กรุงเทพฯ--4 ม.ค.--L&E L&E เผยผลงานรอบปี 2549 ยังเติบโตได้เกิน 10% แม้มีปัจจัยลบรุมเพียบทั้งราคาน้ำมัน อัตราดอกเบี้ย และการเมือง เหตุยังสามารถครองความเป็นเจ้าตลาดโคมไฟในงานขายโครงการ แถมพัฒนาสินค้าใหม่บุกตลาดต่อเนื่อง ส่วนปี 2550 มั่นใจยังขยายตัวได้เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมุ่งลุยตลาดงานโครงการเต็มที่ ในขณะเดียวกันเร่งขยายฐานลูกค้าใหม่ให้กว้างขึ้น ผนวกกับการใช้จุดแข็งเรื่องสินค้าแปลกใหม่และบริการที่แตกต่างจากคู่แข่ง ส่งผลปีนี้ดันรายได้พุ่งไม่ต่ำกว่า 20% นายปกรณ์ บริมาสพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ L&E กล่าวถึงภาพรวมธุรกิจในปี 2549 ว่า แม้ในปีที่ผ่านมาประเทศไทยจะประสบกับปัญหาเรื่องราคาน้ำมัน และอัตราดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้น รวมทั้งการเมืองที่ขาดเสถียรภาพ แต่บริษัทมีการเติบโตในอัตราเกินกว่า 10% ตามเป้าที่วางไว้ได้ เพราะยังสามารถครองความเป็นผู้นำทางด้านงานขายโครงการ ในขณะที่งานขายส่งและขายปลีกได้ขยายฐานลูกค้ามากขึ้นและที่สำคัญ L&E ได้พัฒนาสินค้าใหม่ ๆ สำหรับงานโครงการบางแห่ง ซึ่งทำให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น เมื่อเทียบกับปี 2548 สำหรับแนวโน้มธุรกิจในปี 2550 เชื่อว่าปัจจัยลบในปี 2549 จะเริ่มคลี่คลายลง ส่งผลให้หลายภาคธุรกิจยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ L&E ได้ปรับตัวให้สอดคล้องกับธุรกิจที่ได้เปลี่ยนแปลงไป ทั้งเรื่องต้นทุนของสินค้า และภาคการผลิต “ในส่วนของต้นทุนในปีนี้มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นไม่สูงนัก แต่ถ้าหากเพิ่มสูงขึ้นเกินกว่าที่คาดไว้ ก็เชื่อว่าจะสามารถปรับราคาขายให้สะท้อนกับต้นทุนได้ส่วนหนึ่ง ส่วนที่เหลือเราจะหาทางลดต้นทุน ด้วยการปรับปรุงการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งในไตรมาสที่ 3/50 บริษัทฯเชื่อว่าจะสามารถเปลี่ยนเครื่องจักรใหม่ทั้งหมด และพร้อมที่จะผลิตได้เต็มที่ตามที่ได้รับการส่งเสริมจาก BOI เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2549 ซึ่งจะทำให้ผลิตสินค้าได้รวดเร็ว มีคุณภาพ และต้นทุนต่ำลง ซึ่งจะส่งผลดีต่อ L&E อย่างชัดเจน” เขากล่าวต่อว่า เป้าหมายของ L&E จะยังคงเน้นรักษาความเป็นผู้นำในสินค้าโคมไฟฟ้าในงานขายโครงการและจะขยายงานขายส่งและขายปลีกเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่งานขายส่งจะเริ่มใช้แนวคิดเรื่องการจัดตั้งพันธมิตรทางการตลาดในจังหวัดที่สำคัญบางแห่ง เพื่อให้พันธมิตรสามารถโชว์สินค้าได้อย่างครบครัน โดยบริษัทจะให้การสนับสนุนด้านการเจาะตลาด ซึ่งจะทำให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้กว้างขวางขึ้น ขณะเดียวกัน ด้านตลาดส่งออกบริษัทจะเพิ่มกิจกรรมในประเทศเวียดนามและประเทศอื่นๆในภูมิภาคอาเซียน ตะวันออกกลาง และอเมริกาให้มากขึ้น โดยยังให้ความสำคัญกับจุดแข็งที่มีอยู่ คือ การเสนอสินค้าที่ครบวงจร การบริการแนะนำผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับงานแต่ละประเภทรวมถึงการออกแบบระบบแสงสว่างให้กับงานบางแห่งที่ต้องการรายละเอียดเป็นพิเศษ ซึ่งยังเป็นจุดเด่นของ L&E ที่คู่แข่งทั่วไปยังไม่สามารถนำเสนอได้ จากเหตุผลดังกล่าวทำให้บริษัทมั่นใจว่า ในปี 2550 บริษัทจะสามารถขยายธุรกิจและผลักดันรายได้เติบโตต่อเนื่องจากปี 2549 ได้ไม่น้อยกว่า 20% ประกอบกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของบริษัทที่ยังมีการเติบโต ทำให้ความต้องการใช้สินค้าโคมไฟยังขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะร้านค้าย่อยต่าง ๆ รวมทั้งโชว์รูมที่มีแนวโน้มขยายตัวในอัตราที่สูงขึ้น เช่นเดียวกับการเติบโตในอัตราสูงของโรงแรมและรีสอร์ทต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณชายฝั่งทะเลภาคใต้ ซึ่งมีผลมาจากการเติบโตของธุรกิจท่องเที่ยว รวมทั้งการก่อสร้างทาวน์เฮาส์และคอนโดมีเนียมมีแนวโน้มขยายตัวในอัตราค่อนข้างสูง และแม้กระทั่งโรงงานอุตสาหกรรม และอาคารของภาครัฐก็ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปริมาณการใช้ไฟในการตกแต่งอาคารยังเติบโตได้ดีในทิศทางเดียวกัน ถึงแม้ว่าการก่อสร้างและการปรับปรุงห้างสรรพสินค้าและซุปเปอร์สโตร์จะขยายตัวในอัตราที่ลดลงเมื่อเทียบกับปี 2549 ก็ตาม "ในปี 2550 โคมไฟฟ้าประหยัดพลังงาน รวมทั้งโคมไฟฟ้าที่ออกแบบให้เหมาะกับงาน เช่น โคมไฟฟ้าที่เน้นให้สินค้าต่าง ๆ ดูเด่น รวมทั้งสินค้าที่ทำให้อาคารที่อยู่อาศัยดูสบาย ๆ จะมีบทบาทเพิ่มสูงขึ้น บริษัทฯจึงได้เตรียมพัฒนาสินค้าดังกล่าวเพื่อรองรับกับความต้องการของลูกค้าที่จะเข้ามาในอนาคต ดังนั้น แม้ความต้องการใช้โคมไฟฟ้าในธุรกิจเดิม ๆ จะลดลงแต่ก็มีกลุ่มใหม่เข้ามาเพิ่มขึ้น ธุรกิจจึงยังเติบโตได้ดีและเรามั่นใจว่าปีนี้จะสามารถผลักดันรายได้ให้เติบโตไม่น้อยกว่า 20% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา " นายปกรณ์กล่าวในที่สุด สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม : ติดต่อ คุณณัฐพงษ์ ใจแกล้ว โทร. 02-5549396-7 หรือ 01- 4010226