สถานการณ์การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมเดือนพฤษภาคม ปี 2563

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday July 9, 2020 14:58 —สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม

ในเดือนพฤษภาคม 2563 การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม (ไม่รวมทองคำ) หดตัวร้อยละ 33.78 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตามการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม (ไม่รวมทองคำ อาวุธ รถถัง และอากาศยานรบ) หดตัวร้อยละ 35.44 โดยสินค้าอุตสาหกรรมที่การส่งออกหดตัว ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้า อัญมณีและเครื่องประดับ(หักทอง) ด้านตลาดส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมที่ยังคงขยายตัวได้มีเพียงประเทศจีน ขณะที่การส่งออกไปยังตลาดสหภาพตลาดยุโรป (27) อาเซียน (5) CLMV ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกาหดตัวลง

ในเดือนพฤษภาคม 2563 การส่งออกรวมมีมูลค่า 16,278.39 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัวร้อยละ 22.50 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน เมื่อพิจารณาการส่งออกในหมวดสินค้าสำคัญพบว่า สินค้าอุตสาหกรรมมีมูลค่า12,123.75 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัวร้อยละ 27.0 สินค้าอุตสาหกรรม (ไม่รวมทองคำ) มีมูลค่า 10,900.52 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัวร้อยละ 33.78 โดยหดตัวจากรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้า อัญมณีและเครื่องประดับ(หักทอง) เป็นต้น ในส่วนสินค้าเกษตรกรรม มีมูลค่า 2,180.12 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 14.11 สินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร มีมูลค่า 2,160.08 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัวร้อยละ 10.28

การนำเข้ามีมูลค่ารวม 13,583.81 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัวร้อยละ 34.41 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน โดยสินค้าเชื้อเพลิงมีมูลค่า 1,161.81 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัวร้อยละ 69.96 สินค้าทุนมีมูลค่า 3,865.01 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัวร้อยละ 25.19 โดยหดตัวจากเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ ด้านสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป (ไม่รวมทองคำ) มีมูลค่า 5,894.09 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัวร้อยละ 22.44 จากการนำเข้า เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ และสินแร่โลหะ (ทองแดง)

ด้านตลาดส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมที่ยังคงขยายตัวได้มีเพียงประเทศจีน ขณะที่การส่งออกไปยังตลาดสหภาพตลาดยุโรป (27) อาเซียน (5) CLMV ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกาหดตัวลง

การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมที่สำคัญ

เครื่องอิเล็กทรอนิกส์

ในเดือน พ.ค. 2563 มีมูลค่าการส่งออก 2,625.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัวร้อยละ 14.6 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน จากการส่งออกเครื่องคอมพิวเตอร์อุปกรณ์และส่วนประกอบเป็นสำคัญโดยหดตัวร้อยละ 21.3 จากการส่งออกไปยังประเทศฮ่องกง จีน อาเซียน(5) แต่การส่งออกไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่นยังคงขยายตัว

ยานยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ

ในเดือน พ.ค. 2563 มีมูลค่าการส่งออก 1,294.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัวร้อยละ 56.6 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนตามการส่งออกรถยนต์เป็นสำคัญโดยหดตัวร้อยละ 62.3 จากการส่งออกไปตลาดสำคัญ เช่น ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น ซาอุดิอาระเบียฟิลิปปินส์ เม็กซิโก และสหรัฐอเมริกา

เครื่องใช้ไฟฟ้า

ในเดือน พ.ค. 2563 มีมูลค่าการส่งออก 1,466.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัวร้อยละ 31.7 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน จากการส่งออกสินค้าเครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบหดตัวร้อยละ 39.5 จากการส่งออกไปยังประเทศ CLMV สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น การส่งออกเครื่องรับวิทยุโทรทัศน์และส่วนประกอบหดตัวร้อยละ 47.8 จากการส่งออกไปประเทศสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และจีน

สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม

ในเดือน พ.ค. 2563 มีมูลค่าการส่งออก 371.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัวร้อยละ 38.9 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนเป็นการหดตัวตลอดห่วงโซ่อุปทาน โดยสินค้าต้นน้ำอย่างด้ายและด้ายเส้นใยประดิษฐ์หดตัวร้อยละ 60.2 เส้นใยประดิษฐ์หดตัวร้อยละ 35.1 จากการส่งออกไปประเทศญี่ปุ่นและจีน สินค้ากลางน้ำอย่างผ้าผืนหดตัวร้อยละ 45.7 จากการส่งออกไปประเทศ CLMV สินค้าปลายน้ำอย่างเสื้อผ้าสำเร็จรูปหดตัวร้อยละ 37.6 จากการส่งไปสหรัฐอเมริกา

เม็ดพลาสติก

ในเดือน พ.ค. 2563 มีมูลค่าการส่งออก 583.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัวร้อยละ 26.7 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนจากการส่งออกไปยังประเทศCLMV อาเซียน (5) ญี่ปุ่น และอินเดีย ทั้งนี้การส่งออกเม็ดพลาสติกในเดือน พ.ค. 2563 เป็นการปรับลดลงทั้งด้านราคาและปริมาณการส่งออก โดยดัชนีราคาส่งออกเม็ดพลาสติกหดตัวร้อยละ 11.6 และปริมาณการส่งออกเม็ดพลาสติกหดตัวร้อยละ 13.4 ทั้งนี้ปริมาณการส่งออกในเดือน พ.ค. มีจำนวน 580.1 ล้านกิโลกรัม ในขณะที่การส่งออกไปประเทศจีนยังคงขยายตัว

อัญมณีและเครื่องประดับ(ไม่รวมทองคำแท่ง)

ในเดือน พ.ค. 2563 มีมูลค่าการส่งออก 209.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัวร้อยละ 68.6 จากการส่งออกอัญมณีประเภท เพชร พลอยไปยังประเทศฮ่องกง สวิตเซอร์แลนด์ สหรัฐอเมริกา และอินเดีย การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับมีมูลค่าการส่งออก 1,432.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 76.0 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน จากการส่งออกทองคำแท่งที่ยังไม่ได้ขึ้นรูป มูลค่า 1,223.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 735.1 ไปยังประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรเลีย และสิงคโปร์

ที่มา: สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ