กรุงเทพฯ--9 พ.ย.--ปตท.
นายสรัญ รังคสิริ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่การตลาดขายปลีก หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อสภาพเศรษฐกิจมากขึ้น ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว รวมถึงสัญญาซื้อขายทองคำตลาดนิวยอร์ค ส่งมอบเดือน ธ.ค. 53 ปรับตัวเพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ประกอบกับตัวเลขการจ้างงานทั้งในภาคเกษตรและในบริษัทเอกชนสหรัฐฯ เดือน ต.ค. 53 ยังเพิ่มสูงขึ้นอีกด้วย ด้านฝั่งยุโรป สำนักงานสถิติของเยอรมนี รายงานยอดดุลการค้าในเดือน ก.ย. 53 เพิ่มขึ้น 30% หรือ 3,600 ล้านยูโร สูงสุดตั้งแต่ ต.ค. 51 นอกจากนี้ มีการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในไตรมาส 4 จะออกมาดีขึ้น จากการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงก่อนเข้าเทศกาลปีใหม่ ปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์ก่อน ต่อเนื่องมากว่า 1 สัปดาห์
ล่าสุด (9 พ.ย. 53) ราคาปิดตลาดสิงคโปร์น้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 85.27 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล น้ำมันสำเร็จรูปเบนซิน 95 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 94.91 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และน้ำมันดีเซลหมุนเร็วอยู่ที่ 97.57 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล โดยในภาพรวม ราคาน้ำมันสำเร็จรูปได้ปรับตัวสูงขึ้นกว่าช่วงที่มีการปรับราคาครั้งล่าสุด (13 พ.ย. 53) ประมาณ 4 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล หรือคิดเป็นต้นทุนที่เพิ่มขึ้น 0.80 บาท/ลิตร อย่างไรก็ตาม ค่าเงินบาทที่เข็งขึ้นเมื่อเทียบกับการปรับราคาครั้งก่อน 0.21 บาท/เหรียญสหรัฐฯนั้น ได้ช่วยลดต้นทุนลง 0.10 บาท/ลิตร ทำให้ต้นทุนของผู้ค้าเพิ่มขึ้นสุทธิประมาณ 0.70 บาท/ลิตร ปตท. จึงจำเป็นต้องปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันทุกชนิด 60 สตางค์/ลิตร (ยกเว้น E85 ปรับขึ้น 30 สตางค์/ลิตร) ส่งผลให้ราคาน้ำมันขายปลีก ณ สถานีบริการน้ำมัน ปตท. ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (10 พ.ย. 53) เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป ราคาเป็นดังนี้
หน่วย: บาท/ลิตร
น้ำมันแก๊สโซฮอล E85 (บลู แก๊สโซฮอล E85) 19.32
น้ำมันแก๊สโซฮอล E20 (บลู แก๊สโซฮอล E20) 30.14
น้ำมันแก๊สโซฮอล 95 (บลู แก๊สโซฮอล 95) 32.44
น้ำมันแก๊สโซฮอล 91 (บลู แก๊สโซฮอล 91) 30.94
น้ำมันเบนซิน 91 (บลู แก๊สโซลีน 91) 36.24
น้ำมันไบโอดีเซล (บลู ดีเซล บี5) 28.19
น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว (บลู ดีเซล) 29.39
นายสรัญ กล่าวต่อไปว่า ปตท. ได้พยายามชะลอการปรับขึ้นราคาในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อรอดูทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลกต้นสัปดาห์นี้อีกครั้ง และพบว่าราคายังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ปตท. จึงจำเป็นต้องปรับขึ้นราคาขายปลีกในครั้งนี้ ซึ่งก็ยังคงปรับขึ้นในอัตราที่ต่ำกว่าต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ในการปรับขึ้นราคาในราคาแต่ละครั้งนั้น ปตท. ได้พยายามที่จะให้ส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนน้อยที่สุด และขอให้มั่นใจว่า ปตท. ได้พยายามอย่างเต็มที่ในการดูแลราคาขายปลีกในประเทศให้มีความเหมาะสมและเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ฝ่ายสื่อสารองค์กร ปตท.
โทรศัพท์ 0 2537 2164
โทรสาร 0 2537 2171