เพิ่มมูลค่าข้าว “ปทุมธานี1” ศักยภาพผลิตสู่ยุ้งฉางโลก

ข่าวทั่วไป Monday November 19, 2007 15:37 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--19 พ.ย.--สกว. ข้าว พืชเศรษฐกิจที่สำคัญของโลก ประชากรกว่าครึ่งโลกบริโภคข้าวเป็นอาหารหลัก โดยเฉพาะในประเทศไทยซึ่งตั้งอยู่ในเขตมรสุมมีฤดูฝนที่ยาวนานมีปริมาณน้ำมากเพียงพอที่สามารถปลูกข้าวได้โดยอาศัยน้ำฝน แต่ถ้ามีระบบชลประทานจะสามารถปลูกข้าวได้ 2-3 ครั้งต่อปี เช่น ภาคกลางของประเทศไทยที่สามารถผลิตข้าวได้มากกว่า 2 ตันต่อไร่ต่อปี ในแต่ละปีประเทศไทยยังมีรายได้จากการส่งออกข้าวและผลิตภัณฑ์เกือบแสนล้านบาท ส่งออกเป็นอันดับหนึ่งของโลกมาอย่างต่อเนื่องกว่า 20 ปี อีกทั้งประเทศไทยมีพื้นที่ปลูกข้าวทั่วประเทศประมาณ 67 ล้านไร่ หากคำนวณการใช้เมล็ดพันธุ์ทั้งนาปีและนาปรังจะมีความต้องการเมล็ดพันธุ์ทั้งสิ้นประมาณ 6 แสนตัน โดยภาครัฐผลิตได้เพียงประมาณ 115,000 ตัน คิดเป็นประมาณร้อยละ 20 ของความต้องการทั่วประเทศ เมื่อภาครัฐไม่สามารถผลิตเมล็ดพันธุ์ให้เพียงพอต่อความต้องการทั่วประเทศได้ เกษตรกรจึงต้องหาเมล็ดพันธุ์จากแหล่งอื่น ซึ่งก็คือเมล็ดพันธุ์ที่ผลิตนอกระบบ เช่น ซื้อจากเพื่อนบ้าน ร้านค้าเอกชน และเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้ใช้เอง เป็นต้น ปัจจุบันข้าวยังมีสัดส่วนการตลาดประมาณเกือบร้อยละ 30 ซึ่งมีเกษตรกรประมาณ 3.7 ล้านครัวเรือน หรือกว่าร้อยละ 60 ของครัวเรือนเกษตร ปลูกข้าวไว้บริโภคและ/หรือเพื่อการค้า ดังนั้นข้าวจึงนับว่าเป็นสินค้าที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศเป็นอย่างมาก ด้วยความสำคัญข้างต้น สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย(สกว.)ตระหนักและเล็งเห็นความสำคัญของ“การผลิตข้าว”ที่เป็นหัวใจสำคัญของภาคเกษตรไทย ซึ่งมีผลกระทบในเชิงเศรษฐกิจและเชื่อมโยงกับสังคม วิถีชีวิต และวัฒนธรรมของคนไทย จึงได้ร่วมสนับสนุนชุดโครงการ “การผลิตข้าวคุณภาพปทุมธานี 1 แบบครบวงจรในพื้นที่ จ.ชัยนาท”เพื่อให้เกิดองค์ความรู้และเครือข่ายในการพัฒนาระบบผลิตข้าวอย่างครบวงจรและยั่งยืน บนพื้นฐานของการคำนึงถึงประโยชน์และการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย ชุดโครงการดังกล่าวยังได้รวบรวมทั้งความรู้และแนวทางในการแก้ปัญหาในการผลิตข้าวไว้มากมาย อาทิ สภาพปัญหาเมล็ดพันธุ์ข้าวไม่เพียงพอต่อการผลิตของเกษตรกร ,เมล็ดพันธุ์ข้าวไม่มีคุณภาพ มีข้าวปน และเปอร์เซ็นต์ความงอกต่ำ ,เกษตรกรที่เก็บเมล็ดพันธุ์ไว้ใช้เองขาดองค์ความรู้ในการจัดการเมล็ดพันธุ์ให้สะอาดและตรงตามพันธุ์ ,การใช้เมล็ดพันธุ์ที่ไม่มีคุณภาพ ทำให้เกิดการแพร่กระจายวัชพืชไปสู่แหล่งปลูกข้าวอื่นๆ เกิดความเสียหายต่อคุณภาพและผลผลิต โดยนำเสนอแนวทางแก้ไข เช่น จัดตั้งเครือข่ายและระบบรับรองเมล็ดพันธุ์ พร้อมจัดทำแผนปฏิบัติการ โดยอาศัยความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และเกษตรกร หาแนวทางในการเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตและจัดการของเกษตรกรและกลุ่มเกษตรกร อีกทั้งร่วมสนับสนุนการถ่ายทอดองค์ความรู้จากหน่วยวิชาการให้กับชุมชน นอกจากนี้ในชุดโครงการดังกล่าวยังมีหนึ่งงานวิจัยที่สำคัญ ได้แก่ โครงการ “การผลิตข้าวคุณภาพปทุมธานี 1 แบบครบวงจรในพื้นที่ จ.ชัยนาท”สกว. ซึ่งมี นายสาธร วรสีห์ มหาวิทยาลัยราชภัฎนครสวรรค์ เป็นหัวหน้าโครงการวิจัย งานวิจัยนี้ได้ศึกษาข้าวพันธุ์ “ปทุมธานี 1” ซึ่งเป็นพันธุ์ที่เกษตรกรนิยมปลูกกันมากในพื้นที่ จ.ชัยนาท เนื่องจากเป็นพันธุ์คุณภาพดี (ใกล้เคียงกับข้าวหอมมะลิ 105 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ) ให้ผลผลิตต่อไร่สูง โดยมีข้อมูลเบื้องต้นพบว่า แม้ข้าวปทุมธานี 1 มีคุณภาพดีแต่กลับไม่ได้ราคาดีเท่าที่ควร อันเป็นเผลมาจากปัญหาในระหว่างกระบวนการผลิตที่ขาดประสิทธิภาพ นับตั้งแต่การคัดเลือก-จัดหาพันธุ์บริสุทธิ์ ขั้นตอนการผลิตและเก็บเกี่ยวซึ่งก่อให้เกิดการปนของข้าวสูง ปัญหาเรื่องโรคระบาดและศัตรูพืช และลักษณะทางธรรมชาติของข้าวที่ทำให้ดูแลและเก็บรักษายาก ทำให้หากขาดความรู้ในการจัดการจะทำให้เกิดการแตกหักของข้าวในกระบวนการสีแปรสภาพสูง รวมไปถึงปัญหาในการสร้างการยอมรับต่อผู้บริโภคและเข้าถึงตลาด ผลงานวิจัยนี้ ยังได้ส่งเสริมให้เกษตรกรสามารถผลิตเมล็ดพันธุ์บริสุทธิ์ด้วยตนเอง ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตอย่างเป็นระบบ เพื่อให้ได้ข้าวคุณภาพดี ราคาสูง เชื่อมโยงตั้งแต่ภาคการผลิตจนไปถึงการตลาดอย่างครบวงจรและยั่งยืน ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ย่อมจะทำให้รายได้และคุณภาพชีวิตของเกษตรกรและประชาชนในพื้นที่เพิ่มสูงขึ้นต่อไป

แท็ก ภาคกลาง  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ