กรุงเทพฯ--10 ส.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
ข้อมูลทองคำวันนี้
- ราคาสมาคม เปิดที่ 24,750-24,850
- ราคา Gold Spot เปิดที่ 1,755.5
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท 29.82-29.85
- GFQ11 Hi- Low 25,750-24,210 ปิดที่ 25,270
Gold & Silver Insight
สัญญาทองคำ และ โลหะเงินตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 29.80 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 1,743.00 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ร่วงลง 1.497 ดอลลาร์ หรือ 3.8% ปิดที่ 37.883 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นพิเศษต่อไปอีกจนถึงกลางปี 2556 ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยกระตุ้นแรงซื้อเข้าสู่ตลาดทองคำอย่างล้นหลาม เนื่องจากการตรึงอัตราดอกเบี้ยต่ำจะทำให้ต้นทุนการถือครองทองคำปรับตัวลดลง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 429.92 จุด หรือ 4% ปิดที่ 11239.77 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1172.53 จุด หรือ 4.7% ปรับตัวขึ้น 53.07 จุด ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 2482.52 จุด หรือ 5.3% พุ่งขึ้น 124.83 จุด หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นพิเศษต่อไปอีก 2 ปี ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยให้ตลาดคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากที่ตลาดร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันจันทร์ อันเนื่องมาจากข่าวสหรัฐถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือ
สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือนก.ย.ร่วงลง 2.01 ดอลลาร์ หรือ 2.47% ปิดที่ 79.30 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนรู้สึกผิดหวังที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในการประชุมเมื่อวานนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจจะเข้าสู่ภาวะถดถอยครั้งใหม่ หลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ ซึ่งความกังวลในเรื่องดังกล่าวส่งผลให้สัญญาน้ำมัน NYMEX ร่วงลงหลุดจากแนวรับที่ระดับ 80 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบ 10 เดือน
กองทุน SPDR Gold Trust กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. วันที่ 10 สิงหาคม ขายออก 13.02 ตัน เปลี่ยนแปลงการถือครองจากระดับ 1309.92 ตัน เข้าสู่ระดับ 1296.90 ตัน
USD/EU ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลล่าร์สหรัฐในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (9 ส.ค.) โดยดอลลาร์ดิ่งลงกว่า 5% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิส หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นพิเศษต่อไปอีกจนถึงกลางปี 2556 ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะทำให้ดอลลาร์สหรัฐมีมูลค่าลดลง ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 1.37% เมื่อเทียบกับยูโรที่ระดับ 1.4368 ยูโรต่อดอลล่าร์ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.4174 ยูโรต่อดอลล่าร์ โดยค่าเงินดอลล่าร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลยูโรเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 1.4342 ดอลล่าร์ต่อยูโร
USD/JPY ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้น 0.90% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 77.030 เยนต่อดอลล่าร์ จากระดับ 77.730 เยนต่อดอลล่าร์ โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลเยนเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 76.98 เยนต่อดอลลาร์
USD/THB ค่าเงินบาทปิดตลาดวานนี้ อยู่ที่ระดับ 29.89-29.91บาทต่อดอลล่าร์ ซึ่งไม่มีการเคลื่อนไหวมากนักระหว่างวัน โดยค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ระดับ 29.82-29.85บาทต่อดอลล่าร์
ข่าวเศรษฐกิจโลก
- สำนักงานสารนิเทศด้านพลังงานของรัฐบาลกลางสหรัฐ (EIA) คาดการณ์ว่า ปริมาณการใช้น้ำมันดิบและเชื้อเพลิงทั่วโลกจะขยายตัว 1.4 ล้านบาร์เรล/วันในปี 2554 และเพิ่มขึ้น 1.6 ล้านบาร์เรล/วันในปี 2555 มากกว่าการขยายตัวโดยเฉลี่ยในช่วงปี 2541-2550 ที่ระดับ 1.3 ล้านบาร์เรล รายงานประจำเดือนของ EIA ระบุว่า ปริมาณการใช้น้ำมันดิบและเชื้อเพลิงทั่วโลกในปี 2553 พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 86.8 ล้านบาร์เรล EIA คาดการณ์ว่า การขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันดิบทั่วโลกจะมีอยู่มากกว่าปริมาณน้ำมันที่ผลิตได้จากผู้ผลิตนอกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) และคาดว่ากลุ่มโอเปคจะยังไม่เพิ่มปริมาณการผลิตในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้านี้
- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed funds rate) ที่ระดับ 0-0.25 % ในการประชุมเมื่อวานนี้ (9 ส.ค.) พร้อมประกาศว่าจะใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นพิเศษต่อไปอีกอย่างน้อยจนถึงกลางปี 2556 นอกจากนี้ เฟดส่งสัญญาณว่าอาจจะมีการใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ การประชุมครั้งนี้ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) ได้ปรับลดการประเมินเศรษฐกิจลงจากที่ประเมินไว้ในการประชุมเมื่อเดือนมิ.ย. โดยกล่าวว่า "การขยายตัวของเศรษฐกิจชะลอตัวลงมากกว่าที่คณะกรรมการเอฟโอเอ็มซีคาดการณ์ไว้ โดยตัวเลขการใช้จ่ายภาคครัวเรือนชะลอตัวลง และการลงทุนนอกภาคอสังหาริมทรัพย์ยังคงอ่อนแอ ขณะที่ภาคอสังหาริมทรัพย์ก็ยังคงซบเซาเช่นกัน นอกจากนี้ สภาวะในตลาดแรงงานย่ำแย่ลงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา และอัตราการว่างงานปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม การลงทุนด้านอุปกรณ์สำนักงานและซอฟแวร์ในภาคเอกชนยังคงมีการขยายตัว
- คณะกรรมการเอฟโอเอ็มซีมองว่า สภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ซึ่งรวมถึงอัตราการนำทรัพยากรมาใช้ในระดับต่ำและอัตราเงินเฟ้อในระยะกลางที่ยังอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้นั้น จะช่วยให้คณะกรรมการเอฟโอเอ็มซีสามารถตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ระดับต่ำเป็นพิเศษได้ไปจนถึงกลางปี 2556คณะกรรมการเอฟโอเอ็มซีได้หารือกันเกี่ยวกับเครื่องมือด้านนโยบายที่มีอยู่ เพื่อหนุนเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวแข็งแกร่งขึ้น โดยเฟดจะยังคงประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจจากข้อมูลที่ได้รับ และเฟดพร้อมที่จะใช้เครื่องมือต่างๆ หากจำเป็น
- เฟดกล่าวว่า ภาวะเงินเฟ้อภายในประเทศอยู่ในระดับปานกลาง เนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวลดลง และคาดว่าการคาดการเงินเฟ้อในระยะยาวจะยังคงมีเสถียรภาพ ขณะเดียวกันเฟดคาดว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะชะลอตัวลงในอีกหลายไตรมาสข้างหน้า อันเนื่องมาจากหลายปัจจัย รวมถึงผลกระทบของราคาอาหารและพลังงานที่มีต่อการใช้จ่ายผู้บริโภค
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าจับตา
อาทิตย์ที่ ข้อมูลที่น่าจับตา ตัวเลขเดิม ตัวเลข คาดการณ์ ตัวเลขจริง
08-11สิงหาคม2554
วัน Prelim Nonfarm Productvity q/q -0.6% -0.6% -0.3%
อังคาร Prelim Unit Labor Costs q/q 408% 2.1% 2.1%
FOMC Statement 0.25%
? Federal Funds Rate
วัน French Industrial Production m/m 0.4% 0.4%
พุธ Crude Oil Inventories 1.0% 1.7M
Federal Budget Balance -43.1 -140.3