กรุงเทพฯ--23 ม.ค.--ก.ล.ต.
ก.ล.ต. สั่งพักการปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ติดต่อกับผู้ลงทุน ดังนี้ (1) นางประทานพร เกษมกุลศิริ เป็นระยะเวลา 1 ปี (2) นางกิตติวรรณ จงนรังสิน เป็นระยะเวลา 3 เดือน (พักการเป็นผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าด้วย) และสั่งภาคทัณฑ์ (3) นางสาวอาทิตยา ชีวะธรรมรัตน์ (4) นายกันตสิทธิ์ มันตารัตน์
(5) นางประไพวัลย์ สนองชาติ (6) นายกิตติ พรหมขจร (7) นายสมบัติ นาคเจริญวงศ์ (8) นางสาวนันทวันทน์ บุญช่วย (9) นางสาวนิติกานต์ บวรประภากร (10) นายวุฒิกรณ์ บวรประภากร (11) นางสาวลีลาวดี กาจารี และ (12) นางสาวปิยะนาถ สุวิทย์ศักดานนท์ ในการปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนเป็นระยะเวลา 1 ปี
ผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนทั้ง 12 ราย มีการกระทำหรือพฤติกรรมที่เข้าข่ายเป็นการปฏิบัติหน้าที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานการปฏิบัติงานตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ที่ สข. 15/2548 เรื่อง การให้ความเห็นชอบผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนและมาตรฐานการปฏิบัติงาน ลงวันที่ 21 มิถุนายน 2548 โดยตรวจพบการกระทำหรือพฤติกรรม ดังนี้
รายที่ 1 นางประทานพรวางแผนให้ลูกค้าแบ่งเงินที่นำฝากผ่านเคานเตอร์ธนาคารเพื่อเข้าบัญชีของบริษัทหลักทรัพย์ออกเป็นรายการย่อย ๆ รายการละไม่เกิน 2 ล้านบาท เพื่อเลี่ยงไม่ต้องรายงานธุรกรรมเกี่ยวกับการเงินตามกฎหมายป้องกันและปรายปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และเตรียมการกับบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ลูกค้าหรือผู้รับมอบอำนาจของลูกค้า สร้างหลักฐานยืนยันรายการในระบบบันทึกเทปของบริษัทหลักทรัพย์ เพื่อให้บริษัทและทางการเข้าใจว่า ตนได้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์แล้ว
รายที่ 2 นางกิติวรรณตัดสินใจซื้อขายหลักทรัพย์แทนลูกค้าโดยพลการ และมีการส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ในบัญชีลูกค้ารายหนึ่งโดยมีวัตถุประสงค์ให้ราคาหลักทรัพย์ดังกล่าวสูงขึ้น เพื่อให้มีผลให้วงเงินของลูกค้าอีกรายหนึ่งที่มีหลักทรัพย์เดียวกันนั้นอยู่ มีมูลค่าสูงขึ้น นอกจากนี้ ยังมีเจตนาหลีกเลี่ยงการบันทึกเทป โดยแจ้งให้ลูกค้าติดต่อทางโทรศัพท์มือถือแทน
รายที่ 3 นางสาวอาทิตยาตัดสินใจซื้อขายหลักทรัพย์แทนลูกค้าโดยพลการ
รายที่ 4 นายกันตสิทธิ์รับมอบอำนาจจากลูกค้าในการซื้อขายหลักทรัพย์และบางครั้งตัดสินใจเองโดยพลการ นอกจากนี้ ยังรับคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์จากลูกค้าโดยมิได้บันทึกเทป
รายที่ 5 — 12 มีพฤติกรรมเปิดเผยรหัสประจำตัวเจ้าหน้าที่รับอนุญาตให้บุคคลอื่นทราบและไม่ใช้รหัสประจำตัวเจ้าหน้าที่รับอนุญาตของตนในการส่งคำสั่งซื้อขาย และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้พิจารณาลงโทษ
ก.ล.ต. ขอเรียนว่า การตรวจพบการกระทำที่ไม่เหมาะสมของผู้ติดต่อกับผู้ลงทุน ส่วนหนึ่งมาจากระบบควบคุมภายในที่มีประสิทธิภาพ และการทำงานที่เคร่งครัด เอาจริงเอาจัง ของบริษัทหลักทรัพย์ ซึ่งถือเป็นพัฒนาการการกำกับดูแลกิจการที่ดีของธุรกิจหลักทรัพย์ โดยประโยชน์ที่ได้ในส่วนนี้จะยังผลให้ตลาดทุนมีความน่าเชื่อถือ ผู้ลงทุนมีความมั่นใจในการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์และการใช้บริการบริษัทหลักทรัพย์ต่อไป