สรุปผลประกอบการรวมของธนาคารและบริษัทย่อย สำหรับงวดไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2550

ข่าวทั่วไป Friday April 27, 2007 16:22 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--27 เม.ย.--ธนาคารทิสโก้
ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิจำนวน 356 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.9 เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2549 โดยมีอัตราขยายตัวของสินเชื่อเช่าซื้อในอัตราร้อยละ 8.2 จากสิ้นปี 2549 เพิ่มขึ้น 4,454 ล้านบาท เป็น 58,699 ล้านบาท และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากร้อยละ 2.7 ณ สิ้นปี 2549 เป็นร้อยละ 3.2 ในไตรมาสนี้ ขณะที่เงินฝากมีอัตราการเติบโตร้อยละ 52 จากสิ้นปี 2549 มาอยู่ที่ 61,785 ล้านบาท จากการระดมเงินฝากระยะสั้นมากขึ้น เนื่องจากเล็งเห็นว่าดอกเบี้ย เริ่มปรับตัวลดลงอย่างมาก
ผลประกอบการที่ดีขึ้นในไตรมาสนี้ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เป็นผลจากรายได้ดอกเบี้ยจำนวน 1,694 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.1 ตามปริมาณการขยายตัวของสินเชื่อเช่าซื้อ ขณะที่ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นน้อยกว่าในอัตราร้อยละ 9.4 ตามภาวะอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวลดลง ส่งผลให้รายได้ดอกเบี้ยสุทธิมีจำนวน 765 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.9 ประกอบกับค่าใช้จ่ายที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลง จากการเปลี่ยนวิธีการบันทึกบัญชีของค่าใช้จ่ายของธุรกิจเช่าซื้อที่เริ่มใช้เป็นปีแรก จากเดิมที่บันทึกค่าใช้จ่ายของธุรกิจเช่าซื้อเต็มจำนวน เป็นการทยอยรับรู้ค่าใช้จ่ายตามรายได้ดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นจริง สำหรับรายได้ค่า
ธรรมเนียมในไตรมาสนี้มีจำนวน 284 ล้านบาท ปรับตัวลดลงร้อยละ 17.2 เนื่องจากภาวการณ์ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ซบเซา ทำให้รายได้ค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์มีจำนวน 120 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 29.7 แม้ทิสโก้สามารถรักษาระดับส่วนแบ่งตลาดที่ร้อยละ 3.3
ณ วันที่ 31 มีนาคม 2550 ธนาคารและบริษัทย่อยมีสินทรัพย์จำนวน 105,091 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20,309 ล้านบาท ตามการขยายตัวของเงินให้สินเชื่ออย่างต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2549 หลังจากที่ธนาคารเล็งเห็นทิศทางดอกเบี้ย และเร่งปล่อยสินเชื่อเช่าซื้ออย่างต่อเนื่องจนถึงไตรมาส 1 ปี 2550 ขณะที่หนี้สินรวมมีจำนวน 92,069.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19,970.63 ล้านบาท หรือร้อยละ 27.7 สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของเงินฝากธนาคารได้ระดมฐานเงินฝากไว้เพื่อรองรับการขยายตัวของสินเชื่อในอนาคต และส่วนของผู้ถือหุ้นมีจำนวน 13,021.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.7
เงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงของธนาคารยังคงอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ร้อยละ 12.07 ลดลงจากร้อยละ 13.42 ตามการขยายตัวของยอดสินเชื่อเช่าซื้อ โดยแบ่งเป็นเงินกองทุนขั้นที่ 1 ร้อยละ 11.86 ซึ่งยังคงสูงกว่าที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
อัตราส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อเงินให้กู้ยืมรวมของธนาคารและบริษัทย่อยอยู่ที่ร้อยละ 4.5 ลดลงจากสิ้นปี 2549 ที่ร้อยละ 4.6 ขณะที่ธนาคารและบริษัทย่อยมียอดสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญและค่าเผื่อการปรับมูลค่าจากการปรับโครงสร้างหนี้จำนวน 2,807.54 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 78.6 ของยอดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้
นอกจากนี้ ในไตรมาส 1 ปี 2550 ธนาคารได้ขยายสาขาเพิ่มอีก 2 สาขา คือ สาขาย่อยเพชรบุรีตัดใหม่ และสาขารัตนาธิเบศร์ รวมเป็น 17 สาขา และได้ออกผลิตภัณฑ์เงินฝากปลอดภาษี รวมทั้งเพิ่มช่องทางการชำระเงินให้แก่ลูกค้าสินเชื่อ เช่าซื้อ ผ่านทาง Pay at Post
หลังจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ยุติการพิจารณาแผนการปรับโครงสร้างการถือหุ้นเป็นบริษัทโฮลดิ้ง เนื่องจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังไม่ผ่อนผันให้บริษัท ทิสโก้คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นในธนาคารเกินร้อยละ 5 ธนาคาร และบริษัทย่อยในโครงสร้างปัจจุบันที่มีธนาคารเป็นบริษัทแม่ของกลุ่มทิสโก้ ถือหุ้นในบริษัทย่อยต่างๆ ยังสามารถดำเนินธุรกิจให้เติบโต และดำรงการจ่ายเงินปันผลในระดับสูงได้ตามแผนงานที่วางไว้ โดยในปีนี้ ธนาคารได้ประกาศจ่ายเงินปันผล 2 บาท สำหรับหุ้นสามัญ และ 3 บาท สำหรับหุ้นบุริมสิทธิ คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลที่ร้อยละ 106 ของกำไรรวมของธนาคารและบริษัทย่อย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ