สรุปภาพรวมภาวะอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ช่วงเดือนมกราคมถึงตุลาคม 2551 อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และอิเล็กทรอนิกส์ภาวะการผลิต
อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ปรับตัวเพิ่มขึ้นในอัตราชะลอตัวลงในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนตุลาคม 2551 โดยปรับเพิ่ม ขึ้น ร้อยละ 21.83 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นในส่วนของส่วนประกอบและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะ HDD และ Other IC ที่มีคำสั่งซื้อในช่วง 8 เดือนแรกค่อนข้างสูง ส่วนในเดือนกันยายนแลตุลาคม 2551 เริ่มส่งสัญญาณชะลอลงแต่ยังคงมีอัตราขยาย ตัว เนื่องจากคำสั่งซื้อล่วงหน้าเริ่มทะยอยส่งมอบในระยะก่อนหน้านี้ และขณะนี้อยู่ในช่วงคำสั่งซื้อที่เข้ามาใหม่และเริ่มมีการต่อรองปริมาณและราคาเพิ่ม มากขึ้น
ตารางที่ 1 ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์รายไตรมาสปี 2551 และม.ค.—ต.ค.51
ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม 2551 ไตรมาสที่ 1 ไตรมาสที่ 2 ไตรมาสที่ 3 ม.ค.—ต.ค. ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมไฟฟ้า 325.75 316.26 354.07 333.24 และอิเล็กทรอนิกส์ อัตราการเปลี่ยนแปลง -1.95 -2.91 11.96 - เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน (%) อัตราการเปลี่ยนแปลง 26.11 26.97 19.47 21.83 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน(%)ที่มา: สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม, ธันวาคม 2551
เครื่องใช้ไฟฟ้าชะลอลงตั้งแต่ในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงตุลาคม 2551 ทั้งนี้ เนื่องจากสินค้าหลักมีการปรับตัวลดลงจากไตรมาสแรกของปี 2551 ได้แก่ เครื่องปรับอากาศ และสินค้าบางชนิดชะลอลงจากคำสั่งซื้อจากต่างประเทศ เช่น ตลาดญี่ปุ่น โดยมีคำสั่งซื้อที่ชะลออย่างต่อเนื่อง ได้แก่ สายไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม สินค้าที่มีตลาดหลักในแถบเอเชีย หรือในอาเซียนด้วยกันเองนั้นยังคงขยายตัวได้ดี เช่น ตู้เย็น เครื่องซักผ้า เป็นต้น
ภาวะการตลาด
มูลค่าส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ช่วงเดือนมกราคมถึงตุลาคม 2551 ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.13 มีมูลค่าส่งออก 40,736.59 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยตลาดญี่ปุ่นมีการชะลอลง โดยมีการปรับตัวลดลงร้อยละ 2.75 ขณะที่ตลาดเอชียอื่นๆ ได้แก่ จีน และตะวันออก กลางกลับขยายตัวเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงมาก โดยปรับตัวเพิ่มขึ้น 31.03% และ 30.48% ตามลำดับ ทั้งนี้ กลุ่มชิ้นส่วนและส่วนประกอบที่มีความต้องการ จากตลาดจีนมากนั้นมาจากการผลิตสินค้าไอทีสำเร็จรูปของจีนเพื่อส่งขายทั่วโลก ขณะที่ ตลาดตะวันออกกลางมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการส่งออกเครื่อง ปรับอากาศเป็นหลัก ซึ่งเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูงมากและสภาพภูมิอากาศเอื้ออำนวย
เป็นที่น่าสังเกตว่าการปรับตัวในแต่ช่วงไตรมาสมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นในอัตราชะลอลงตั้งแต่ไตรมาส 1 ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 12% ลดลง เหลือ 9% และ 7% ในไตรมาส 3 ทั้งนี้สอดคล้องกับการปรับตัวลดลงของส่วนอุปกรณ์และส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ซึ่งเป็นสินค้าที่มีมูลค่าส่งออกมากที่สุด ชะลอลงแต่ยังคงขยายตัวในอัตราไม่สูงมากนักในไตรมาสที่ 3 เหลือเพียง 6% เท่านั้น
ที่มา กรมศุลกากร, ธันวาคม 2551
จากสัดส่วนมูลค่าส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ช่วงเดือนมกราคมถึงตุลาคม 2551 พบว่า ตลาดการส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าและ อิเล็กทรอนิกส์มีแนวโน้มส่งออกในตลาดที่มิใช่ตลาดเดิมมากขึ้น เช่น ตลาดตะวันออกกลาง ถึงแม้สัดส่วนยังน้อยอยู่ประมาณ 4 % เท่านั้นแต่อัตราการ เจริญเติบโตค่อนข้างสูง ถึงประมาณ 31% ซึ่งตลาดหลักเดิม เช่น สหรัฐอเมริกา อียู ถึงแม้สัดส่วนมีสูงแต่อัตราการขยายตัวไม่ถึง 5%
อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า
ภาวะการผลิต
อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าชะลอตัวลงในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนตุลาคม 2551 โดยปรับตัวลดลง ร้อยละ 2.47 เมื่อเทียบกับช่วง เดียวกันของปีก่อน เนื่องจากมีการปรับตัวลดลงในช่วงตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงตุลาคม 2551
สินค้าที่มีการปรับตัวลดลงจากการปรับตัวตามเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปและการบริโภคสินค้าที่สามารถทดแทนกันได้ ได้แก่ เครื่องรับ โทรทัศน์สีประเภท CRT และ พัดลม เป็นต้น
ส่วนสินค้าที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอลงในช่วง 10 เดือนแรก ปี 2551 ได้แก่เครื่องปรับอากาศ โดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศแบบ แยกส่วน แฟนคอยล์ยูนิตค่อนข้างผันผวนทำให้ในช่วง 10 เดือนแรกปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียง 0.49% เท่านั้น
ผลิตภัณฑ์ที่ปรับตัวลดลงจากการปรับตัวลดลงของตลาดส่งออกได้แก่ สายไฟฟ้า ทั้งนี้เนื่องจากการส่งออกที่ชะลอลงในตลาดญี่ปุ่น และอา เซียน
ที่มา: สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม, ธันวาคม 2551
หมายเหตุ %YoY การเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า เริ่มมีสัญญาณชะลอตัวลงตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 โดยสินค้าที่ปรับตัวลดลง 2 ไตรมาสติดต่อกัน เช่น สายไฟฟ้า อัน เนื่องมาจากตลาดส่งออกหลัก ซึ่งส่วนใหญ่ส่งออกไปยังตลาดญี่ปุ่นชะลอลงเช่นกัน ตลาดหลักส่งออกกำลังเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยทำให้การส่งออกปรับ ตัวลดลง และการสั่งซื้อสินค้าชะลอลงซึ่งเกรงว่าผู้ซื้ออาจขาดสภาพคล่องหรือชำระเงินล่าช้าลง นอกจากนี้เริ่มมีการต่อรองราคาสินค้ามากขึ้นด้วย
สินค้าที่ปรับตัวลดลงยังคงเป็นสินค้าที่มีการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยี ได้แก่ โทรทัศน์สีเล็กกว่าหรือเท่ากับ 20 นิ้ว โทรทัศน์สีขนาดจอเท่ากับ 21 นิ้ว หรือมากกว่า 21 นิ้วขึ้นไป หรือ สินค้าที่ยังไม่มีการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีแล้วหรือน้อยมาก เช่น พัดลม ซึ่งสามารถมองโอกาสจากความต้อง การของผู้ซื้อที่มีความเชื่อมั่นในการบริโภคลดลงอาจจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อซื้อสินค้าทดแทนที่มีราคาถูกกว่าก็เป็นได้ นอกจากนี้ เครื่องรับโทรทัศน์ยัง คงมีการไปเปิดตลาดใหม่ทางอินเดียและแอฟริกาได้อีกด้วย
เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก เช่น กระติกน้ำร้อน หม้อหุงข้าว เป็นต้น ปรับตัวสูงขึ้นเช่นกันตั้งแต่ในช่วงปลายปีที่ผ่านมาโดยได้มีการปรับระบบ การทำงานเป็นแบบระบบดิจิตอล การปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้หลากหลายหน้าที่การทำงานมากขึ้น เช่น หม้อหุงข้าวพร้อมนึ่ง และราคาโดยเฉลี่ยปรับตัวสูง ขึ้น ส่วนใหญ่จัดซื้อทดแทนสินค้าที่มีอยู่ในระบบเดิม และมีคุณลักษณะอเนกประสงค์มากขึ้น และปรับเป็นระบบดิจิตอล หลังจากเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมาได้รับผล กระทบมากจากการโจมตีของสินค้าจีนที่มีราคาถูกแต่ไม่เป็นที่ยอมรับด้านคุณภาพ ซึ่งปัจจุบันยอดการผลิตปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องพร้อมด้วยราคาเหมาะ สมสามารถแข่งขันได้ในตลาด
ภาวะการตลาด
มูลค่าส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าช่วงเดือนมกราคมถึงตุลาคม 2551 ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.98 มีมูลค่าส่งออก 15,381.58 ล้านเหรียญ สหรัฐ ปรับตัวเพิ่มขึ้นในอัตราชะลอลงมากในตลาดสหรัฐอเมริกาและอียูเหลือเพียงร้อยละ 3.90 และ 2.79 ตามลำดับ ขณะที่ตลาดเอชีย ได้แก่ อา เซียน ตะวันออกกลางและจีนกลับขยายตัวเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงมากโดยปรับตัวเพิ่มขึ้น 32.09% 30.21% และ18.90 ตามลำดับ ส่วนตลาดญี่ปุ่นค่อนข้าง ชะลอลง โดยมีการปรับตัวลดลงร้อยละ 1.27
สินค้าส่งออกที่มีมูลค่าส่งออกสูงสุด 10 อันดับแรก ส่วนใหญ่ยังคงขยายตัวได้ดีในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2551 เป็นที่น่าสังเกตสินค้า เครื่องปรับอากาศ มีมูลค่าส่งออกเป็นอันดับต้นๆ แต่อัตราการขยายตัวกลับเพิ่มขึ้นในอัตราชะลอลงจากปีก่อนทั้งนี้เนื่องจากเครื่องปรับอากาศปรับตัวลดลง ในตลาดหลัก ได้แก่ อียู สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่นปรับตัวลดลงในช่วง 10 เดือนแรก 10.20% 17.06% และ 3.82% ตามลำดับ รวมสัดส่วนการส่ง ออกเครื่องปรับอากาศทั้ง 3 ตลาด มีสัดส่วน ประมาณ 43% ของมูลค่าการส่งออกเครื่องปรับอากาศทั้งหมด ขณะที่ตลาดอาเซียน ตะวันออกกลางกลับ ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งนอกจากสภาพเศรษฐกิจโดยรวมของโลกที่ชะลอลงแล้วยังมีผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในการจับจ่ายใช้สอยทำให้ส่งผลกระทบโดย รวมต่อยอดสั่งซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าไปด้วย
มูลค่าส่งออก (ล้านเหรียญสหรัฐ)
มูลค่าส่งออก (ล้านเหรียญสหรัฐ) อัตราการเปลี่ยนแปลง อัตราการเปลี่ยนแปลง เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน (%) เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (%) Q1 Q2 Q3 ม.ค.-ต.ค. Q1 Q2 Q3 Q1 Q2 Q3 ม.ค.-ต.ค. เครื่องปรับอากาศ 956.18 867.49 624.25 2,610.50 65.93 -9.28 -28.04 16.93 3.53 -8.93 2.67 เครื่องอุปกรณ์ไฟฟ้า สำหรับตัดต่อป้องกันวงจรไฟฟ้า รวมถึงแป้นและแผงควบคุม 426.05 485.02 478.37 1,560.97 4.05 13.84 -1.37 16.11 39.84 22.97 26.7 กล้องถ่ายโทรทัศน์ กล้องถ่ายบันทึกวีดีโอภาพนิ่ง วีดีโออื่นๆ 289.56 239.08 286.3 946.62 -0.25 -17.43 19.75 39.12 8.74 37.38 30.3 ตู้เย็น ใช้ตามบ้านเรือน 253.98 255.09 298.92 904.59 9.43 0.44 17.18 26.58 17.99 26.02 23.17 เครื่องรับโทรทัศน์สี 135.93 244.66 360.34 829.55 -36.72 79.99 47.28 -17.19 23.8 93.13 33.37 เครื่องคอมเพรสเซอร์ของเครื่องทำความเย็น 218.51 204.53 206.76 711.07 34.88 -6.4 1.09 32.14 23.04 34.34 32.04 ส่วนประกอบเครื่องรับโทรทัศน์ 172.56 196.54 241.88 686.86 -19.77 13.9 23.07 12.03 23.34 27.44 18.55 มอเตอร์เล็ก (กำลังไม่เกิน 750 W) 192.64 175 205.8 645.18 -2.43 -9.16 17.6 19.33 9.59 21.66 16.95 สายไฟ ชุดสายไฟ 173.51 176.75 190.47 595.65 -4.79 1.87 7.77 5.96 15.34 -2.51 3.93 เครื่องซักผ้า 161.87 163.23 175.39 560.77 19.52 0.84 7.45 19.67 21.35 36 25.77 ที่มา กรมศุลกากร, ธันวาคม 2551 ตารางที่ 8 มูลค่าส่งออกสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าจำแนกตามตลาดส่งออกสำคัญช่วงเดือนม.ค.-ต.ค.ปี 2551 ตลาดส่งออก US EU JP ASEAN CN ME other total มูลค่าส่งออก 1,757.11 2,602.01 2,290.68 2,906.10 877.3 1,219.58 3,728.76 15,381.58 (ล้านเหรียญสหรัฐ) อัตราการเปลี่ยนแปลง 3.9 2.49 -1.27 32.09 18.9 30.21 21.46 13.98 (%) สัดส่วน(%) 11.42 16.92 14.89 18.89 5.7 7.93 24.24 100 ที่มา กรมศุลกากร, ธันวาคม 2551จากสัดส่วนมูลค่าส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าช่วงเดือนมกราคมถึงตุลาคม 2551 พบว่า ตลาดการส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้ามีแนวโน้มส่งออกใน ตลาดที่มิใช่ตลาดเดิมมากขึ้น เช่น ตลาดตะวันออกกลาง อาเซียน และตลาดอื่นๆ เช่น อินเดีย ออสเตรเลีย เป็นต้น
ตลาดส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้า
ตลาดสหรัฐอเมริกา
ส่วนใหญ่ไทยส่งออกจำพวกสินค้าภาพและเครื่องเสียง โดยมีสินค้าเครื่องรับโทรทัศน์เป็นหลัก ถึงแม้จะชะลอตัวในช่วงไตรมาสแรก แต่กลับ กระเตื้องขึ้นในไตรมาส 2 และไตรมาส 3 สอดคล้องกับพฤติกรรมการใช้จ่ายเงินของผู้บริโภคที่มีความระมัดระวังมากขึ้น และมีแนวโน้มใช้อุปกรณ์ เครื่องใช้ที่มีราคาไม่สูงมากนัก ทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างเครื่องรับโทรทัศน์แบบเดิมยังมีความต้องการอยู่บ้าง โดยมูลค่าส่งออก 10 เดือนแรกของ เครื่องรับโทรทัศน์รวมในตลาดนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 17.73
ตลาดสหภาพยุโรป
ตลาดอียูถือเป็นตลาดหลักในการส่งออกเครื่องปรับอากาศมีสัดส่วนการส่งออกเครื่องปรับอากาศ 33% ของมูลค่าส่งออกเครื่องปรับอากาศ ทั้งหมด ซึ่งในช่วงกลางปี 2549 ชะลอลงบ้างจากมาตรการที่มิใช่ภาษี และกลับกระเตื้องขึ้นในปี 2550 พร้อมกับกระแสโลกร้อน ทำให้ยิ่งขยายตัวเพิ่ม ขึ้นสูงมาก ขณะที่ในปี 2551 สินค้าเครื่องปรับอากาศในตลาดอียูปรับตัวลดลงตั้งแต่ไตรมาส 2 และ 3 ปรับตัวลดลงร้อยละ 10.69 และ 51.38 ตาม ลำดับ จากฐานของการส่งออกค่อนข้างสูงในปี 2550 ประกอบกับสภาพเศรษฐกิจของอียูที่กำลังเข้าสู่ภาวะถดถอย ส่งผลให้มูลค่าการส่งออก 10 เดือน แรก ของเครื่องปรับอากาศในตลาดนี้ปรับตัวลดลงร้อยละ 10.20
ตลาดญี่ปุ่น
ตลาดญี่ปุ่นมีมูลค่าส่งออกผลิตภัณฑ์เครื่องอุปกรณ์ไฟฟ้า สำหรับตัดต่อป้องกันวงจรไฟฟ้า รวมถึงแป้นและแผงควบคุมและตู้เย็นมีสัดส่วนค่อนข้าง มากในการส่งออกไปยังตลาดญี่ปุ่น โดยที่ เครื่องอุปกรณ์ไฟฟ้า สำหรับตัดต่อป้องกันวงจรไฟฟ้า รวมถึงแป้นและแผงควบคุมมีอัตราการขยายตัวในช่วง 10 เดือนแรกของตลาดนี้เพิ่มขึ้นร้อยละ 33.37 ขณะที่ตู้เย็นปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยร้อยละ 3.08 ซึ่งภาวะอุตสาหกรรมตู้เย็นที่ส่งออกไปญี่ปุ่นก่อน หน้าได้รับผลกระทบจากการผลิตที่ส่งออกจากจีนมากขึ้น ทำให้ไทยส่งออกชะลอลงแต่ยังมีอัตราการขยายตัวอยู่บ้าง
อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์
ภาวะการผลิต
ภาพรวมอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์โดยดูจากดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ พบว่า ในช่วง 10 เดือนแรกระหว่างเดือนมกราคม ถึงตุลาคม 2551 ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 27.08 เนื่องจากการปรับตัวสูงขึ้นของ HDD และ Other IC เนื่องจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของ Consumer Electronics ในช่วงที่ผ่านมา และยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นในอุปกรณ์บางชนิด เช่น MP3/MP4, Flash Drive และอุปกรณ์นำทางเคลื่อนที่ (Portable Navigation Devices) แต่จะขยายตัวเพิ่มขึ้นในแถบเอเชียแปซิฟิกทดแทนหลังได้รับผลกระทบจากภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจของ ประเทศสหรัฐอเมริกา ยุโรป และญี่ปุ่น ทำให้ยอดการผลิตโดยรวมยังปรับเพิ่มขึ้นในอัตราลดลง
จากดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมรายไตรมาส พบว่าในไตรมาสที่ 3 มีอัตราขยายตัวในอัตราชะลอลง เนื่องจากผลกระทบจากตลาดส่งออกที่ ปรับตัวลดลงตั้งแต่เดือนกันยายน 2551 ทั้งนี้ไม่ได้ลดลงอย่างรวดเร็วเนื่องจากคำสั่งซื้อล่วงหน้าที่มีเข้ามาก่อนหน้านี้ โดยไตรมาสที่ 3 มีอัตราเพิ่มขึ้น จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เพียงร้อยละ 24.97 ทั้งที่ในทุกปีในไตรมาสที่ 3 จนถึงเดือนต.ค.และพ.ย.จะเป็นช่วงที่มีการผลิตค่อนข้างสูง
ที่มา: สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม, ธันวาคม 2551
หมายเหตุ %YoY การเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ส่วนประกอบและชิ้นส่วนส่วนใหญ่ยังขยายตัวได้ดี โดยอุปกรณ์ประเภท HDD และ Other IC ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงมากเนื่องจากภาวะความ ต้องการของตลาดโลกที่มีความต้องการสูง ขณะที่คำสั่งซื้อหลังจากช่วง 8 เดือนแรกนั้นมีแนวโน้มปรับตัวลดลงเนื่องจากตลาดคู่ค้าของอุปกรณ์ส่วนประกอบ เครื่องคอมพิวเตอร์นั้นส่วนใหญ่เป็นตลาดสหรัฐอเมริกา อียู แต่ยังมีตลาดใหม่ๆที่ยังคงมีความต้องการอุปกรณ์ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ และสินค้า Consumer Electronics ด้วย จะส่งผลให้ไทยมีคำสั่งซื้อจากส่วนประกอบและอุปกรณ์จากตลาดเหล่านี้ทดแทนตลาดเดิมได้ ถึงแม้ปริมาณและราคาอาจ ไม่สูงมากนักก็ตาม
ภาวะการตลาด
มูลค่าการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ในช่วงเดือนมกราคมถึงตุลาคม 2551 มีมูลค่า 25,355.01 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อเทียบกับช่วงเวลา เดียวกันของปีก่อนปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.87 โดยการปรับตัวเพิ่มขึ้นในแต่ละไตรมาสกลับเพิ่มขึ้นในอัตราชะลอลง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ส่วนหนึ่งเนื่องจากราคาเฉลี่ยลดลงจากเดิม และปริมาณการสั่งซื้อปรับตัวลดลงด้วยเช่นกันโดยเฉพาะตลาดหลักอย่างสหรัฐอเมริกา และจีน เป็นต้น
สินค้าที่ส่งออกมากเป็นอันดับหนึ่งของอิเล็กทรอนิกส์ได้แก่ อุปกรณ์ประกอบของเครื่องคอมพิวเตอร์ เช่น HDD มีมูลค่าส่งออกปรับตัวเพิ่มขึ้น ในช่วง 10 เดือนแรก 15.91% หากดูเป็นรายไตรมาสพบว่า มีการขยายตัวในอัตราชะลอลง โดยเฉพาะในไตรมาส 3 มีการขยายตัวชะลอลงมาก เหลือเพียง 6.28%เท่านั้น
ตลาดส่งออกที่มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นโดยมีมูลค่าส่งออกสูงมากที่สุดและมีสัดส่วนการส่งออกอิเล็กทรอนิกส์มากที่สุดถึง 21% ได้แก่ ตลาดจีน รองลงมา คือ ตลาดสหรัฐอเมริกาที่
ไทยเคยมีมูลค่าส่งออกอิเล็กทรอนิกส์มากที่สุดเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียง 4.36% มี สัดส่วนมูลค่าการส่งออกของตลาด นี้ร้อยละ 16 เท่านั้น
ตลาดส่งออกอิเล็กทรอนิกส์
ตลาดจีน
สินค้าที่ไทยส่งออกไปยังประเทศจีน ได้แก่ ส่วนประกอบของอุปกรณ์เครื่องคอมพิวเตอร์ มีมูลค่าส่งออกในช่วงมกราคมถึงตุลาคมของปีนี้ มี มูลค่า 4,146.91 ล้านเหรียญสหรัฐ มีสัดส่วนส่งออกมากที่สุด 28% ของมูลค่าส่งออกส่วนประกอบของอุปกรณ์เครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งหมด ทั้งนี้ จีนเป็น ฐานการผลิตเพื่อส่งออกสินค้าสำเร็จรูปไปยังภูมิภาคต่างๆ ประกอบกับไทยเป็นฐานการผลิตส่วนประกอบเพื่อส่งออกเช่นกัน ทำให้ภาวะการส่งออกส่วน ประกอบของอุปกรณ์เครื่องคอมพิวเตอร์ของไทยนั้นขึ้นกับตลาดส่งออกจีนที่ได้รับคำสั่งซื้อจากความต้องการของสินค้าสำเร็จรูปอิเล็กทรอนิกส์จากทั่วโลก
ตลาดสหรัฐอเมริกา
ตลาดสหรัฐอเมริกา เคยเป็นตลาดหลักของส่วนประกอบของอุปกรณ์เครื่องคอมพิวเตอร์เช่นกัน ปัจจุบันเป็นตลาดส่งออกอันดับสองของส่วน ประกอบนี้มีสัดส่วนประมาณ 19% เนื่องจากส่วนหนึ่งมาจากการบริหารจัดการ Logistics และ Supply Chain ที่มีคำสั่งซื้อทางภูมิภาคเอเชียมากขึ้น การผลิตและขายในภูมภาคเดียวกันจึงเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในการขนส่งได้ส่วนหนึ่ง ประกอบกับช่วงปี 2551 เศรษฐกิจคู่ค้าเดิมนั้นมีแนวโน้มชะลอ ลงบ้าง ทำให้ตลาดดังกล่าวปรับตัวเพิ่มขึ้นไม่มากนักเพียง 7.42%
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--