นางวรวรรณ ชิตอรุณ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กล่าวว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนกันยายน 2565 ขยายตัวร้อยละ 3.36 และไตรมาส 3 ปี 2565 ขยายตัวร้อยละ 8.06 ส่งผลให้ 9 เดือนแรก ปี 2565 ขยายตัวร้อยละ 2.83 โดยอุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลบวกในเดือนกันยายน 2565 ได้แก่ ยานยนต์ จากรถบรรทุกปิกอัพ รถยนต์นั่ง ขนาดกลาง และรถยนต์นั่งขนาดเล็ก ที่มีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นและสามารถผลิตได้ต่อเนื่อง น้ำมันปิโตรเลียม ขยายตัวจากการเดินทางท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ หลังเปิดประเทศเต็มรูปแบบ และชิ้นส่วนและแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ขยายตัวตามการเติบโตของตลาดโลก
ทั้งนี้ จากการใช้เครื่องมือระบบเตือนภัยด้านเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไทย (The Early Warning System Industry Economics : EWS-IE) พบว่า คาดการณ์ดัชนี MPI เดือนตุลาคม 2565 ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง และทั้งปี 2565 คาดการณ์ขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 1.5-2.5 มาจากแนวโน้มเศรษฐกิจในประเทศมีทิศทางที่ดีขึ้น การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคในประเทศ รวมถึงมาตรการช่วยเหลือของภาครัฐ นอกจากนี้สถานการณ์การส่งออกจะยังคงขยายตัวได้ต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดอาเซียน และตะวันออกกลาง เช่น ประเทศกลุ่ม CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม) และออสเตรเลีย อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่เหลือของปีนี้ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ควรเฝ้าระวังและติดตาม ได้แก่ ค่าเงินบาทที่เคลื่อนไหวในทิศทางอ่อนค่าลง ตามการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) วิกฤตพลังงาน จากความผันผวนของราคาน้ำมัน ทำให้ต้นทุนการผลิตของภาคอุตสาหกรรมไทยเพิ่มขึ้น และทิศทางเศรษฐกิจโลกชะลอตัว จากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก รวมถึงการเกิดภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจของตลาดส่งออกที่สำคัญของไทย ได้แก่ สหรัฐฯ สหภาพยุโรป จีน และ ญี่ปุ่นอย่างไรก็ดี อุตสาหกรรมภาคการผลิตในภาพรวมไม่ได้รับผลกระทบมากนักจากสถานการณ์น้ำท่วม เนื่องจากผู้ประกอบการเตรียมพร้อมรับมือและมีมาตรการป้องกันจากประสบการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในปี 2554 ขณะเดียวกัน สศอ. ได้มอบสิ่งของอุปโภค บริโภค และของใช้ที่จำเป็น เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมถึงร่วมปล่อยขบวนคาราวานช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ภายใต้โครงการ "อุตสาหกรรมรวมใจ ช่วยพี่น้องชาวไทย" ของกระทรวงอุตสาหกรรม นอกจากนี้ ยังได้จัดทำข้อเสนอแนะแนวทางมาตรการป้องกัน เยียวยา และฟื้นฟูผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบ เพื่อให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนต่อไป
สำหรับอุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลบวกต่อดัชนีผลผลิตในเดือนกันยายน 2565 เมื่อเทียบกับ ช่วงเดียวกันของปีก่อน ได้แก่ ยานยนต์ ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 25.98 จากรถบรรทุกปิกอัพ รถยนต์นั่ง ขนาดกลาง และรถยนต์นั่งขนาดเล็ก ทั้งตลาดในประเทศและการส่งออก หลังจากมีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น และสามารถผลิตได้ต่อเนื่องน้ำมันปิโตรเลียม ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 21.68 จากน้ำมันดีเซล น้ำมันเครื่องบิน และน้ำมันเบนซิน 95 จากการเดินทางในประเทศของนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ
ชิ้นส่วนและแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ10.59 จากแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ และ IC ตามการขยายตัวของตลาดโลกจักรยานยนต์ ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ72.69 ตามการขยายตัวของตลาดในประเทศและการส่งออก หลังจากปีที่แล้วฐานต่ำ จากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในโรงงานผลิตชิ้นส่วน ทำให้ผู้ผลิตขาดชิ้นส่วนเพื่อทำการผลิต
น้ำมันปาล์ม ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 34.41 จากน้ำมันปาล์มดิบ และน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ จากผลผลิตปาล์มน้ำมันออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก
ที่มา: สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม