อุตสาหกรรมรองเท้าและเครื่องหนังเป็นอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้น และเป็นอุตสาหกรรมที่ต้องพึ่งการส่งออกเป็นสำคัญ ดังนั้นการผันผวนของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าจะส่งผลต่อผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมดังกล่าว อีกทั้งเกี่ยวเนื่องเป็นสินค้ากลุ่มแฟชั่น ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงความต้องการตามแนวโน้มการตลาด หรือตามกลุ่มนักออกแบบชั้นนำของโลก ในครึ่งปีแรกปี 2553 สัดส่วนโครงสร้างสินค้าส่งออกสินค้ารองเท้าและชิ้นส่วน ร้อยละ 55.9, หนังและผลิตภัณฑ์หนังฟอกและหนังอัด ร้อยละ 40.2 และเครื่องใช้ในการเดินทาง ร้อยละ 14.8
1. การผลิต
ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2553 ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมรองเท้าและเครื่องหนังจำแนกได้ดังนี้
- การฟอกและการตกแต่งหนังฟอก ดัชนีผลผลิตไตรมาสที่ 2 เทียบกับไตรมาสที่ 1 ของปี2553 มีปริมาณการผลิตลดลงร้อยละ 4.2 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 33.8 ดัชนีการส่งสินค้าเทียบกับไตรมาสก่อนลดลงร้อยละ 0.1 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 46.4 สำหรับดัชนีสินค้าสำเร็จรูปคงคลังเทียบกับไตรมาสก่อนลดลงร้อยละ 0.5 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.6
- การผลิตกระเป๋าเดินทาง กระเป๋าถือและสิ่งที่คล้ายกัน อานม้าและเครื่องเทียมลาก ดัชนีผลผลิตไตรมาสที่ 2 เทียบกับไตรมาสที่ 1 ของปี 2553 มีปริมาณการผลิตลดลงร้อยละ 4.5 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 26.3ดัชนีการส่งสินค้าเทียบกับไตรมาสก่อนลดลงร้อยละ 8.8 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 18.6 สำหรับดัชนีสินค้าสำเร็จรูปคงคลังเทียบกับไตรมาสก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.8 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนลดลงร้อยละ 3.0
- การผลิตรองเท้า ดัชนีผลผลิตไตรมาสที่ 2 เทียบกับไตรมาสที่ 1 ของปี 2553 มีปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 21.5 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนลดลงร้อยละ 2.5 ดัชนีการส่งสินค้าเทียบกับไตรมาสก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.3เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีกอ่ นเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.8 สำหรับดัชนีสินค้าสำเร็จรูปคงคลัง เทียบกับไตรมาสก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.2 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 145.9
2. การตลาด
การส่งออก
- รองเท้าและชิ้นส่วน ไตรมาสที่ 2 มีมูลค่าการส่งออก 187.0 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับไตรมาสที่ 1 ของปี 2553 มีมูลค่าการส่งออก 177.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.3 ผลิตภัณฑ์ที่มูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้น คือ รองเท้าแตะ และรองเท้าหนัง เพิ่มขึ้นร้อยละ 29.0 และ 10.4 ตามลำดับ ส่วนผลิตภัณฑ์ที่ลดลง คือ รองเท้ากีฬา รองเท้าอื่นๆ และส่วนประกอบรองเท้า ลดลงร้อยละ 12.2, 8.0 และ 5.0ตามลำดับ
เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนมีมูลค่าส่งออก 206.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 9.4 ผลิตภัณฑ์ที่ลดลง คือ รองเท้ากีฬา ลดลงร้อยละ 59.5 ส่วนผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นคือ รองเท้าแตะ รองเท้าหนังรองเท้าอื่นๆ และส่วนประกอบรองเท้า เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.6, 30.2, 37.8 และ 1.6 ตามลำดับ ตลาดคู่ค้าที่สำคัญ คือ เดนมาร์ก สหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร มีสัดส่วนร้อยละ 16.1, 14.6 และ 7.3 ตามลำดับ
- เครื่องใช้สำหรับเดินทาง ไตรมาสที่ 2 มีมูลค่าส่งออก 50.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับไตรมาสที่ 1 ของปี 2553 มูลค่าการส่งออก 45.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.5 ทุกผลิตภัณฑ์มีมูลค่าเพิ่มขึ้น คือ กระเป๋าเดินทาง กระเป๋าถือ กระเป๋าใส่เศษสตางค์ และเครื่องเดินทางอื่นๆ เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.7, 11.2, 7.9 และ 7.7 ตามลำดับ
เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนมีมูลค่าส่งออก 43.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ17.1 ทุกผลิตภัณฑ์มีมูลค่าเพิ่มขึ้น คือ กระเป๋าเดินทาง กระเป๋าถือ กระเป๋าใส่เศษสตางค์ และเครื่องเดินทางอื่นๆ เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.5, 7.9, 13.2 และ 23.3 ตามลำดับ ตลาดคู่ค้าที่สำคัญ คือ สหรัฐอเมริกาญี่ปุ่น และสวิตเซอร์แลนด์ มีสัดส่วนร้อยละ 21.2, 14.0 และ 9.9 ตามลำดับ
- หนังและผลิตภัณฑ์หนังฟอกและหนังอัด ไตรมาสที่ 2 มีมูลค่าส่งออก 135.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับไตรมาสที่ 1 ของปี 2553 มีมูลค่าการส่งออก 127.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.3ผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น คือ หนังโคกระบือฟอก ของเล่นสำหรับสัตว์เลี้ยง หนังและผลิตภัณฑ์หนังอื่นๆ เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.0, 25.0 และ 2.2 ตามลำดับ ส่วนผลิตภัณฑ์ที่ลดลง คือ ถุงมือหนัง เครื่องแต่งกายและเข็มขัดลดลงร้อยละ 12.6 และ 11.8 ตามลำดับ
เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนมีมูลค่าส่งออก 108.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ25.0 ผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น คือ หนังโคกระบือฟอก หนังและผลิตภัณฑ์หนังอื่นๆ เพิ่มขึ้นร้อยละ 34.0 และ34.4 ตามลำดับ ส่วนผลิตภัณฑ์ที่ลดลง คือ ของเล่นสำหรับสัตว์เลี้ยง ถุงมือหนัง เครื่องแต่งกายและเข็มขัดลดลงร้อยละ 24.6, 4.3 และ 3.8 ตามลำดับ ตลาดส่งออกที่สำคัญ คือ ฮ่องกง เวียดนาม และจีน มีสัดส่วนร้อยละ 23.5, 14.0 และ 12.4 ตามลำดับ
การนำเข้า
- หนังดิบและหนังฟอก ช่วงไตรมาสที่ 2 มีมูลค่าการนำเข้า 126.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับไตรมาสที่ 1 ปี 2553 มีมูลค่าการนำเข้า 110.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.4 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนมีมูลค่าการนำเข้า 81.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 55.4 แหล่งนำเข้าที่สำคัญ คือ สหรัฐอเมริกา อาร์เจนตินา และออสเตรเลีย มีสัดส่วนร้อยละ 15.0, 9.2 และ 8.7 ตามลำดับ
- รองเท้า ช่วงไตรมาสที่ 2 มีมูลค่าการนำเข้า 66.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับไตรมาสที่ 1 ปี2553 มีมูลค่าการนำเข้า 54.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 21.7 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ที่มีมูลค่าการนำเข้า 41.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 58.8 แหล่งนำเข้าที่สำคัญ คือ จีนอินโดนีเซีย และ เวียดนาม มีสัดส่วนนำเข้าร้อยละ 70.0, 6.9 และ 5.2 ตามลำดับ
- กระเป๋า ช่วงไตรมาสที่ 2 มีมูลค่าการนำเข้า 35.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับไตรมาสที่ 1 ปี2553 มีมูลค่าการนำเข้า 36.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 1.74 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ที่มีมูลค่าการนำเข้า 25.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 42.8 แหล่งนำเข้าที่สำคัญ คือ จีนฝรั่งเศส และอิตาลี โดยมีสัดส่วนนำเข้าร้อยละ 49.1, 21.5 และ 17.7 ตามลำดับ
3. สรุปและแนวโน้ม
ดัชนีผลผลิต การฟอกและการตกแต่งหนังฟอก และ การผลิตกระเป๋าเดินทาง กระเป๋าถือและสิ่งที่คล้ายกัน อานม้าและเครื่องเทียมลาก ในไตรมาส 2 ปี 2553 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 1 ในปีเดียวกัน มีอัตราการเปลี่ยนแปลงชะลอลงบ้าง แต่สำหรับดัชนีผลผลิตการผลิตรองเท้า ดัชนีการส่งสินค้า และดัชนีสินค้าสำเร็จรูปคงคลัง มีอัตราการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่เพิ่มขึ้นในไตรมาส ที่ 2 ปี 2553 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ปีเดียวกัน อีกทั้งมูลค่าการส่งออกรองเท้าและชิ้นส่วนมีมูลค่าเพิ่มขึ้น ซึ่งเริ่มมีสัญญาณที่ดีเนื่องจากเริ่มมีคำสั่งซื้อรองเท้าเข้ามามากขึ้น แต่มูลค่าการนำเข้าหนังดิบและหนังฟอกที่นำมาผลิตเป็นสินค้าปลายน้ำยังมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากประเทศคู่ค้าที่สำคัญเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่มีเสถียรภาพมากขึ้น ทำให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นในการจับจ่ายใช้สอยสินค้า อีกทั้งอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องที่ต้องใช้หนังฟอกเริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ส่งผลให้มูลค่าการส่งออกหนังและผลิตภัณฑ์หนังฟอกและหนังอัด มีมูลค่าเพิ่มขึ้น อีกทั้งการนำเข้าสินค้ารองเท้าและกระเป๋ามีอัตราการเปลี่ยนแปลงที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน
ในปี 2553 ทั้งปีแนวโน้มการผลิตและมูลค่าการส่งออกของอุตสาหกรรมรองเท้าและเครื่องหนังในปี 2553 เมื่อเทียบกับปี 2552 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นทุกผลิตภัณฑ์ เนื่องจากฐานการผลิตและการส่งออกปี2552 อยู่ในระดับต่ำ อีกทั้งประเทศคู่ค้าที่สำคัญเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ทำให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นในการจับจ่ายใช้สอยสินค้า และผู้ซื้อเริ่มสั่งสินค้าไปเติมสต๊อคที่ใกล้จะหมด แต่แนวโน้มการส่งออกในช่วงครึ่งปีหลังยังมีปัจจัยเสี่ยงจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจของ EU ซึ่งเป็นตลาดหลักของไทย โดยเฉพาะปัญหาของประเทศกรีซ หากขยายวงกว้าง อาจส่งผลต่อการส่งออกพราะผู้บริโภคจะชะลอการจับจ่ายใช้สอยสินค้า
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--