สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 11 พฤศจิกายน 2553 โดย YLG

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday November 11, 2010 17:16 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--11 พ.ย.--PRdd สภาวะตลาดวันที่ 11 พฤศจิกายน 2553 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบ ที่ระดับ $1,398.65— $1,411.04 ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ10 อยู่ที่ 19,830 บาท โดยราคาเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 90 บาทจากวันก่อนหน้า ที่ 19,740 บาทออกมา คือ ออกมา คือ แนวโน้มวันที่ 12 พฤศจิกายน 2553 การเปิดเผยผลการประมูลพันธบัตรของรัฐบาสโปรตุเกสก่อนหน้านี้ที่ต้องแลกด้วยผลตอบแทนที่สูงกว่าการประมูลพันธบัตรครั้งก่อนได้สะท้อนให้เห็นถึงความกังวลของนักลงทุนต่อความเสี่ยงของการเกิดปัญหาการผิดนัดชำระหนี้หรือความเสี่ยงจากการที่ราคาพันธบัตรจะต่ำลงในอนาคตภายหลังมีกระแสข่าวว่าโปรตุเกสอาจจะต้องขอความช่วยเหลือจากธนาคารกลางยุโรปเช่นเดียวกับกรีซในขณะที่ธนาคารกลางไอร์แลนด์ได้เปิดเผยว่า อัตราผลตอบแทน พันธบัตรยังอยู่ที่ระดับวิกฤติ โดยอัตราผลตอบแทนระหว่างพันธบัตรไอร์แลนด์ และเยอรมนีได้ขยายตัวสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวข้างต้นถือว่าเป็นปัจจัยที่เข้ามาหนุนราคาทองคำไม่ให้ปรับตัวลดลงจากการแข็งค่าของเงินสกุลดอลลาร์ภายหลังการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่ค่อนข้างแข็งแกร่งของสหรัฐไม่ว่าจะเป็น 1).จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกที่ปรับตัวลดลงถึง 24,000 ราย 2).ยอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลสหรัฐที่ขยับลงมาอยู่ที่1.40 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนต.ค. ต่ำกว่าที่คาดไว้ที่ 1.50 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งจะเห็นว่าในระยะหลังนี้ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐจะออกมาในทิศทางที่เป็นบวกมากขึ้นถึงแม้ว่าทางวายแอลจียังมองว่า ข้อมูลดังกล่าวจะยังไม่เพียงพอที่จะทำให้เฟดชะลอการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจแต่หากแนวโน้มยังออกมาเป็นเชิงบวกเช่นนี้หรือมากกว่านี้ต่อไปก็อาจจะส่งผลกระทบต่อมาตรการที่เฟดได้ออกมาก่อนหน้านี้ได้และนั้นก็จะส่งผลกระทบเชิงลบต่อราคาทองคำเช่นกัน สำหรับการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มจี 20 ที่ผ่านพ้นวันแรกไปแล้วนั้นดูเหมือนว่าจะยังไม่ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับมาตรการที่จะมาควบคุมความไม่สมดุลของเศรษฐกิจโลกหรือสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดอัตราแลกเปลี่ยนได้และหากเป็นเช่นนั้นจริงๆความตึงเครียดในตลาดอัตราแลกเปลี่ยนซึ่งจะนำไปสู่สงครามค่าเงินในอนาคตก็จะยังคงมีอยู่แต่นั้นก็ถือเป็นอีกปัจจัยหนุนหนึ่งของราคาทองคำในระยะต่อไป ส่วนการรายงานดัชนีชี้วัดเงินเฟ้อประจำเดือนต.ค.ของจีนที่มีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นโดยดัชนี PPI ขยายตัวขึ้น 5% และ ดัชนี CPI ปรับเพิ่มขึ้น 4.4% พร้อมทั้งทำสถิติสูงสุดในปีนี้ ถือว่าเป็นอีกตัวสะท้อนหนึ่งของปัญหาเงินเฟ้อที่จะหนุนราคาทองคำในระยะยาวต่อไป สำหรับกลยุทธิ์การลงทุนทางวายแอลจียังคงแนะนำให้นักลงทุนเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวมาบริเวณแนวรับแต่การเข้าซื้อครั้งนี้ต้องใช้ความระมัดระวังให้สูงเนื่องจากมองว่าการปรับขึ้นครั้งนี้จะเป็นการปรับขึ้นครั้งสุดท้ายก่อนมีการปรับฐานครั้งใหญ่โดยให้เป้าหมายการทำกำไรอยู่ที่ ระดับ 1,424 และ 1,450 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนแนวรับแนวต้านทางวายแอลจีประเมินไว้ดังนี้ แนวรับ 1,400 1,382 1,365 แนวต้าน 1,424 1,435 1,450 หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร. 02-287-1155 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร. 02-677-5520 หรือ www.ylgbullion.com หากสนใจเข้าร่วมสัมมนาหัวข้อ “การลงทุนในโกล์ดฟิวเจอร์ส” ฟรี!!! ทุกวัน จันทร์, พุธ เวลา 14.00-16.00 น.และ วันเสาร์ เวลา 10.00-12.00 น. สำรองที่นั่งได้ทุกวันทาง เว็บไซด์ หรือ โทร 02-2871155 ต่อ 139

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ