อยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี. ปลื้มสุดๆ กับความสำเร็จเกินคาดของ “อลิอันซ์ จูเนียร์ ฟุตบอล แคมป์” ลั่นปีหน้าสานต่อโครงการฯ ปั้นแข้งเทพป้อนวงการลูกหนังไทย

ข่าวทั่วไป Friday September 16, 2011 11:50 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--16 ก.ย.--ไอเดีย เวิร์คส์ คอมมิวนิเคชั่นส์ โครงการ อลิอันซ์ จูเนียร์ ฟุตบอล แคมป์ ประสบความสำเร็จท่วมท้น หลังส่ง 2 ตัวแทนแข้งเทพจากเยาวชนนับพันคว้าตั๋วฟรีไปสัมผัสประสบการณ์ล้ำค่า ร่วมฝึกทักษะกับผู้ฝึกสอนทีมเยาวชนของสโมสรบาเยิร์น มิวนิค ร่วมกับ 50 แข้งเยาวชนจาก 16 ประเทศทั่วโลก ณ ประเทศเยอรมนี ล่าสุด สองแข้งเทพเผยประทับใจสุดๆ กับสุดยอดประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ได้กระทบไหล่นักเตะดาวรุ่ง พร้อมทัศนศึกษาเมืองมิวนิค และชมการแข่งขันของทีมดังติดขอบสนามอลิอันซ์ อารีน่า ด้าน อยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี. เป็นปลื้มสุดๆ กับความสำเร็จเกินความคาดหมายของโครงการ อลิอันซ์ จูเนียร์ ฟุตบอล แคมป์ ลั่นปีหน้าผนึกพันธมิตร สโมสรฟุตบอลอินทรีเพื่อนตำรวจ สานต่อนโยบายด้าน CSR ภายใต้แนวคิด ‘ปันความรู้สู่เด็กไทย’ สร้างสรรค์เยาวชนไทยสู่สังคมไทยที่ดีมีคุณภาพ หนุนวงการลูกหนังไทยก้าวไกลสู่สากล เปิดโอกาสเด็กไทยฝึกทักษะเข้ม พัฒนาฝีเท้ายกระดับวงการฟุตบอลอาชีพไทย นางสาวพัชรา ทวีชัยวัฒนะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายบริหารการตลาดและสื่อสารองค์กร บมจ. อยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี.ประกันชีวิต เปิดเผยว่า แม้จะจัดเป็นครั้งแรกในประเทศไทยในปีนี้ แต่เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ทำให้ประสบความสำเร็จเกินความคาดหมายตั้งแต่เริ่มโครงการ โดยได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากเยาวชน มีเยาวชนร่วมสมัครเข้ารับการคัดเลือกกว่าพันคนจากทั่วประเทศ ซึ่งทุกคนล้วนมีทักษะความสามารถและมีใจรักในกีฬาฟุตบอลและมีฝีเท้าใกล้เคียงกันมากแสดงให้เห็นถึงความตื่นตัวและความสนใจของเยาวชนไทย ที่พร้อมจะพัฒนาให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นได้อีก หากได้รับการฝึกฝนจากทีมผู้ฝึกสอนมืออาชีพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากสโมสรยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่างทีมบาเยิร์น มิวนิค ทั้งนี้ การส่ง 2 ตัวแทนเยาวชนไทย คือ นายนัฐพงษ์ มีวงษ์ (มอส) อายุ 16 ปี จากโรงเรียนปทุมคงคา จ.นนทบุรี อดีตนักฟุตบอลเยาวชนอาเซียน ยูธคัพ และนายชนะชัย เสาร์ทอง (หนึ่ง) วัย 15 ปี จากโรงเรียนบางบ่อวิทยาคม จ.สมุทรปราการ อดีตนักเตะเยาวชนทีมชาติอายุ 12-14 ปี ไปร่วมฝึกซ้อมที่สโมสรบาเยิร์น มิวนิค นับเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของอยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี.ที่ได้มีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์อนาคตที่ดีให้แก่เยาวชนไทย ตลอดจนยกระดับกีฬาฟุตบอลของไทยให้ดียิ่งขึ้นไป ที่สำคัญนับเป็นการช่วยเพิ่มโอกาสให้สามารถเข้าถึงฟุตบอลในระดับโลก อนึ่ง โครงการ อลิอันซ์ จูเนียร์ ฟุตบอล แคมป์ เป็นโครงการที่ริเริ่มโดยกลุ่มอลิอันซ์ เยอรมนี ซึ่งปีนี้จัดเป็นปีที่ 3 ณ เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี โดยคัดเลือก 50 เยาวชนฝีเท้าดีอายุ 14-16 ปี จาก 16 ประเทศทั่วโลก ได้แก่ บราซิล บรูไน บัลแกเรีย สาธารณรัฐเชค จีน เยอรมนี ฮ่องกง ฮังการี อินเดีย ไอร์แลนด์ เกาหลี เนเธอร์แลนด์ โปแลนด์ โปรตุเกส สเปน และประเทศไทย เดินทางไปประเทศเยอรมนี เป็นเวลา 5 วัน เพื่อสัมผัสประสบการณ์ล้ำค่าที่หาได้ยากยิ่ง เข้ารับการฝึกทักษะการเล่นฟุตบอลโดยคณะผู้ฝึกสอนของทีมบาเยิร์น มิวนิค และมีโอกาสกระทบไหล่นักเตะดาวรุ่งของทีม พร้อมทัศนศึกษาเมืองมิวนิค และชมการแข่งขันนัดสำคัญระหว่างทีมบาเยิร์น มิวนิค กับทีมเยือนในสนามอลิอันซ์ อารีน่า นายวสุ ชิวปรีชา ผู้จัดการทั่วไป สโมสรฟุตบอลอินทรีเพื่อนตำรวจ กล่าวว่า ความสำเร็จของโครงการในปีนี้ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีแก่วงการลูกหนังไทย เป็นการจุดประกายความหวังให้แก่เยาวชน ซึ่งจากประสบการณ์ของตัวเองในฐานะที่ได้มีโอกาสเดินทางไปในทริปนี้ และจากการสอบถามตัวแทนเยาวชนทั้งสองคน ต้องบอกว่าการได้เดินทางไปร่วมโครงการ อลิอันซ์ จูเนียร์ ฟุตบอล แคมป์ ที่ประเทศเยอรมนี ถือเป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่ดีที่สุดในชีวิต ที่จะได้พบกับเยาวชนจากประเทศอื่นๆ ที่รักฟุตบอลเหมือนกันและมีฝีเท้าใกล้เคียงกันมาก แสดงให้เห็นถึงความสามารถของเด็กไทยทีเรียกว่าไม่แพ้ ชาติใดในโลก นอกจากนั้นยังได้สัมผัสกับนักฟุตบอลที่ชื่นชอบ และที่สำคัญได้มีโอกาสเรียนรู้ทักษะการเล่นฟุตบอลขั้นสูงจากนักเตะและโค้ชระดับโลก ถือเป็นแรงบันดาลใจที่ดีที่ทำให้มีความมุ่งมั่นที่จะเป็นนักเตะอาชีพให้ได้ในอนาคต ซึ่งต้องขอบคุณผู้สนับสนุน คือ อยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี.ที่เปิดโอกาสให้เยาวชนที่รักในกีฬาลูกหนังจากทั่วประเทศได้แสดงความสามารถ เพื่อก้าวสู่เส้นทางนักเตะอาชีพในอนาคต ทั้งนี้ ด้วยเงื่อนไขการคัดเลือกที่เข้มงวด ไม่ว่าจะเป็นทักษะการเล่น ความมุ่งมั่น ทุ่มเทและความมีวินัย ทำให้เยาวชนที่เข้าร่วมคัดตัวได้เรียนรู้ถึงจุดอ่อนและจุดแข็งของตน และนำไปปรับปรุงและพัฒนาศักยภาพ ตลอดจนเรียนรู้ทักษะการเล่นฟุตบอลที่ถูกต้อง เพื่อมุ่งไปสู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพในอนาคต อันเป็นจุดมุ่งหมายของเยาวชนแทบทุกคนที่สมัครเข้าร่วมโครงการนี้ “และอีกหนึ่งความสำเร็จของโครงการนี้ คือการได้ค้นพบสุดยอดนักเตะรุ่นเยาว์อีกหลายคนที่มีแววที่จะพัฒนาศักยภาพได้อีก และเติบโตขึ้นเป็นนักเตะฝีเท้าดีประดับวงการลูกหนังไทย ดังนั้นทางสโมสรฟุตบอลอินทรีเพื่อนตำรวจจึงได้ให้สิทธิแก่เยาวชนที่ได้รับเลือกเข้ารอบสุดท้าย 25 คน เข้ารับการฝึกทักษะระดับมืออาชีพกับโครงการอินทรีเพื่อนตำรวจ อะคาเดมี ของสโมสรฯ อันถือเป็นบันไดอีกขั้นที่จะทำให้พวกเขาก้าวไปสู่เส้นทางนักเตะอาชีพได้อย่างมั่นคงและแน่นอนในอนาคต” นายวสุ กล่าว นางสาวพัชรา กล่าวเสริมว่า โครงการอลิอันซ์ จูเนียร์ ฟุตบอล แคมป์ จะไม่หยุดเพียงแค่นี้ แต่จะมีการสานต่อโครงการอย่างต่อเนื่องเพื่อต่อยอดความฝันของเยาวชนไทยให้ได้พัฒนาตนเองสู่ระดับมืออาชีพต่อไปในอนาคต ทั้งนี้ตนอยากจะเน้นย้ำว่า อยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี.ไม่ได้ให้การสนับสนุนกีฬาฟุตบอลแต่เพียงในระดับประเทศเท่านั้น หากแต่ในระดับโลก กลุ่มอลิอันซ์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ก็เป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการให้กับสโมสรบาเยิร์น มิวนิค ทีมยักษ์ใหญ่แห่งบุน เดสลีกา ดังนั้น การร่วมเป็นพันธมิตรกับสโมสรฟุตบอลอินทรีเพื่อนตำรวจในการจัดโครงการ อลิอันซ์ จูเนียร์ ฟุตบอล แคมป์ ในประเทศไทย จึงถือเป็นการเชื่อมโยงที่ดีในการพัฒนาสโมสรฟุตบอลของไทยไปสู่การพัฒนาในระดับสากล เกี่ยวกับ บมจ. อยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี. ประกันชีวิต บมจ. อยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี. ประกันชีวิต คือบริษัทประกันชีวิตชั้นนำของประเทศไทยที่ดำเนินธุรกิจด้านประกันชีวิตและประกันสุขภาพมายาวนานกว่าครึ่งศตวรรษ ด้วยความร่วมมือระหว่างพันธมิตร 3 บริษัทที่มีชื่อเสียง และความมั่นคง คือ กลุ่มธนาคารกรุงศรีอยุธยา กลุ่มอลิอันซ์จากประเทศเยอรมนี และเครือเจริญโภคภัณฑ์ ส่งผลให้ อยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี. มีฐานะทางการเงินมั่นคง มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจประกันชีวิตระดับโลก และมีความรู้ความชำนาญในตลาดผู้บริโภคไทยจนเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง ปัจจุบันได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าและมีจำนวนกรมธรรม์ในประเทศไทยกว่า 1.6 ล้านกรมธรรม์ และพร้อมก้าวต่อไปเพื่อนำเสนอนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ และมอบบริการอย่างดีเยี่ยมเคียงข้างทุกจังหวะชีวิตของคนไทย เกี่ยวกับ สโมสรฟุตบอลอินทรีเพื่อนตำรวจ สโมสรฟุตบอลอินทรีเพื่อนตำรวจ เป็นสโมสรที่มีตำนานที่น่าสนใจยืนหยัดคู่กับวงการฟุตบอลไทยมา 50 ปี ได้สร้างชื่อเสียง และประสบความสำเร็จมาอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในอดีต ทีมตราโล่ห์ และเสื้อสีเลือดหมูได้โลดแล่นอยู่ในวงการฟุตบอลไทยตลอดมา ในอดีตสโมสรฟุตบอลตำรวจ บริหารโดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503 จนถึงปี พ.ศ. 2551 เป็นสโมสรแรกในประเทศไทยที่จดทะเบียนเป็น บริษัทมหาชน เพื่อให้เกิดการบริหารงานอย่างมีมาตรฐาน มีธรรมาภิบาลที่ดี โดยมีเป้าหมายเร่งด่วนเพื่อสร้างสโมสรให้กลับไปอยู่ในลีกสูงสุด

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ