สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 9 พฤศจิกายน 2553 โดย YLG

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday November 9, 2010 17:32 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--9 พ.ย.--PRdd สภาวะตลาดวันที่ 9 พฤศจิกายน 2553 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบ ที่ระดับ $1403.35— $1,413.85 ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ10 อยู่ที่ 19,770 บาท โดยราคาเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 210 บาทจากวันก่อนหน้า ที่ 19,560 บาทออกมา คือ ออกมา คือ แนวโน้มวันที่ 10 พฤศจิกายน 2553 หลังจากมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณของสหรัฐเป็นอันชัดเจนราคาทองคำก็ดีดตัวสร้งจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์อย่างต่อเนื่องและดูเหมือนว่าความร้อนแรงของราคาทองคำจะไม่ได้จบลงในระยะเวลาอันสั้นนี้เสียแล้วเมื่อเริ่มมีประเด็นเกี่ยวกับปัญหาหนี้สาธารณะในประเทศไอร์แลนด์และยูโรโซนเข้ามาผลักดันในลักษณะส่งต่อให้ราคาทองคำดีดตัวสูงขึ้นอีกระรอกจากการที่นักลงทุนกลับมาให้ความสนใจกับทองคำในฐานะที่เป็นแหล่งลงทุนที่ปลอดภัยอีกครั้งซึ่งสอดคล้องกับการเข้ามาถือครองทองคำเพิ่มเติมของกองทุน SPDR ที่ได้ซื้อทองคำเข้ากองทุนจำนวน 2.43 ตันหลังจากมีการลดการถือครองอย่างต่อเนื่องก่อนหน้านี้โดยราคาทองคำได้ขึ้นไปทำจุดสูงสุดอีกครั้งที่ระดับ 1,412.65 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับภาพรวมของปัจจัยที่กระทบต่อราคาทองคำในขณะนี้ทางวายแอลจีมองว่าด้วยปัจจัยเดิมเกี่ยวกับมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณกับตัวเลขการว่างงานที่อยู่ในระดับสูงของสหรัฐก็เพียงพอที่จะทำให้ราคาทองคำค่อยๆปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นในระยะยาวแต่หากมีประเด็นความกังวลต่อหนี้สาธารณะดังกล่าวขึ้นมาและส่งผลสืบเนื่องต่อไปก็จะทำให้ทองคำกลับมาเป็นแหล่งพักเงินระยะสั้นซึ่งอาจทำให้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นในอัตราเร่งได้ อย่างไรก็ตามประเด็นเกี่ยวกับปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรปยังคงต้องติดตามในส่วนของรายละเอียดเพื่อประเมินผลกระทบต่อราคาทองคำต่อไปอีกระยะ ในส่วนของปัจจัยที่คอยฉุดรั้งการขยับขึ้นของราคาทองคำบ้านเราก็คือการแข็งค่าขึ้นของค่าเงินบาทและหากปัญหาในยุโรปสร้างความกังวลแก่นักลงทุนมากๆก็จะยิ่งส่งผลให้เกิดการเคลื่อนย้ายเงินทุนจากสหรัฐและยุโรปเข้ามาในภูมิภาคมากขึ้นซึ่งนั่นก็จะทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่าในอัตราเร่งได้ แม้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะพยายามชะลอการแข็งค่าของเงินบาทไม่ให้ปรับตัวรวดเร็วเกินไปแต่นั้นก็ไม่ใช่หมายความว่าจะทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงหรือยับยั้งการแข็งค่าได้และแน่นอนว่าการแข็งค่าของเงินบาทจะส่งผลกระทบอย่างมากกับนักลงทุนระยะยาวในขณะที่นักลงทุนระยะสั้นและนักลงทุนระยะกลางอาจถูกผลกระทบดังกล่าวบ้างแต่ก็ยังอยู่ในสัดส่วนที่น้อยกว่านักลงทุนระยะยาว ทั้งนี้ทางวายแอลจีประเมินว่ามีโอกาสที่จะเห็นค่าเงินบาทไต่ระดับขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 28.50- 29.00 บาทต่อดอลลาร์ก่อนสิ้นปีนี้ สำหรับมุมมองทางเทคนิคนั้นทางวายแอลจีประเมินแนวต้านสำคัญในรอบนี้อยู่ที่บริเวณ 1,430 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งคาดว่าหากราคาขยับขึ้นเข้าใกล้บริเวณดังกล่าวแล้วจะมีแรงขายทำกำไรออกมาทำให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงได้แต่นั้นก็จะเป็นจังหวะที่จะให้นักลงทุนเข้าไปรับซื้อเพื่อเก็งกำไรรอบใหม่อีกครั้งสำหรับช่วงหลังจากนี้วายแอลจีประเมินแนวรับแนวต้านไว้ดังตารางที่ 1 แนวรับ 1,400 1,385 แนวต้าน 1,420 1,430 หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร. 02-287-1155 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร. 02-677-5520 หรือ www.ylgbullion.com หากสนใจเข้าร่วมสัมมนาหัวข้อ “การลงทุนในโกล์ดฟิวเจอร์ส” ฟรี!!! ทุกวัน จันทร์, พุธ เวลา 14.00-16.00 น.และ วันเสาร์ เวลา 10.00-12.00 น. สำรองที่นั่งได้ทุกวันทาง เว็บไซด์ หรือ โทร 02-2871155 ต่อ 139

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ