กรุงเทพฯ--2 ก.พ.--เจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง
บริษัท เจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GEN ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและผู้ผลิตและให้บริการเสาเข็มรายใหญ่ในประเทศไทย ตั้งเป้าสร้างผลกำไรให้เติบโตในปีนี้ โดยลดค่าใช้จ่ายและควบคุมต้นทุนการผลิตเพื่อสร้างผลกำไรจากการประกอบการต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา
นายกิตติชัย รักตะกนิษฐ์ กรรมการผู้จัดการ GEN เปิดเผยว่าปีนี้ บริษัทฯ น่าจะสามารถสร้างผลกำไรได้อย่างต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา ทั้งนี้เพราะราคาน้ำมันไม่สูงมากเหมือนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ บริษัทฯ จะเร่งดำเนินการลดต้นทุนการผลิต จึงมั่นใจว่าผลประกอบการในปีนี้ น่าจะสร้างความพึงพอใจให้กับผู้ถือหุ้นได้
“ความจริงแล้ว ที่ผ่านมา เราเองก็ได้ดำเนินการลดต้นทุนการผลิตอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว แต่ยังมีกระบวนการลดต้นทุนให้ต่ำลงมาได้อีก เช่นหากสามารถลดความสูญเสียในกระบวนการผลิตได้ ก็เท่ากับต้นทุนการผลิตลดลงโดยปริยาย เป็นต้น” นายกิตติชัยกล่าว
นายกิตติชัยกล่าวว่าปัจจุบัน ธุรกิจเสาเข็มสร้างผลกำไรประมาณ 3-4 % แต่จากเป้าในการลดความสูญเสียดังกล่าว อีกทั้งบริษัทฯ ได้ขยายผลิตภัณฑ์เสาเข็มเพิ่มเติมเมื่อกลางปีที่แล้ว อัตราผลตอบแทนสำหรับธุรกิจเสาเข็มของบริษัทฯ น่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 6-8%
“จากข้อมูลที่เราได้จากการดำเนินการ ทำให้เราต้องหันกลับมาพิจารณาใหม่ว่าธุรกิจเสาเข็มนั้น ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากหากเราสามารถทำราคาให้แข่งขันได้มากขึ้น ทั้งนี้เพราะเสาเข็มของ GEN นั้นเป็นที่ต้องการของตลาดอยู่แล้ว เนื่องจากคุณภาพที่ได้มาตรฐานและบริการที่ดี” นายกิตติชัยกล่าว
สำหรับผลประกอบการในช่วง 3 ไตรมาสของปีที่แล้วนั้น GEN มีผลกำไรสุทธิ จากการดำเนินงาน 8.4ล้านบาท โดยมียอดขายราว 737.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2548 สำหรับผลประกอบการตลอดปีที่แล้ว คาดว่ายอดขายจะทะลุ 1,000 ล้านบาท โดยเสาเข็มยังคงมีสัดส่วนของยอดขายกว่า 60% ส่วนที่เหลือเป็นยอดขายในผลิตภัณฑ์อื่น ๆ
“ส่วนปีนี้ ผมตั้งเป้าการเติบโตของบริษัทฯ ไว้ที่ 12 % โดยปีนี้ นอกจากการรับจ้างสร้างบ้านที่บริษัทฯ ได้ดำเนินการในปีที่แล้ว เรายังจะบุกตลาดผลิตภัณฑ์ที่มีอัตราผลตอบแทนสูง จึงทำให้เราเชื่อมั่นว่าเราจะสามารถสร้างผลกำไรได้ต่อเนื่องจากปีที่แล้วอย่างแน่นอน” นายกิตติชัยกล่าว
ทางด้านนายวิชญา จาติกวณิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวเพิ่มเติมว่าตลาดเสาเข็มในปีนี้ ยังจะเติบโตต่อไป ทั้งนี้เพราะรัฐบาลได้ประกาศเดินหน้าโครงการ Mega Project ซึ่งถือเป็นการกระตุ้นการใช้เสาเข็มและวัสดุก่อสร้างต่อเนื่องจากโครงการของภาครัฐ
“สำหรับเรานั้น ถึงแม้ว่าจะไม่ได้รับงานโดยตรงจากภาคราชการก็ตาม แต่ผู้รับเหมาที่รับงานราชการส่วนใหญ่มีความสัมพันธ์อันดีกับเรา และมีความเชื่อมั่นในคุณภาพของสินค้าเรา นอกจากนี้ปัจจุบันบริษัทฯ ได้รับคำสั่งซื้อเสาเข็มอย่างต่อเนื่อง ทำให้เราสามารถรักษาระดับของ Back Log ได้ที่ 400 ล้านบาท แต่ที่เราเน้นอย่างมากก็คือเราจะเลือกรับงานที่เรามั่นใจว่าไม่มีปัญหาทางการเงิน” นายวิชญากล่าว
นายวิชญากล่าวเพิ่มเติมว่าจากนโยบายของกรรมการผู้จัดการคนใหม่ที่เน้นการลดอัตราสูญเสียลงนั้น จะทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง เมื่อผนวกกับต้นทุนด้านขนส่งที่ไม่สูงขึ้น จึงเชื่อว่าราคาต่อหน่วยของบริษัทฯ จะสามารถแข่งขันได้ ดังนั้นยอดขายของเสาเข็มจะต้องเติบโตเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 10 % เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว
ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ: วิรัตน์ ตรีรานุรัตน์
โทรศัพท์: 081 682 2575
Email: virathr@gmail.com