ไขพฤติกรรม "นอนกัดฟัน" ของลูกน้อย

ข่าวทั่วไป Friday August 5, 2011 16:12 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--5 ส.ค.--Mask media ผศ.ดร.ทพญ.เปรมทิพย์ ชลิดาพงศ์ คลินิกนอนกรนและนอนกัดฟัน ศูนย์ทันตกรรม โรงพยาบาลปิยะเวท คุณพ่อ คุณแม่หลายท่านอาจจะต้องสะดุ้งตื่นมากลางดึก เพราะได้ยินเสียงกัดฟันกรอดๆ ของลูกน้อยที่นอนหลับสนิท จนทำให้ต้องคอยสังเกตลักษณะในการนอนของลูกรัก หลังจากที่ได้ยินเสียงฟันถูไปถูมา โดยที่ลูกมักจะไม่รู้ตัวเลยว่าเป็นโรคนอนกัดฟัน ซึ่งนี่อาจเป็นบ่อเกิดสำคัญของปัญหาสุขภาพฟันของลูก ที่จะกลายเป็นปัญหาหนักอกหนักใจของคุณพ่อคุณแม่ในอนาคต ผศ.ดร.ทพญ.เปรมทิพย์ ชลิดาพงศ์ คลินิกนอนกรนและนอนกัดฟัน แห่งศูนย์ทันตกรรม โรงพยาบาลปิยะเวท ได้ไขพฤติกรรมการนอนกัดฟันของลูกให้ฟังว่า การนอนกัดฟันจะพบได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ถึงแม้ว่ายังไม่สามารถหาคำอธิบายถึงสาเหตุที่แท้จริงของอาการนอนกัดฟันได้ แต่กลับพบปัจจัยเสี่ยงของเด็กที่ชอบนอนกัดฟัน ซึ่งเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยดังต่อไปนี้ 1. สภาพจิตใจ ที่เกิดจากการความตึงเครียด ความวิตกกังวล ก็มีส่วนไปกระตุ้นให้เกิดอาการนอนกัดฟันได้ 2. สังเกตทางพันธุกรรม ในครอบครัวที่พ่อหรือแม่นอนกัดฟัน มีเด็กมีพี่หรือน้องนอนกัดฟัน ลูกจึงมีโอกาสสูงที่จะนอนกัดฟันได้เหมือนกัน 3. เกิดจากร่างกายของตัวเด็กเอง ที่สมองและระบบประสาทอัตโนมัติถูกกระตุ้นมากเกินจึงทำให้เกิดพฤติกรรมเช่นนั้นได้ 4. ยาบางชนิด เช่น ยาต้านโรคซึมเศร้าบางตัว อาจกระตุ้นการนอนกัดฟัน แต่มักเกิดกับผู้ใหญ่ที่มีพฤติกรรมนอนกัดฟันมากกว่าในเด็ก อย่างไรก็ดี เด็กที่ชอบนอนกัดฟันอาจพบร่วมกับโรคและพฤติกรรมที่ผิดปกติในขณะนอนหลับอื่นๆได้ด้วย เช่น นอนละเมอพูด หรือละเมอเดิน ปัสสาวะรดที่นอน นอนกรนและโรคทางเดินหายใจอุดกั้นทำให้หยุดหายใจเป็นพักๆ ขณะหลับ และ โรคสมาธิสั้น ซึ่งสามารถเกิดอาการควบคู่กับการนอนกัดฟันในตัวเด็กได้ ผู้ปกครองควรสังเกตด้วยว่าเด็กมีโรคอื่นๆ เกิดร่วมหรือไม่และควรนำลูกไปพบแพทย์เพื่อรักษาโรคนั้นๆด้วย เด็กที่นอนกัดฟันบางคนอาจบ่นว่าปวดตรงข้อต่อขากรรไกร ร้าวไปที่ในหู หรือปวดๆ เมื่อยๆเวลาอ้าปาก เคี้ยวอาหาร บริเวณแก้มหรือขมับเพราะกล้ามเนื้อบดเคี้ยวเมื่อยล้าจากพฤติกรรมนอนกัดฟัน หรือบ่นปวดศีรษะบ่อยๆ อาการนี้อาจเป็นข้อบ่งชี้ได้ว่าลูกนอนกัดฟัน เด็กที่นอนกัดฟันจนเสียงดังมาก ก็อาจจะทำให้ฟันของลูกเริ่มมีขนาดสั้นลง ก่อให้เกิดอันตรายถึงโครงสร้างของฟันได้ จนสามารถไปทะลุถึงโพรงประสาทฟันเลยก็ได้ ทั้งนี้ โครงสร้างของฟันภายนอกจะประกอบไปด้วย เคลือบฟัน เนื้อฟัน และเส้นประสาทที่อยู่ตรงกลาง เมื่อได้รับการสึกกร่อนมากเกิน ผลที่จะได้รับ ก็คือ เกิดอาการเสียวฟัน ฟันบิ่นแตก และฟันร้าว หรือกัดลิ้น กัดแก้ม เกิดเป็นแผลในปากบ่อยๆเป็นต้น เพื่อช่วยป้องกันฟันสึกและลดอาการปวดเมื่อยขากรรไกรและปวดศีรษะ อาจจะจำเป็นต้องใส่เฝือกสบฟันในขณะนอน ทั้งยังลดเสียงกัดฟันได้ด้วย" คุณหมออธิบายถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการนอนกัดฟัน พฤติกรรมนอนกัดฟัน ในบางครั้งไม่มีเสียงดังก็ได้ เพราะเป็นแบบกัดฟันแน่นๆ ไม่ใช่กัดแบบฟันถูไปถูมา ถ้าเป็นแบบนี้ก็จะสังเกตยากมากเพราะไม่มีเสียงดังให้ได้ยิน ต้องพามาให้ทันตแพทย์ช่วยตรวจหาดูว่ามีฟันที่สึกหรือไม่ หรืออาจสังเกตจากอาการปวดขากรรไกรหรือปวดศีรษะบ่อยๆแทนอย่างไรก็ดี คุณพ่อคุณแม่ต้องเป็นผู้สังเกต และควรรีบแก้ไขตอนที่ลูกยังเล็ก โดยคุณพ่อคุณแม่ที่นอนห้องเดียวกับลูก สามารถสังเกตพฤติกรรมของลูกได้ดี เพราะเด็กจะไม่รู้ตัวเองว่าการนอนกัดฟัน แต่สำหรับเด็กที่ต้องนอนคนเดียว แยกห้องนอนกับพ่อแม่ คงเป็นไปได้ยากที่จะสังเกตการณ์พฤติกรรมของลูก ดังนั้น การสังเกต ถือเป็นการวินิจฉัยโรคนี้ได้ดี รวมไปถึงการสังเกตจากฟันที่สึกกร่อนออกไป หรือให้ทันตแพทย์ตรวจสุขภาพปากฟัน ก็สามารถทำให้ทราบว่าเด็กนอนกัดฟันหรือไม่ เมื่อเห็นลูกนอนกัดฟันบ่อย จนรุนแรงแล้วมีอาการปวดขากรรไกร ปวดศีรษะ ฟันสึก เสียวฟัน ก็ควรมาปรึกษาทันตแพทย์ เพื่อทำการรักษาด้วยเครื่องมือแพทย์ (เฝือกสบฟัน) หากเด็กที่นอนกัดฟัน อย่าง 2 หรือ 3 เดือน นอนกัดฟันซัก 1 ครั้ง ก็คงต้องดูอาการไปก่อน คอยสังเกตดูว่าฟันของลูกมีความสึกกร่อนมากน้อยแค่ไหน คอยถามลูกว่ามีความเจ็บปวดตรงไหนหรือเปล่า หากโตขึ้นอาการยังไม่หาย ก็คงต้องใส่เครื่องมือเฝือกสบฟัน ปกป้องไม่ให้ฟันแท้สึก คุณหมอได้เสริม ทั้งนี้ คุณหมอท่านนี้ได้แนะวิธีการนอนที่ถูกสุขลักษณะสำหรับบ้านที่มีลูกชอบนอนกัดฟันไว้ 4 วิธี คือ - ลักษณะห้องที่นอนต้องเหมาะสม เงียบ สงบ แสงไม่จ้า เพื่อให้ลูกนอนหลับได้ดี - ไม่ควรกินอาหารมื้อหนัก ก่อนจะนอนภายใน 3 ชั่วโมง แต่อาจจะเปลี่ยนเป็นดื่มนมอุ่นๆ แทน เพื่อให้นอนหลับสบายมากขึ้น - ไม่ควรออกกำลังกายหนักจนเกินไป ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว เด็กจะชอบวิ่งเล่นก่อนเข้านอน อาจทำให้เด็กนอนไม่หลับได้ - เมื่อถึงเวลานอนก็ควรให้เด็กได้เข้านอนเป็นเวลา ไม่ควรให้มาดูหนัง ดูทีวี หรือว่าจะเล่นเกมคอมพิวเตอร์ สิ่งพวกนี้มันยังทำให้เขายังมีความตื่นเต้นอยู่ได้ ขอขอบพระคุณที่พิจารณาข่าวนี้ By Mask media Tel. 0-2732-6070 email:maskmedia9@hotmail.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ