กรุงเทพฯ--27 ต.ค.--พน.
วันนี้ (วันที่ 27 ตุลาคม 2553) กระทรวงพลังงาน ร่วมกับศูนย์วิจัยพลังงานเอเชียแปซิฟิค (Asia-Pacific Energy Research Center) จัดสัมมนานานาชาติหัวข้อ “Energy and Climate Change in APEC 2010” โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานรัฐ สถานทูต ภาคธุรกิจ และนักวิชาการ เข้าร่วมประมาณ 200 คน โดยมีปลัดกระทรวงพลังงาน (นายณอคุณ สิทธิพงศ์) ให้เกียรติเป็นประธานฯ
นายณอคุณ สิทธิพงศ์ ปลัดกระทรวงพลังงาน และในฐานะประธานในพิธีจัดสัมมนาฯ เปิดเผยว่า การจัดสัมมนาดังกล่าวเกิดขึ้นด้วยความร่วมมือมาอย่างต่อเนื่อง จากการประชุมรัฐมนตรีพลังงานอาเซียนครั้งที่ 9 ณ เมืองฟุกุ๊ย ประเทศญี่ปุ่น ที่ต้องการให้กลุ่มประเทศชาติสมาชิกเอเปคทั้ง 21 ประเทศ (19 ประเทศ 2 เขตเศรษฐกิจ) เป็นสังคมคาร์บอนต่ำและพัฒนาพลังงานทดแทนให้เกิดความยั่งยืน (Low Carbon Paths to Energy Security : Cooperative Energy Solutions for a Sustainable APEC)
ในการประชุมครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก นาย เคนจิ โคบายาชิ (Kenji Kobayashi) ประธานศูนย์วิจัยพลังงานเอเชียแปซิฟิค เป็นประธานร่วม โดยมีหัวข้อสำคัญที่เป็นเรื่องท้าทายของกลุ่ม APEC เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจกับการใช้พลังงานและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เนื่องจากพบว่าภาคพลังงานเป็นแหล่งกำเนิดหลักของการปล่อยก๊าซ CO2 ถึงร้อยละ 60 นอกจากนั้นการประชุมครั้งนี้ยังจะได้เห็นผลการศึกษาถึงทิศทางการพัฒนาพลังงานในอนาคตของประเทศในกลุ่ม APEC และแนวทางพัฒนาพลังงานทางเลือก โดยเฉพาะการนำเสนอด้านประสบการณ์และกรณีศึกษาการดำเนินโครงการเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและกลไกการขับเคลื่อนเชิงนโยบายที่มีผู้แทนจากประเทศในกลุ่ม APEC และประเทศในสหภาพยุโรปพร้อมที่พร้อมแลกเปลี่ยนให้ข้อมูล รวมถึงการนำเสนอโครงการด้านการพัฒนาศักยภาพและเสริมสร้างความร่วมมือสำหรับการพัฒนาพลังงานหมุนเวียน และท้ายสุดสำหรับประเทศไทยที่ได้แสดงบทบาทและมุมมองต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมคาร์บอนต่ำและบทบาทของประเทศไทยภายใต้นโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
“ความสำคัญของการสัมมนาในวันที่ 27 ตุลาคมนี้ จะได้เห็นสถานการณ์พลังงานในภูมิภาค APEC ที่กำลังเกิดขึ้น และประโยชน์จากเวทีดังกล่าวที่มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศและหน่วยงานภาคต่างๆ ซึ่งจะได้หาทางออกร่วมกันต่อการใช้พลังงานที่มีเหลือจำกัด และกำหนดทิศทางการใช้พลังงานในภูมิภาค ภายใต้การดูแลสิ่งแวดล้อมควบคู่กัน ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายชาติต้องการให้เกิดขึ้น” นายณอคุณ กล่าว
ปัจจุบัน เอเปค มีสมาชิกทั้งสิ้น 21 เขตเศรษฐกิจ (19 ประเทศ 2 เขตเศรษฐกิจ) ประกอบด้วย สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย บรูไน แคนาดา ชิลี จีน รัสเซีย ฮ่องกง อินโดนีเซีย ญี่ปุ่นเกาหลีใต้ มาเลเซีย เม็กซิโก นิวซีแลนด์ ปาปัวนิวกินี เปรู ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไต้หวัน เวียดนาม และไทย