สรุปภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไตรมาสที่ 3 ปี 2557 (กรกฎาคม – กันยายน 2557)(อุตสาหกรรมรองเท้าและผลิตภัณฑ์หนัง)

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday January 14, 2015 16:01 —สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม

การผลิตสินค้ารองเท้าและผลิตภัณฑ์หนัง ไตรมาส 3 ปี 2557 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ การผลิตกระเป๋าเดินทาง กระเป๋าถือและสิ่งที่คล้ายกัน อานม้าและเครื่องเทียมลาก การผลิตรองเท้า เนื่องจากการบริโภคภาคเอกชนมีทิศทางที่ดีขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากรายได้ และความเชื่อมั่นการบริโภคที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่วนการส่งออกในช่วงที่เหลือของปี 2557 รวมถึงในปี 2558 ยังคงมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตามอง ทั้งสถานการณ์เศรษฐกิจโลก ภาวะเศรษฐกิจในสหภาพยุโรป ญี่ปุ่น และจีน รวมถึงอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวน

การผลิต

ไตรมาส 3 ปี 2557 ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมรองเท้าและผลิตภัณฑ์หนัง จำแนกได้ ดังนี้

1. การฟอกและการตกแต่งหนังฟอก ดัชนีผลผลิตไตรมาส 3 ปี 2557 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และไตรมาสเดียวกันของปีก่อนลดลง ร้อยละ 0.73 และ 0.39 ตามลำดับ เนื่องจากอุปสงค์ภายในประเทศที่ลดลงและการส่งออกสินค้าที่ฟื้นตัวช้าในช่วงก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลจากดัชนีการส่งสินค้า เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และไตรมาสเดียวกันของปีก่อนลดลง ร้อยละ 1.37 และ 1.17 ตามลำดับ และทำให้ระดับสินค้าคงคลังเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับดัชนีสินค้าสำเร็จรูปคงคลัง เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้น ร้อยละ 3.88 และ 10.66 ตามลำดับ ส่งผลให้ผู้ประกอบการลดการผลิตลง

2. การผลิตกระเป๋าเดินทางกระเป๋าถือและสิ่งที่คล้ายกัน อานม้าและเครื่องเทียมลากดัชนีผลผลิตไตรมาส 3 ปี 2557 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนเพิ่มขึ้น ร้อยละ 8.16 เป็นผลให้ดัชนีการส่งสินค้าและดัชนีสินค้าสำเร็จรูปคงคลัง เพิ่มขึ้น ร้อยละ 6.26 และ 2.57 ตามลำดับ เนื่องจากการบริโภคภาคเอกชนมีทิศทางที่ดีขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากรายได้ และความเชื่อมั่นการบริโภคที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และการส่งออกสินค้าในกลุ่มนี้ดีขึ้น แต่หากเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนลดลง ร้อยละ 4.94 สอดคล้องกับดัชนีการส่งสินค้า และดัชนีสินค้าสำเร็จรูปคงคลัง ลดลงร้อยละ 4.18 และ 0.53 ตามลำดับ

3. การผลิตรองเท้า ดัชนีผลผลิตไตรมาส 3 ปี 2557 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และไตรมาสเดียวกันของปีก่อน มีการผลิตเพิ่มขึ้น ร้อยละ 5.00 และ 16.20 ตามลำดับ ทำให้ดัชนีสินค้าสำเร็จรูปคงคลัง เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้น ร้อยละ 3.31 และ 3.85 ตามลำดับ จากยอดขายรองเท้าในประเทศเพิ่มสูงขึ้น จากช่วงก่อนหน้าที่กำลังซื้ออยู่ในภาวะซบเซาอย่างต่อเนื่อง สำหรับดัชนีการส่งสินค้า เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนลดลงเล็กน้อย ร้อยละ 0.46 และเมื่อเทียบไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้น ร้อยละ 17.54

การตลาดและการจำหน่าย

การค้าระหว่างประเทศ

การส่งออก

ไตรมาส 3 ปี 2557 อุตสาหกรรมรองเท้าและผลิตภัณฑ์หนัง มีมูลค่าการส่งออกรวมทั้งสิ้น 467.73 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง ร้อยละ 5.75 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน แต่หากเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้น ร้อยละ 9.46 เนื่องจากสัญญาณของการฟื้นตัวของประเทศคู่ค้า เช่น สหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ยังมีความต้องการที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นในตลาด CLMV และตะวันออกกลาง ส่งผลให้มูลค่าการส่งออกในภาพรวมขยายตัวเพิ่มขึ้น ประกอบด้วย 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์สำคัญ ดังนี้

1. หนังและผลิตภัณฑ์หนังฟอกและหนังอัด ไตรมาส 3 ปี 2557 มีมูลค่าการส่งออก 189.75 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2557 มีมูลค่า 203.45 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง ร้อยละ 6.74 เป็นผลจากมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์หนังโคกระบือฟอกถุงมือหนัง ปรับตัวลดลง ร้อยละ 58.24 และ 12.27 ตามลำดับ สำหรับผลิตภัณฑ์ของเล่นสำหรับสัตว์เลี้ยง เครื่องแต่งกายและเข็มขัด หนังและผลิตภัณฑ์หนังอื่น ๆ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 10.94 0.08 และ 63.86 ตามลำดับ

เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน มูลค่าการส่งออกหนังและผลิตภัณฑ์หนังฟอกและหนังอัด ปรับตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 2.78 ตามความต้องการในกลุ่มประเทศอาเซียนซึ่งเป็นผลจากการส่งออกผลิตภัณฑ์หนังและผลิตภัณฑ์หนังอื่น ๆ มีมูลค่าเพิ่มขึ้น ร้อยละ 33.94 สำหรับผลิตภัณฑ์หนังโคกระบือฟอก ของเล่นสำหรับสัตว์เลี้ยง ถุงมือหนัง เครื่องแต่งกายและเข็มขัดลดลง ร้อยละ 34.82 8.99 20.76 และ 7.89 ตามลำดับ โดยตลาดคู่ค้าสำคัญของกลุ่มหนังและผลิตภัณฑ์หนังฟอกและหนังอัด ได้แก่ เวียดนาม ฮ่องกง และจีน มีสัดส่วน ร้อยละ 18.13 16.73 และ 13.82 ตามลำดับ

2. เครื่องใช้สำหรับเดินทาง ไตรมาส 3 ปี 2557 มีมูลค่าการส่งออก 86.89 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2557 มีมูลค่า 86.62 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 0.30 ซึ่งเป็นผลจากการส่งออกผลิตภัณฑ์กระเป๋าใส่เศษสตางค์ และเครื่องเดินทางอื่นๆ มีมูลค่าเพิ่มขึ้น ร้อยละ 6.82 และ 3.01 ตามลำดับ สำหรับผลิตภัณฑ์กระเป๋าเดินทาง และกระเป๋าถือ ลดลงร้อยละ 3.80 และ 2.63 ตามลำดับ

เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน มูลค่าการส่งออกเครื่องใช้สำหรับเดินทาง ปรับตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 12.04 ซึ่งเป็นผลจากการส่งออกทุกผลิตภัณฑ์มีมูลค่าเพิ่มขึ้น ได้แก่ กระเป๋าเดินทาง กระเป๋าถือ กระเป๋าใส่เศษสตางค์ และเครื่องเดินทางอื่น ๆ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 0.46 15.21 18.33 และ 17.50 ตามลำดับ โดยตลาดคู่ค้าสำคัญของกลุ่มเครื่องใช้สำหรับเดินทาง ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และสวิตเซอร์แลนด์ มีสัดส่วน ร้อยละ 25.38 10.73 และ 10.31 ตามลำดับ

3. รองเท้าและชิ้นส่วน ไตรมาส 3 ปี 2557 มีมูลค่าการส่งออก 191.10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2557 มีมูลค่า 206.21 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงร้อยละ 7.33 ซึ่งเป็นผลจากการส่งออกในกลุ่มรองเท้าแตะ รองเท้าหนัง และรองเท้าอื่น ๆ ลดลง ร้อยละ 27.43 1.13 และ 15.18 ตามลำดับ เนื่องจากต้นทุนการผลิต เช่น ค่าแรงและวัตถุดิบ ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้คำสั่งซื้อจากลูกค้าต่างประเทศเริ่มมีการกระจายความเสี่ยงไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เวียดนาม และจีน เพื่อลดต้นทุน สำหรับรองเท้ากีฬา และส่วนประกอบของรองเท้า มูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้น ร้อยละ 42.41 และ 33.17 ตามลำดับ เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าที่สำคัญอย่างสหภาพยุโรป (EU) เริ่มเข้าสู่ภาวะฟื้นตัวจากภาวะถดถอยมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน มูลค่าการส่งออกรองเท้าและชิ้นส่วน ปรับตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 15.73 ซึ่งเป็นผลจากมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์รองเท้าแตะ รองเท้าหนัง รองเท้าอื่น ๆ และส่วนประกอบรองเท้าขยายตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 9.18 21.51 14.26 และ 38.12 ตามลำดับ สำหรับการส่งออกรองเท้ากีฬา ปรับตัวลดลง ร้อยละ 11.76 เนื่องจากผู้ประกอบการอุตสาหกรรมรองเท้ารายใหญ่ของไทย ได้ตัดสินใจขยายการลงทุนไปยังประเทศเพื่อนบ้านโดยเฉพาะกัมพูชา เมียนมาร์ และ ส.ป.ป.ลาว จากปัญหาต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นและการขาดแคลนแรงงาน อีกทั้งชาวต่างชาติหันไปสั่งซื้อรองเท้ากีฬาจากเวียดนาม อินโดนีเซีย และบังคลาเทศทดแทน เนื่องจากมีต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่าไทยมาก ตลาดคู่ค้าสำคัญ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา เดนมาร์ก และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งมีสัดส่วน ร้อยละ 13.92 9.36 และ 8.79 ตามลำดับ

การนำเข้า

ไตรมาส 3 ปี 2557 อุตสาหกรรมรองเท้าและผลิตภัณฑ์หนัง มีมูลค่าการนำเข้าทั้งสิ้น 387.81 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และไตรมาสเดียวกันของปีก่อนขยายตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 16.82 และ 14.57 ตามลำดับ เนื่องจากผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทยเพิ่มขึ้น ตามสถานการณ์ทางการเมืองที่คลี่คลาย และการดำเนินนโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาลเริ่มมีความชัดเจนขึ้น ซึ่งประกอบด้วย 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์สำคัญ ดังนี้

1. หนังดิบและหนังฟอก ไตรมาส 3 ปี 2557 มีมูลค่าการนำเข้า 205.27 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้น ร้อยละ 14.68 และ 11.13 ตามลำดับ โดยแหล่งนำเข้าหนังดิบและหนังฟอกที่สำคัญ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา บราซิล และอาร์เจนตินา มีสัดส่วน ร้อยละ 15.11 13.57 และ 10.69 ตามลำดับ

2. กระเป๋า ไตรมาส 3 ปี 2557 มีมูลค่าการนำเข้า 96.04 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้น ร้อยละ 14.83 และ 12.37 ตามลำดับ โดยแหล่งนำเข้าสำคัญ ได้แก่ จีน อิตาลี และฝรั่งเศส มีสัดส่วน ร้อยละ 47.68 22.55 และ 13.96 ตามลำดับ

3. รองเท้า ไตรมาส 3 ปี 2557 มีมูลค่าการนำเข้า 86.50 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้น ร้อยละ 24.72 และ 26.65 ตามลำดับ โดยแหล่งนำเข้าสำคัญ ได้แก่ จีน เวียดนาม และอิตาลี มีสัดส่วน ร้อยละ 47.90 14.15 และ 10.18 ตามลำดับ

นโยบายภาครัฐที่เกี่ยวข้อง

1. นโยบายการปรับค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำ 300 บาท ทั่วประเทศ ส่งผลให้ผู้ประกอบการรองเท้าและผลิตภัณฑ์หนัง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นธุรกิจ SMEs ต้องปรับตัวทั้งกลยุทธ์ด้านการผลิตและการตลาด เพื่อรักษาขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมได้อย่างต่อเนื่อง โดยกลยุทธ์หนึ่งในการปรับตัว คือ การย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศที่มีต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่า ซึ่งสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม ได้ทำการศึกษาแนวทางการย้ายฐานการผลิตของอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้นไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ เวียดนาม เมียนมาร์ สปป.ลาว และกัมพูชา ในกลุ่มอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม รองเท้าและเครื่องหนัง และอัญมณีและเครื่องประดับ เพื่อให้ผู้ประกอบการใช้เป็นคู่มือและแนวทางประกอบการตัดสินใจในการย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศดังกล่าว

2.นโยบายของกระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้ตั้งเป้าหมายเพิ่มสัดส่วน GDP ของ SMEs ที่ปัจจุบันมีจำนวน 2.724 ล้านราย จากร้อยละ 37 เป็น ร้อยละ 40 ใน 10 ปีข้างหน้า และเตรียมความพร้อมให้ SMEs พร้อมก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ผ่านแผนงานสำคัญ ได้แก่ ส่งเสริม SMEs ไทยให้ก้าวสู่การเป็น Supply Chain ของอาเซียน โดยตั้งเป้าหมายพัฒนาธุรกิจรวม 600 กิจการ ผู้ประกอบการ 12,000 คน และพัฒนาห่วงโซ่อุปทาน 10 กลุ่มอุตสาหกรรม ด้วยงบประมาณ 157 ล้านบาท ซึ่งอุตสาหกรรมรองเท้าและเครื่องหนัง เป็นหนึ่งในเป้าหมายที่จะได้รับการส่งเสริม

สรุปและแนวโน้ม

สรุป

ภาวะการผลิตอุตสาหกรรมรองเท้าและผลิตภัณฑ์หนัง ไตรมาส 3 ปี 2557 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน การฟอกและตกแต่งหนังฟอกปรับตัวลดลง เนื่องจากอุปสงค์ภายในประเทศที่ลดลงและการส่งออกสินค้าที่ฟื้นตัวช้า อีกทั้งสินค้าปลายน้ำ เช่น เบาะรถยนต์ชะลอตัวตามการบริโภครถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ที่เกิดจากปัญหาโครงการรถยนต์คันแรก และหนี้ครัวเรือนยังอยู่ในระดับสูง สำหรับการผลิตกระเป๋าเดินทาง และกระเป๋าถือและสิ่งที่คล้ายกัน อานม้าและเครื่องเทียมลาก การผลิตรองเท้ามีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากกำลังซื้อของผู้บริโภคในประเทศเริ่มปรับตัวดีขึ้น จากยอดขายรองเท้าในประเทศที่ปรับตัวสูงขึ้น จากช่วงก่อนหน้าที่กำลังซื้ออยู่ในภาวะซบเซาอย่างต่อเนื่อง

การส่งออก ไตรมาส 3 ปี 2557 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ปรับตัวลดลงในผลิตภัณฑ์ ได้แก่ หนังและผลิตภัณฑ์หนังฟอกและหนังอัด รองเท้าและชิ้นส่วน เนื่องจากอุปสงค์จากต่างประเทศยังคงมีสัญญาณชะลอตัว สำหรับการส่งออกเครื่องใช้สำหรับเดินทาง ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากสัญญาณเริ่มฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นคู่ค้าสำคัญ รวมทั้งค่าเงินบาทที่อ่อนตัวส่งผลดีกับผู้ประกอบการที่ทำตลาดส่งออกในกลุ่มประเทศดังกล่าว ประกอบกับผู้ประกอบการเครื่องหนังของไทยมีการออกงานแสดงสินค้าในต่างประเทศเพิ่มขึ้นเพื่อสร้างโอกาสทางการตลาด

การนำเข้า ไตรมาส 3 ปี 2557 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ขยายตัวเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ หนังดิบและหนังฟอก กระเป๋า และรองเท้า เนื่องจากผู้บริโภคคาดหวังว่า คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ที่เข้ามาบริหารประเทศ จะเร่งเบิกจ่ายเงินงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2558 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงมาตรการต่าง ๆ ในการช่วยเหลือประชาชน รวมทั้งเร่งรัดการแก้ปัญหาต่าง ๆ เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ส่งผลให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นในการจับจ่ายใช้สอยมากยิ่งขึ้น

แนวโน้ม

แนวโน้มไตรมาส 4 ปี 2557 คาดว่า การผลิตและการส่งออกเครื่องใช้สำหรับเดินทาง และรองเท้า จะเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น เนื่องจากการส่งออกไปตลาดสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นตลาดหลักเริ่มฟื้นตัวจากปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจ แต่ยังคงมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตา เช่น สถานการณ์เศรษฐกิจโลก ญี่ปุ่น และจีน รวมทั้งอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวน นอกจากนี้อาจมีปัจจัยจากการที่ผู้ประกอบการรายใหญ่มีการย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศที่มีขีดความสามารถในการแข่งขันด้านต้นทุนที่มีศักยภาพมากกว่าไทย ซึ่งจะส่งผลต่อโครงสร้างการผลิตและมูลค่าการส่งออกของอุตสาหกรรมในระยะต่อไป อย่างไรก็ตาม การส่งออกไปตลาดเอเชียและอาเซียนจะมีแนวโน้มที่ดี โดยเฉพาะการส่งออกไปจีนและเวียดนาม ที่นำเข้าชิ้นส่วนรองเท้าไปผลิตเพื่อส่งออกไปตลาดอื่น รวมทั้งตลาดเมียนมาร์ที่มีความต้องการรองเท้ามากขึ้น เป็นโอกาสในการส่งออกของไทยเพิ่มขึ้น สำหรับการผลิตและการส่งออกสินค้าประเภทหนังและผลิตภัณฑ์หนังฟอกและหนังอัด คาดว่า จะชะลอตัวจากอุปสงค์ภายในประเทศที่ลดลงและจากความต้องการใช้เพื่อผลิตสินค้าต่อเนื่อง เช่น เบาะรถยนต์ ที่การบริโภคสินค้า โดยเฉพาะรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ จากปัญหาโครงการรถยนต์คันแรก และหนี้ภาคครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง

--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ