ธนาคารกรุงเทพ เตรียมจำหน่าย 2 กองทุนใหม่ FIF เน้นลงทุนในต่างประเทศ บัวหลวงออลสตาร์ และบัวหลวงโกลบอลเฮลธ์แคร์ ของบลจ.บัวหลวง

ข่าวทั่วไป Wednesday August 8, 2007 17:07 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--8 ส.ค.--ธนาคารกรุงเทพ
ธนาคารกรุงเทพ เตรียมสาขาทั่วประเทศ เป็นตัวแทนจำหน่าย 2 กองทุนเปิด ภายใต้การบริหารจัดการของบลจ.บัวหลวง ได้แก่ บัวหลวงออลสตาร์ (BSTAR) ที่เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวม Citigroup S&P Global STAR 80% Protected Fund ที่มีวัตถุประสงค์ในการคุ้มครองเงินลงทุนในระดับ 80% ของ NAV ในสกุล USD ณ ระดับที่สูงที่สุดนับตั้งแต่วันจัดตั้งกองทุน (การคุ้มครองเงินลงทุนนี้ จะเป็นการคุ้มครองเงินลงทุนในกองทุน Citigroup S&P Global STAR 80% Protected Fund เท่านั้น) ส่วนกองทุนเปิดบัวหลวงโกลบอลเฮลธ์แคร์ (BCARE) ที่เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Wellington’s Global Health Care Equity Portfolio (Class A) เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมยา และเวชภัณฑ์ทั่วโลก BSTAR และ BCARE มีขนาดกองทุนละ 50 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณกองทุนละ 1,700 ล้านบาท กำหนดจำนวนเงินลงทุนขั้นต่ำ 20,000 บาท ผู้ลงทุนสามารถจองซื้อหน่วยลงทุนครั้งแรกได้ในราคา 10 บาท/หน่วยลงทุน ระหว่างวันที่ 15-27 สิงหาคม ศกนี้
นางรัชนี นพเมือง ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้อำนวยการลูกค้ารายย่อยนครหลวง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ทางธนาคารมีความพร้อมในการเป็นตัวแทนจำหน่ายกองทุนรวมใหม่ ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมบัวหลวง (บลจ.บัวหลวง) ที่เชื่อมโยงเงินลงทุนกับกองทุนรวมชั้นนำระดับโลก จำนวน 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดบัวหลวงออลสตาร์ (Bualuang All Star Fund หรือ BSTAR) และกองทุนเปิดบัวหลวงโกลบอลเฮลธ์แคร์ (Bualuang Global Health Care Fund หรือ BCARE) เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้ผู้ลงทุนมีทางเลือกในการลงทุนในต่างประเทศได้ง่ายขึ้น กองทุน BSTAR และกองทุน BCARE มีขนาดกองทุนละ 50 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณกองทุนละ 1,700 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หน่วยลงทุนละ 10 บาท และเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 15 — 27 สิงหาคม 2550 ในราคา 10 บาทต่อหน่วยลงทุน จำนวนเงินจองซื้อครั้งแรกขั้นต่ำ 20,000 บาท และซื้อครั้งต่อไป 10,000 บาท ผู้ลงทุนสามารถซื้อหน่วยลงทุนกองทุนเปิดบัวหลวงออลสตาร์ และบัวหลวงโกลบอลเฮลธ์แคร์ ครั้งต่อไปได้ตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคม 2550 เป็นต้นไป ที่สาขาธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทั่วประเทศ
กองทุน 2 กองทุนนี้มีความแตกต่างกัน โดย BSTAR เป็นกองทุนที่มีนโยบายเน้นการลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวม Citigroup S&P Global STARS 80% Protected Portfolio Fund ซึ่งเป็นกองทุนรวมต่างประเทศที่มีลักษณะเป็น Retail Fund โดยกองทุนนี้จะมีวัตถุประสงค์และมีกลไกในการคุ้มครองเงินลงทุนในอัตราร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ในสกุล USD ณ ระดับที่สูงที่สุดนับตั้งแต่วันจัดตั้งกองทุน และให้ผลตอบแทนอ้างอิงกับผลการดำเนินงานของสินทรัพย์อ้างอิง (Reference Asset) ซึ่งได้แก่ Portfolio ของหุ้นทั่วโลกที่คัดสรรมาโดยวิธีการของ S&P STARS System ว่าเป็นหุ้นที่มีศักยภาพดีที่สุดไม่เกิน 25 หุ้น BSTAR จึงให้โอกาสผู้ลงทุนในการรับผลประโยชน์ที่ดี ในเวลาที่ตลาดปรับตัวสูงขึ้น และช่วยลดความเสี่ยงในเวลาที่ตลาดอยู่ในช่วงขาลง
ด้าน BCARE มีนโยบายเน้นการลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวม Wellington’s Global Health Care Equity Portfolio (Class A) ซึ่งเป็นกองทุนรวมต่างประเทศที่เน้นลงทุนในกลุ่ม Health Care ทั่วโลก สาเหตุที่คัดเลือกลงทุนใน Health Care Sector นั้นเป็นเพราะอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับเภสัชกรรม เวชภัณฑ์ การรักษาพยาบาลและบริการทางสุขภาพ เป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ที่ทุกคนขาดมิได้ มีแนวโน้มเติบโตดี และเป็นอุตสาหกรรมที่ให้ผลตอบแทนในระยะยาวที่ดีกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมอื่น ๆ รวมกัน ข้อเท็จจริงที่สำคัญคือในทุก ๆ ครอบครัวอาจจะมีสมาชิกคนใด หรือหลายคนใช้ยารักษาโรคเป็นประจำ ประกอบกับแนวโน้มประชาชนทั่วโลกจะมีจำนวนมากขึ้น คนชราที่อายุยืนยาวจะมีสัดส่วนที่สูงขึ้นมากเช่นเดียวกัน คนกลุ่มนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่จะมีการใช้ยาและบริการรักษาสุขภาพมากขึ้น ข้อมูลเหล่านี้สนับสนุนให้เห็นว่าอุตสาหกรรม Health Care ย่อมจะมีแนวโน้มเจริญเติบโตตามไปด้วย
นางรัชนี กล่าวเพิ่มเติมว่า การลงทุนในต่างประเทศเป็นสิ่งที่ผู้ลงทุนควรพิจารณา เพราะเป็นการเพิ่มโอกาสให้คนไทยสามารถมีส่วนในการได้รับผลตอบแทนในระยะยาว จากสินค้าและบริการที่ลูกค้าไม่สามารถลงทุนได้ในประเทศ ทั้ง ๆ ที่สินค้าและบริการนั้น ๆ อาจเป็นสิ่งที่เราซื้อหาอยู่ทุกวัน ดังนั้น การลงทุนในกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศจึงเป็นช่องทางให้เราได้มีส่วนแบ่งในผลประโยชน์ของกิจการเหล่านั้นได้ ด้วยเงินเริ่มต้นจำนวนน้อยอีกด้วย
ในส่วนของการรับซื้อคืนหน่วยลงทุน ผู้ถือหน่วยลงทุนจะสามารถขายคืนหน่วยลงทุน หลังจากจดทะเบียนกองทุนกับสำนักงาน ก.ล.ต.แล้ว โดยจะรับซื้อคืนเดือนละ 1 วัน ในวันทำการสุดท้ายของเดือน โดยผู้ลงทุนต้องส่งคำสั่งขายคืนล่วงหน้า 3 วันทำการก่อนวันทำการสุดท้ายของเดือน ผ่านสาขาธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทั่วประเทศ และเพื่อความสะดวกของผู้ลงทุน บลจ.บัวหลวง จะประกาศวันรับซื้อคืนของกองทุนทั้ง 2 กองทุน ล่วงหน้าผ่านเว็บไซต์ของ บลจ.และที่สาขาธนาคารกรุงเทพ อนึ่งเพื่อให้การลงทุนได้ผลประโยชน์สูงสุดตามนโยบายการบริหารกองทุน บลจ.บัวหลวงได้แนะนำว่าผู้ลงทุนควรลงทุนระยะยาวในทั้ง 2 กองทุน
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน โดยสามารถขอข้อมูลเพิ่มเติมหรือรับหนังสือชี้ชวนได้ที่สาขาธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบัวหลวงโฟน โทร. 1333 หรือ บลจ.บัวหลวง โทร. 0-2679-6400 กด 8
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
พร้อมพร เวชชาชีวะ (แตง) โทร. 0-2230-2709
ธนัชพร จารุวนากุล (กี๊ฟ) โทร. 0-2353-5348

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ