หมายเหตุ : * ตัวเลขคาดการณ์
ภาวะอุตสาหกรรมปิโตรเคมีปี 2552
สำหรับปี 2552 ของปีอุตสาหกรรมปิโตรเคมีไทยช่วงครึ่งหลังมีทิศทางการปรับตัวที่ดีขึ้นจากช่วงครึ่งแรกของปี ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นของภาครัฐ โดยการสร้างอุปสงค์ของตลาดภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมปิโตรเคมีของไทยยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดันจากความผันผวนของราคาน้ำมัน ภาวะเศรษฐกิจโลก และกำลังการผลิตใหม่ สินค้าราคาถูกจากจีน และตะวันออกกลางที่จะเริ่มทยอยเข้าสู่เอเชียในช่วงครึ่งหลังของปี 2552 เป็นต้นไป โดยกำลังการผลิตใหม่นี้จะมีผลต่อราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีในภูมิภาค
แนวโน้มอุตสาหกรรมปิโตรเคมีปี 2553
สำหรับแนวโน้มอุตสาหกรรมปิโตรเคมีไทย ในช่วงปี พ.ศ. 2553 ถือว่ายังอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากเต็มไปด้วยความผันผวน เนื่องจากกำลังการผลิตปิโตรเคมีของโลกจะทยอยเข้ามา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกำลังการผลิตใหม่จากประเทศแถบตะวันออกกลาง และจีน ซึ่งคาดว่าจะออกสู่ตลาดตั้งแต่ในช่วงครึ่งหลังของปีพ.ศ. 2552 เป็นต้นไป ประกอบกับวิกฤตเศรษฐกิจโลกในปี พ.ศ. 2551 ที่ส่งผลกระทบอย่างหนักหน่วงในปีพ.ศ. 2552 และอาจจะต่อเนื่องถึงปี พ.ศ. 2553 หรือจะยาวนานกว่านั้น เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจโลกยังไม่ชัดเจน และไม่มีทิศทางที่แน่นอน ประกอบกับความต้องการสินค้า ปิโตรเคมีที่หดตัวลงเนื่องจากผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีที่ผลิตขึ้นมาเพื่อนำไปใช้กับสินค้าคงทน เช่น รถยนต์ และอิเล็กทรอนิกส์
นโยบายรัฐบาล/สศอ.
- สศอ. จัดทำโครงการข้อมูลอุตสาหกรรมเชิงเปรียบเทียบเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน(Competitive Benchmarking) สาขาอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ระยะที่ 2 จากการศึกษาโดยภาพรวมสรุปได้ว่าขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมปิโตรเคมีไทยยังอยู่ในระดับที่สามารถแข่งขันได้ โดยเฉพาะในเชิงการผลิตจัดได้ว่ามีสถานภาพที่เข้มแข็ง
- ภาครัฐ โดยกระทรวงอุตสาหกรรมได้ให้ความสำคัญกับประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม โดยกระทรวงอุตสาหกรรมได้ออกประกาศ เรื่องโครงการหรือกิจกรรมเกี่ยวกับการอุตสาหกรรมที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง ทั้งด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และสุขภาพ เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2552 โดยอุตสาหกรรมปิโตรเคมีได้ถูกจัดเข้าอยู่ในบัญชีโครงการหรือกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบฯ ด้วย
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--