กรุงเทพฯ--3 ธ.ค.--อาร์ค เวิลด์ไวด์
กลับมาอีกครั้งกับเวทีการแข่งขันสุดยอดช่างผมนานาชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี “เวลล่า อินเตอร์เนชั่นแนล เทรนด์ วิชั่น อวอร์ด 2010” ซึ่งถือเป็นเวทีชั้นเซียนที่ได้รับการยอมรับและเป็นเวทีอันทรงเกียรติในวงการช่างผมที่จะมาประชันฝีมือกันอย่างเต็มที่ ในปีนี้มีผู้เข้ารอบสุดท้ายถึง 81 คน จาก 53 ประเทศทั่วโลกมารวมตัวกัน ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสเพื่อเข้าแข่งขันชิงรางวัลอันทรงเกียรตินี้ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยเวลล่า โปรเฟสชั่นแนลส์ ผลิตภัณฑ์สำหรับช่างผมมืออาชีพชั้นนำระดับโลก
การแข่งขันแบ่งเป็น ประเภท Young Talent สำหรับผู้ที่อายุไม่เกิน 30 ปี และ Color ไม่จำกัดอายุ โดยมีคณะกรรมการกูรูและผู้เชี่ยวชาญที่คร่ำหวอดและเป็นที่ยอมรับในวงการช่างผม อาทิ โกลบอล ครีเอทีฟ ไดเร็กเตอร์ของเวลล่า โปรเฟสชั่นแนลส์ ยูจีน โซไลมาน (Eugene Souleiman) และ โกลบอล คัลเลอร์ ไดเรคเตอร์ จอช วูด (Josh Wood) ซึ่งเกณฑ์ในการตัดสินจะให้คะแนนในส่วนของความชำนาญและความคิดสร้างสรรค์ โดยผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนจะต้องสามารถตอบโจทย์ภายใต้เทรนด์ที่ได้เลือกได้อย่างชัดเจนมากที่สุด ซึ่งนอกจากจะต้องสามารถแสดงทักษะในการสร้างผลงานที่โดดเด่นในการออกแบบทรงและการใช้สีผมแล้ว ยังต้องมีความรู้เกี่ยวกับแฟชั่น เครื่องประดับ ในภาพรวมของการจัดแสดงผลงานของตนบนเวทีแบบครบเครื่องอีกด้วย
ผลการแข่งขันปรากฏว่า ทีมจากลาสท์ แทงเกิล ซาลอน จากประเทศออสเตรเลีย เป็นผู้ชนะประเภทยัง ทาเลนท์ และ ทีมของเดนิส ออสซิโพฟส์ สตูดิโอ จากสหพันธรัฐรัสเซีย ได้รับรางวัลชนะเลิศประเภทคัลเลอร์ ซึ่งผู้ชนะเลิศทั้งสองทีมจะได้รับรางวัลเป็นโปรแกรมการอบรมจากเวลล่า โปรเฟสชั่นแนลส์ และจะได้เดินทางไปร่วมงาน “อินเตอร์เนชั่นแนล เทรนด์ วิชั่น อวอร์ด 2011” ที่จะจัดขึ้นที่มหานครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ในปีหน้า
อภิสัณห์ อยู่กิจติชัย จากร้านโมสาซ ตัวแทนจากประเทศไทย ที่ส่งผลงาน ทรงผมแคท วูแมน ในธีมมิดไนท์ สเตจ เข้าชิงชัย ในประเภท ยังก์ ทาเลนท์ บอกว่า “ดีใจมากที่ได้มีโอกาสไปเก็บประสบการณ์ในครั้งนี้ ทำให้ได้พัฒนาตนเองและได้แรงบันดาลใจใหม่จากเพื่อนช่างผมชั้นนำจาก 53 ประเทศทั่วโลกที่เข้าร่วมการแข่งขัน งานในครั้งนี้ยิ่งใหญ่จริงๆ ไม่เสียใจเลยที่แพ้เพราะได้รับประสบการณ์มากมายก็ถือว่าคุ้มแล้ว เพราะเราก็ยอมรับในการตัดสินของคณะกรรมการ จากที่เห็นผู้ชนะในปีนี้ก็รู้สึกว่าตอนนี้เทรนด์กลับมาเป็นแนวคลาสสิกซึ่งมีเสน่ห์และอยู่ได้นาน เช่นทรงผมของทีมผู้ชนะเลิศเป็นทรงที่โกนผมด้านข้างออกและเกล้าผมขึ้น ทำให้ดูมีความแข็งแกร่งและความนุ่มนวลในเวลาเดียวกัน ซึ่งตอบโจทย์ในเรื่องความคิดสร้างสรรค์และเป็นผลงานที่แปลกแหวกแนว สำหรับผมก็ได้ผ่านมาถึงเวทีระดับโลกแห่งนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้ว อย่างไรก็จะสู้ต่อไป ปีหน้าก็จะกลับมาอีกแน่นอนครับ”
ส่วนตัวแทนประเภทคัลเลอร์ ภาสกร ตินะโส แห่งร้าน แฮร์ ไอ แอม กับทรงผม “สีสันแห่งวัฒนธรรม” ในธีมโนแมด คูทัวร์ เผยความประทับใจจากประสบการณ์ที่มีค่ามากมายจากการเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ว่า “ผมได้เรียนรู้เทคนิคต่างๆ ที่ได้จากการแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเพื่อนชาวต่างประเทศ ถือเป็นการได้เปิดมุมมองใหม่ ๆ จากที่ได้ไปสัมผัสกับวงการผม วงการแฟชั่นในต่างประเทศ ว่าเขาพัฒนากันไปถึงไหน และยังได้ทราบถึงเทรนด์ทรงผมในปีหน้าด้วย ถือว่าเป็นการไปศึกษาเพื่อกลับมาพัฒนาฝีมือของตัวเราให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น และถ้ามีโอกาสก็จะนำประสบการณ์ต่างๆ มาบอกกับช่างผมบ้านเรา เพื่อเป็นการพัฒนาวงการซาลอนบ้านเราให้เท่าเทียมเขาต่อไป แต่ช่างผมไทยเราก็ไม่ได้ด้อยกว่าเขานะครับ ช่างผมในต่างชาติ เขาก็มีวิธีและเทคนิคของเขา เพื่อตอบโจทย์ ให้ตรงกับความต้องการของลักษณะเส้นผม โครงสร้างศีรษะ หรือแฟชั่นบ้านเขา ซึ่งทั้งหมดนี้นั้นแตกต่างกับคนไทย เพื่อนๆ ต่างชาติที่ร่วมเข้าประกวดยังพูดถึงทรงผมของผมในการประกวดว่า การทำสีที่จะให้ได้สีที่สดและสวยในสภาพผมที่ดำสนิดของคนไทยแบบนี้ถือว่ายากมาก ซึ่งเขาก็ชื่นชมเราครับ”
งาน เวลล่า โปรเฟสชั่นแนลส์ อินเตอร์เนชั่นแนล เทรนด์ วิชั่น อวอร์ด 2010 จัดขึ้นท่ามกลางกูรูช่างผม ผู้ทรงคุณวุฒิและช่างผมกว่า 2,000 คนจากทั่วทุกมุมโลกที่มารวมตัวกันที่ เฟร์ยซิเนท์ ฮอล (Halle Freyssinet) ศูนย์ประชุมสุดอลังการในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดยมี แพทริค คาเมรอน (Patrick Cameron) ช่างผมชื่อดังระดับโลกเป็น ผู้ดำเนินรายการ และเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคดิจิตอล ผู้ชมทางบ้านยังสามารถชมบรรยากาศความคึกคักตื่นเต้นและการแสดงต่างๆ ภายในงาน พร้อมกับร่วมโหวตลงคะแนนให้กับผลงานที่โดนใจกันได้แบบสดๆ ทางอินเทอร์เน็ตผ่านเทคโนโลยีไลฟ์สตรีมมิ่ง (Live Streaming)
เกาะกระแสความร้อนแรงไปกับเทรนด์ผมของ เวลล่า โปรเฟสชั่นแนลส์ อินเตอร์เนชั่นแนล เทรนด์ วิชั่น สำหรับปี 2011 ที่สร้างสรรค์ขึ้นโดย จอช วูด และ ยูจีน โซไลมาน ในงานนี้ก่อนใคร ผ่านโชว์ตระการตาสไตล์โอต์กูตูร์บนแคทวอล์คที่มีความยาวถึง 40 เมตร จาก 4 สถาบันผมชื่อก้องฟ้ายุโรป ไม่ว่าจะเป็น โทนี่ แอนด์ กาย ที่สะกดสายตาทุกคู่ด้วยผมในโทนสีแดงสตรอว์เบอร์รี่ไปจนถึงสีแดงสดโทนไฟจราจรในเทรนด์ แพชชั่นนิสต้า (Passionista) ฮอบ ซาลอน เอ็ดดูเคชั่น จากอังกฤษ สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับคนดู กับเทรนด์ ลูมิน่า (Lumina) ในแนวมินิมัลลิสต์ที่ใช้เฉดสีบลอนด์จากขาว เทา รวมไปถึง โทนสีทองอ่อน และเฉดชมพูโรเซ่ถึงชมพูสด ส่วน ดิมิทรี วิโนคูรอฟ นำผู้ชมเข้าสู่บรรยากาศของป่าคนเมืองด้วยเทรนด์แกลมเมซอน (GLAMAZON) และตบท้ายด้วย แซสซูน ที่โชว์ผลงานทรงผมรูปทรงกราฟฟิกที่คมชัดสื่อถึงเทรนด์ โพลาริส (Polaris) เป็นฟินาเล่ส่งท้าย