใช้สำหรับเดินทาง และหนังและผลิตภัณฑ์หนังฟอกและหนังอัด ขยายตัวเพิ่มขึ้น จากสัญญาณเริ่มฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป

การนำเข้า ในช่วงไตรมาส 3 ปี 2556 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ปรับตัวลดลงในกลุ่มผลิตภัณฑ์หนังดิบและหนังฟอก แต่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากการนำเข้าเพื่อรองรับการผลิตสินค้าปลายน้ำภายในประเทศ เช่น รองเท้า กระเป๋า เฟอร์นิเจอร์หนัง และเบาะหนัง ตามการขยายตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่ส่งออกรถยนต์ได้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจนสามารถชดเชยตลาดรถยนต์ภายในประเทศ นอกจากนี้ยังมีการนำเข้าสินค้าในกลุ่มรองเท้าและกระเป๋า ขยายตัวเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน เนื่องจากมีการนำเข้าจากจีน และประเทศอื่น ๆ ในกลุ่มอาเซียน เช่น เวียดนาม อินโดนีเซีย ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากอัตราภาษีนำเข้าภายใต้ความตกลงเขตการค้าเสรีของไทยกับประเทศอื่น ๆ ลดลง เอื้อต่อการนำเข้า

แนวโน้ม

แนวโน้มปี 2557 คาดว่า การผลิตและการส่งออกรองเท้า จะชะลอตัวลงกว่าปี 2556 เนื่องจากการส่งออกไปตลาดสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรปซึ่งเป็นตลาดหลักอาจจะฟื้นตัวได้ไม่เต็มที่จากปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจ ประกอบกับผู้ประกอบการรายใหญ่มีการย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศที่มีขีดความสามารถในการแข่งขันด้านต้นทุนที่มีศักยภาพมากกว่าไทย อาจส่งผลต่อโครงสร้างการผลิตและมูลค่าการส่งออกของอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตาม การส่งออกไปตลาดเอเชียและอาเซียนจะมีแนวโน้มที่ดี โดยเฉพาะการส่งออกไปจีนและเวียดนาม ที่นำเข้าชิ้นส่วนรองเท้าไปผลิตเพื่อส่งออกไปตลาดอื่น รวมทั้งตลาดเมียนมาร์ที่มีความต้องการรองเท้ามากขึ้น เป็นโอกาสในการส่งออกของไทยเพิ่มขึ้น สำหรับการส่งออกเครื่องใช้สำหรับเดินทาง และหนังและผลิตภัณฑ์หนังฟอกและหนังอัด คาดว่า จะสามารถขยายตัวได้จากความต้องการใช้เพื่อผลิตสินค้าต่อเนื่อง เช่น เบาะรถยนต์ ที่การส่งออกของอุตสาหกรรมยานยนต์มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ