กรุงเทพฯ--30 มี.ค.--IR PLUS
PYLON คว้างานเสาเข็มเจาะเพิ่มอีก 6 โครงการมูลค่ากว่า 127 ล้านบาท หลังเพิ่งทำสถิติตุนงานแนวราบถึง 500 ลบ.สำเร็จเมื่อต้นเดือน หนุน Backlog ทั้งงานฐานรากและงานแนวราบทะลุ 1,000 ลบ. “บดินทร์ แสงอารยะกุล” เผยเป็นผลจากได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าหลังฝากฝีมือมานาน แถมมีความพร้อมทั้งด้านเครื่องมือ บุคลากร เทคโนโลยี และฐานะการเงินแกร่ง ย้ำปีนี้ปั๊มรายได้เข้าเป้า 1,000 ลบ.หายห่วง
นายบดินทร์ แสงอารยะกุล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) หรือ PYLON กล่าวว่า บริษัทฯ ได้รับการยืนยันการจ้างงานก่อสร้างโครงการต่างๆ เพิ่มเติมจากที่แจ้งในครั้งก่อนจำนวนทั้งสิ้น 6 โครงการ รวมเป็นจำนวนเงิน 127,513,880.84 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ดังนี้ 1.โครงการ The Crest Phahonyothin 11 เป็นงานเสาเข็มเจาะ สำหรับงานอาคารของ บมจ. เอส ซี แอสเซท คอร์ปอเรชั่น ระยะเวลาก่อสร้าง 53 วัน 2.โครงการ อาคารสหสาขาวิชานานาชาติ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นงานเสาเข็มเจาะ สำหรับงานอาคาร (งานเฉพาะค่าแรง) ของ บมจ.อี เอ็ม ซี โดยมีระยะเวลาก่อสร้าง 83 วัน 3.โครงการ The Seed Migle เป็นงานเสาเข็มเจาะ สำหรับงานอาคาร (งานเฉพาะค่าแรง) ของบมจ. พฤกษา เรียล เอสเตท มีระยะเวลาก่อสร้าง 83 วัน4.โครงการ เดอะ พาร์คแลนด์ แกรนด์ อโศก-เพชรบุรี เป็นงานเสาเข็มเจาะ สำหรับงานอาคาร (งานเฉพาะค่าแรง) ของ บจ.นารายณ์ พร็อพเพอร์ตี้ มีระยะเวลาก่อสร้าง 68 วัน 5.โครงการ อาคารปฏิบัติการทางการท่องเที่ยวและการโรงแรม เป็นงานเสาเข็มเจาะ สำหรับงานอาคาร ของมหาวิทยาลัยกรุงเทพ มีระยะเวลาก่อสร้าง 68 วัน และโครงการ EQUINOX Phahol-Vibha เป็นงานเสาเข็มเจาะ สำหรับงานอาคาร ของ บมจ. เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ มีระยะเวลาก่อสร้าง 110 วัน โดยงานทั้งหมดจะรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้
“ขณะนี้เราได้รับงานทั้งงานฐานรากและงานแนวราบอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนหนึ่งเชื่อว่าเป็นผลมาจาก PYLON ได้ฝากผลงานและสร้างชื่อเสียงให้เป็นที่ยอมรับในกลุ่มลูกค้ามาช้านาน จึงทำให้ผู้ประกอบการเจ้าของโครงการไว้วางใจให้รับงานอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งล่าสุดก่อนจะได้รับงานฐานรากทั้ง 6 โครงการนี้ บริษัทฯ เพิ่งจะได้รับงานแนวราบเป็นงาน โครงการงานปรับปรุงระบบระบายน้ำด้านใต้คลองภาษีเจริญถึงคลองสนามชัย (ปรับปรุงสถานีสูบน้ำและก่อสร้างเขื่อน ค.ส.ล. คลองเลนเปน) ของ สำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร ที่มีมูลค่าโครงการรวมเป็นเงิน 320 ล้านบาท และรวมกับโครงการแนวราบอื่นๆ อีก 4-5 โครงการทำให้บริษัทฯ มี Backlog (งานในมือ) ที่เป็นงานแนวราบสูงถึง 500 ลบ. ในขณะที่งานเสาเข็มเจาะมี Backlog อยู่ใกล้เคียงกันที่ประมาณ 500 ล้านบาท จึงทำให้หลังจากที่ได้งานชุดนี้ Backlog ทะลุ 1,000 ล้านบาท เรียบร้อยแล้ว”
นายบดินทร์ กล่าวอีกว่า เมื่อมองย้อนกลับไปจะเห็นว่า บริษัทมีงานเข้ามาอย่างต่อเนื่องทุกเดือนโดยประกาศงานใหม่ในเดือน พ.ย.และธ.ค. 53 จำนวน 121.5 ล้านบาท และ 249 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนในปี 54 มีการประกาศงานในเดือน ม.ค. ก.พ. และมี.ค. 54 จำนวน 104,130 และ 320 ล้านบาท ตามลำดับ และ หลังจากนี้
บริษัทฯ จะเดินหน้าขยายงานรับเหมาก่อสร้างประเภทแนวราบ ควบคู่กับงานฐานราก หรืองานเสาเข็มเจาะ อย่างเต็มตัว เนื่องจากมีความพร้อมเป็นอย่างดี ทั้งด้านเครื่องมือและอุปกรณ์ บุคลากรผู้เชี่ยวชาญ เทคโนโลยีในการก่อสร้างและฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ทำให้แข่งขันในตลาดได้อย่างคล่องตัว โดยพร้อมจะเข้าประมูลงานทั้งภาครัฐและเอกชน และเชื่อว่าหลังจากนี้จะมีงานไหลเข้าตลาดเพิ่มขึ้นจากการเร่งขับเคลื่อนโครงการขนาดใหญ่ของทั้งภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะโครงการเมกะโปรเจ็กต่างๆ ซึ่งบริษัทฯ พยายามจะรักษาการรับงานภาครัฐ ในสัดส่วนร้อยละ 50 และภาคเอกชนสัดส่วนร้อยละ50 หลังจากมีงานภาครัฐเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ที่คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในไตรมาส 3 ปี 2554 จากปัจจุบันที่สัดส่วนการรับงานภาคเอกชนอยู่ที่ร้อยละ 60 และงานภาครัฐร้อยละ 40
เขากล่าวต่อถึงแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 1 ปี 2554 ว่า มีทิศทางที่ดีกว่าผลประกอบการในไตรมาส 4 ปี 2553 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นไตรมาสที่มีกำไรดีที่สุดของปี 2553 เนื่องจากมีโอกาสรับงานก่อสร้างใหม่ๆ หลายโครงการ รวมถึงทยอยรับรู้รายได้จากงานในมือ (Backlog) อย่างต่อเนื่อง พร้อมกล่าวย้ำว่าค่อนข้างมั่นใจว่ารายได้ในปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2553 ที่ทำได้ 630 ล้านบาท และสัดส่วนรายได้ 20% จะมาจากงานแนวราบที่เริ่มขยายตัวในทิศทางที่ดีอย่างต่อเนื่อง
ข้อมูลบริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน)
บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) (PYLON) ดำเนินธุรกิจเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างงานฐานรากงาน แบ่งออกเป็น 3 สายงานหลัก ดังนี้ คือ
1.งานเสาเข็มเจาะ (Bored Pile) เสาเข็มเจาะเป็นเสาเข็มที่นิยมใช้กับการก่อสร้างฐานรากของโครงสร้างขนาดใหญ่ และโครงสร้างอาคารในบริเวณที่มีพื้นที่จำกัด นอกจากนี้เสาเข็มเจาะยังลดมลภาวะเรื่องเสียงและแรงสั่นสะเทือนเมื่อเทียบกับการใช้เสาเข็มตอก นอกจากนั้น การก่อสร้างเสาเข็มเจาะนั้นสามารถปรับเปลี่ยนขนาดได้ ตามการออกแบบกำลังรับน้ำหนักของเสาเข็มโดยวิศวกร และสภาพชั้นดินในแต่ละพื้นที่
2.งานปรับปรุงคุณภาพดิน (Ground Improvement) มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มเสถียรภาพให้กับโครงสร้างดินเดิม ทำให้ดินมีกำลังรับน้ำหนักมากขึ้นและป้องกันการเคลื่อนตัวของดิน โดยบริษัทมีการให้บริการงานประเภทนี้โดยวิธีการอัดฉีดซีเมนต์ด้วยแรงดันสูง (Jet Grouting) ที่ความดันประมาณ 200 ถึง 400 บาร์ และ 3.งานก่อสร้างกำแพงกันดินชนิดไดอะแฟรม (Diaphragm Wall) เป็นการก่อสร้างกำแพง เพื่อใช้เป็นโครงสร้างรับน้ำหนักและป้องกันการเคลื่อนตัวของดินทางด้านข้าง ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้เพื่อเป็นโครงสร้างของชั้นจอดรถใต้ดิน กำแพงอาคารผู้โดยสารสำหรับระบบรถไฟฟ้าใต้ดิน และอุโมงค์ลอดทางแยก เป็นต้น
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :
IR PLUS : คุณจุฬารัตน์ เจริญภักดี (ฟ้า) Tel.02-5549395
E-mail : jurarat@irplus.in.th