กรุงเทพฯ--27 ก.ย.--เทิร์นอะราวด์โฟกัส
ดีลอยท์ชี้ผู้ประกอบการไทยต้องเผชิญทั้งโอกาสและความท้าทายภายใต้ AEC พร้อมประกาศจุดแข็งในการเป็นเครือข่ายที่ปรึกษามืออาชีพ ย่านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ดีลอยท์ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกาศความ พร้อมรับมือในการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 โดยมุ่งเน้นความเป็นเลิศใน การให้บริการด้านที่ปรึกษาธุรกิจครบวงจร ทั้งด้านตรวจสอบบัญชี ภาษีอากร บริหารความ เสี่ยง และที่ปรึกษาด้านบริหาร จัดการธุรกิจ และการเงิน หนุนผู้ประกอบการไทยเตรียมตัว รับการเปลี่ยนแปลงซึ่งจะส่งผลต่อระบบการจัดการด้านธุรกิจและการเงินระหว่างประเทศ ในกลุ่มอาเซียน
นายสุภศักดิ์ กฤษณามระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีลอยท์ ทู้ช โธมัทสุ ไชยยศ จำกัด (ดีลอยท์ประเทศไทย) ในฐานะประธาน ดีลอยท์ เซาท์อีสต์ เอเซีย กล่าวว่า “ในขณะที่ประเทศในภูมิภาคอาเซียนกำลังประสานความร่วมมือเป็นหนึ่งเดียวภายใต้กรอบของประชาคมเศรษฐกิจ อาเซียน (ASEAN Economic Community: AEC) องค์กรธุรกิจและผู้ประกอบการชั้นนำในประเทศไทยจะได้รับประโยชน์มากมาย รวมถึงโอกาสในการขยายธุรกิจไปยังตลาดใหม่ๆในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และในฐานะที่ดีลอยท์ประเทศไทยเป็นส่วนหนึ่งของดีลอยท์ในภูมิภาคนี้ บริษัทฯ ได้เตรียมความพร้อมที่จะก้าวไปกับลูกค้า โดยมุ่งเน้นการใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญในระดับภูมิภาค เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในการขยายธุรกิจและรับมือกับความท้าทายต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ทั้งนี้ ในระหว่างวันที่ 22-23 กันยายน 2554 ดีลอยท์ได้จัดการประชุมผู้บริหารระดับสูง ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่กรุงเทพฯ เพื่อวางกลยุทธ์ในการให้คำปรึกษาแก่ลูกค้าตลอดจน ปรับแนวทางการดำเนินงานให้สอดรับกับสาขาธุรกิจที่เป็นเป้าหมายและบริการสำคัญในประเทศกลุ่มอาเซียน ซึ่งการผนึกกำลังกันของดีลอยท์ในภูมิภาคจะช่วยให้บริการลูกค้าได้ดียิ่งขึ้นทั้งด้านข้อมูลเชิงลึกและการแก้ไขปัญหาให้ลูกค้าได้อย่างตรงจุดที่สุด
นายสุภศักดิ์กล่าวถึงการเปิดประตูการค้าระหว่างประเทศอาเซียนที่จะมีการเคลื่อนย้ายทั้งผลิตภัณฑ์และเงินทุนในอีกสี่ปีข้างหน้าว่าถือเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายที่จะนำคู่แข่งใหม่ๆ มาสู่ตลาดในประเทศไทยด้วยเช่นกัน โดยธุรกิจที่ดีลอยท์มองว่าจะมีการแข่งขันเพิ่มขึ้น ได้แก่ สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ สาขาการเงิน และพลังงาน นอกเหนือไปจากภาคการผลิตและการขนส่ง รวมถึงสาขาสุขภาพ ซึ่งแต่ละประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีความแตกต่างกันที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวทั้งสภาพแวดล้อม เศรษฐกิจ และการเมือง ซึ่งดีลอยท์เองก็ให้ความสำคัญกับสถานการณ์ที่เฉพาะเจาะจงในแต่ละภูมิภาคเพื่อให้ลูกค้าสามารถรับมือกับสภาพการแข่งขันที่ปลี่ยนแปลงไป ทั้งในและนอกประเทศ
ด้านนายชาลี มาห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดีลอยท์ เซาท์อีสต์ เอเซีย และดีลอยท์ เอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “เศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญกับหลายปัจจัยเสี่ยง อาทิ ปัญหาเศรษฐกิจถดถอยรอบสองของสหรัฐฯ วิกฤตหนี้ยุโรป และความไม่สงบในตะวันออกกลาง เมื่อเล็งเห็นถึงความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ขึ้น บรรดาบริษัทควรพุ่งเป้าไปที่การดำเนินงานหลักๆ เช่น การแสวงหาโอกาสในการเติบโต การบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ การเสริม ความ แข็งแกร่งให้งบดุล การปรับปรุงหน่วยงานสนับสนุน เช่น บุคลากร ระบบไอที การเงินและบัญชี ทั้งนี้เพื่อวางกลยุทธ์และการบริหารจัดการให้ตรงกับความคาดหวังผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เช่น นักลงทุน และสถาบันจัดอันดับ เป็นต้น”
นายชาลีมาห์กล่าวว่าประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่จะเกิดขึ้นในปี 2558 จะมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมให้เกิดผลิตภัณฑ์บริการและการลงทุนใหม่ๆภายในภูมิภาค “เราเชื่อมั่นว่าเราจะสามารถให้คำปรึกษาแก่ลูกค้าเพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 ไม่ว่าจะเป็นในด้านบุคลากร, ระบบ, การดำเนินงาน หรือองค์กร รวมไปถึงคาดการณ์สภาพการแข่งขันที่ลูกค้าอาจต้องเผชิญ การบริหารความเสี่ยงที่อาจขึ้น และให้คำแนะนำว่าลูกค้าจะปรับเปลี่ยนความท้าทายนั้นให้เป็นโอกาสได้อย่างไร”
นายสุภศักดิ์กล่าวเสริมว่า นอกจากการเตรียมพร้อมในเรื่องดังกล่าว ดีลอยท์ยังมีการเตรียมความพร้อมให้แก่ภาคธุรกิจในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดในระยะเวลาอันใกล้จาก นโยบายของรัฐบาลชุดใหม่
“ด้วยประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมานานกว่า 72 ปี ดีลอยท์มีความ แข็งแกร่งในการเป็นบริษัทตรวจสอบบัญชีให้แก่บริษัทต่างๆและธนาคารชั้นนำในไทยควบคู่กับการ เป็นที่ปรึกษาธุรกิจด้านภาษีการจัดการธุรกิจและการเงิน และเพื่อให้ก้าวไปพร้อมกับ การที่อาเซียน จะรวมตลาดเป็นหนึ่งเดียว เราจะยิ่งเพิ่มความสำคัญให้กับบทบาทการเป็นที่ปรึกษา ธุรกิจครบวงจร ด้วยความพรั่งพร้อมจากประสบการณ์ในเครือข่ายระดับโลกของเรา” นายสุภศักดิ์ กล่าว
ดีลอยท์เป็นบริษัทที่มีเครือข่ายชั้นนำระดับโลกซึ่งให้บริการด้านตรวจสอบบัญชี ภาษีอากร บริหารความเสี่ยง และที่ปรึกษาด้านบริหารจัดการธุรกิจและการเงิน โดยภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีสำนักงาน 22 แห่งใน 8 ประเทศ ได้แก่ บรูไน กวม อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เวียดนาม และไทย มีผู้บริหารระดับสูง 230 คน และพนักงานที่มีความเชี่ยวชาญในแต่ละ สาขา อีกกว่า 5,300 คน ดำเนินงานภายใต้ปรัชญาที่ว่า “to be the standard of excellence” หรือ “มาตรฐานแห่งความเป็นเลิศ”