ภาวะตลาดทองคำวันนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Monday October 10, 2011 12:28 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--10 ต.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ ข้อมูลทองคำวันนี้ - ราคาสมาคม เปิดที่ 24,150-24,250 - ราคา Gold Spot เปิดที่ 1,652 - อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท 30.92-30.95 - GFV11 Hi- Low 24,590-24,230 ปิดที่ 24,410 Gold & Silver Insight สัญญาทองคำ และ โลหะเงินตลาด COMEX สัญญาทองส่งมอบเดือนธ.ค.ซึ่งมีการซื้อขายคึกคักมากที่สุดร่วงลง 17.4 ดอลลาร์ หรือ 1.1% มาที่ 1,635.8 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วง 1.012 ดอลลาร์ ปิดที่ 30.993 ดอลลาร์ ในขณะที่การเพิ่มขึ้นของการจ้างงานเล็กน้อยของสหรัฐในเดือนก.ย.ช่วยบรรเทาความวิตกที่ว่า เศรษฐกิจกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอยอีกครั้ง ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ดาวโจนส์ซึ่งพุ่งขึ้น 183.38 จุดเมื่อวันพฤหัสบดี ปรับตัวลง 20.21 จุด หรือ 0.18% มาปิดที่ 11,103.12 จุด ดัชนี Nasdaq ซึ่งเดินหน้าขึ้น 46.31 จุดในวันพฤหัสบดี ร่วงลง 27.47 จุด หรือ 1.10% มาที่ 2,479.35 จุด ดัชนี S&P 500 ลบ 9.51 จุด หรือ 0.8% มาปิดที่ 1,155.46 จุด โดยดาวโจนส์ร่วงลงเป็นครั้งแรกในรอบ 4 วันการซื้อขาย ท่ามกลางความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับวิกฤติหนี้ยุโรป สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือนพ.ย.บวก 39 เซนต์ หรือ 0.47% มาปิดที่ 82.98 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากที่แตะจุดสูงสุดที่ 84.00 ดอลลาร์/บาร์เรล และสำหรับสัปดาห์นี้ ราคาพุ่งขึ้น 3.78 ดอลลาร์ หรือ 4.77% โดยฟื้นตัวขึ้นจากจุดต่ำสุดรอบ 1 ปีเมื่อวันอังคาร ซึ่งราคาในระดับต่ำนั้นได้รับแรงกระตุ้นจากความวิตกเกี่ยวกับวิกฤติหนี้ยุโรป อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คาดว่า ราคาจะเดินหน้าขึ้นต่อไปในอีกหลายเดือนข้างหน้า ในขณะที่ข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐดีกว่าที่คาดไว้ แม้ว่าบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือฟิทช์ได้ปรับลดอันดับเครดิตของอิตาลีและสเปนก็ตาม กองทุน SPDR Gold Trust กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. วันที่ 10 ตุลาคม ไม่เปลี่ยนแปลงการถือครอง ถือครองเท่าเดิมที่ระดับ 1229.51ตัน USD/EU ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลล่าร์สหรัฐในการซื้อขายช่วงท้ายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (7 ต.ค.) ในขณะที่การว่างงานในสหรัฐยังคงอยู่ในระดับสูงในเดือนก.ย. และฟิทช์ปรับลดอันดับเครดิตอิตาลีและสเปน ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้น 0.45% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3371 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับ 1.3431 ดอลลาร์ต่ยูโร โดยค่าเงินดอลล่าร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลยูโรเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 1.3455 ดอลล่าร์ต่อยูโร USD/JPY ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลล่าร์สหรัฐ 0.03% เมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 76.700 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 76.680 เยนต่อดอลลาร์ โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลเยนเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 76.740 เยนต่อดอลลาร์ USD/THB ค่าเงินบาทปิดตลาดวานนี้ อยู่ที่ระดับ 30.88-30.91 บาทต่อดอลล่าร์ ซึ่งไม่มีการเคลื่อนไหวมากนักระหว่างวัน โดยค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ระดับ 30.92-30.95บาทต่อดอลล่าร์ ข่าวเศรษฐกิจโลก - นางแองเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี และนายนิโคลาส์ ซาร์โกซี ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ได้บรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับแนวทางการเสริมสภาพคล่องให้กับภาคธนาคารของยุโรป เพื่อป้องกันไม่ให้วิกฤตหนี้สาธารณะส่งผลกระทบต่อภาคธนาคาร ทั้งนี้ ผู้นำทั้งสองได้ออกแถลงการณ์ร่วมกันว่า จะสนับสนุนแผนการเพิ่มทุนให้กับธนาคารพาณิชย์ในยุโรป ผ่านการประสานงานกันอย่างเร่งด่วนระหว่างผู้นำในยูโรโซน โดยจะดำเนินการตามมาตรฐานขั้นพื้นฐานและคำนึงถึงความมั่นคงในเชิงระบบเป็นหลัก ขณะที่นางแมร์เคลย้ำว่าจะพยายามผลักดันให้การเพิ่มทุนให้กับธนาคารพาณิชย์เกิดขึ้นโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม ผู้นำทั้งสองไม่เห็นด้วยที่จะสนับสนุนธนาคารพาณิชย์ที่ "มีความเสี่ยงสูงมาก" ที่จะได้รับความเสียหายจากวิกฤตหนี้สาธารณะ เมื่อพิจารณาจากข้อมูลของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ที่ระบุว่า ยุโรปอาจจะต้องใช้วงเงินสูงถึง 1-2 แสนล้านยูโร (1.35-2.70 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อชดเชยความเสียหายที่เกิดจากการขาดทุนของธนาคารพาณิชย์ - ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า ยอดการกู้ยืมเงินของผู้บริโภคในสหรัฐประจำเดือนส.ค.ลดลง 4.6% ต่อปี สู่ระดับ 2.4449 ล้านล้านดอลลาร์ จากเดือนก.ค.ที่ระดับ 2.4544 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการปรับตัวลงรายเดือนที่รุนแรงที่สุดในรอบ 16 เดือน นอกจากนี้ ตัวเลขดังกล่าวยังปรับตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 11 เดือน รายงานของเฟดระบุว่า ความต้องการสินเชื่อหมุนเวียน (revolving credit) ซึ่งรวมถึงวงเงินสินเชื่อผ่านบัตรเครดิต ปรับตัวลดลง 3.4% ในเดือนส.ค. สู่ระดับ 7.901 แสนล้านดอลลาร์ ส่วนความต้องการสินเชื่อประเภทอื่นๆ ซึ่งรวมถึงสินเชื่อซื้อรถยนต์ ลดลง 5.2% สู่ระดับ 1.6548 ล้านล้านดอลลาร์ มีรายงานว่า ยอดการกู้ยืมเงินของผู้บริโภคเป็นข้อมูลที่นักวิเคราะห์และนักลงทุนในตลาดให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะสะท้อนถึงตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคซึ่งคิดเป็นร้อยละ 70 ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐและยังเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจสหรัฐด้วย - รัฐบลอิตาลีไม่ได้ให้ความสนใจกับการที่ฟิทช์ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือพันธบัตรของอิตาลี แต่ระบุว่าฟิทช์ตระหนักถึงความพยายามต่างๆในการจัดการวิกฤติการเงิน แถลงการณ์ที่ออกโดยสำนักงานของนายกรัฐมนตรีซิลวิโอ เบอร์ลุสโคนีของอิตาลีระบุว่า การดำเนินการของฟิทช์เป็นสิ่งที่คาดไว้แล้ว แต่มีความแตกต่างจากการปรับลดอันดับของสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือรายอื่นๆ ฟิทช์ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของอิตาลีลงจากระดับ AA- สู่ A+ และคงแนวโน้มเชิงลบ จากความวิตกที่ว่ารัฐบาลดูเหมือนขาดความแข็งแกร่งและความสามารถในการลดหนี้สินที่ระดับสูงของประเทศและในการหนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งไม่ได้ส่งสัญญาณเกี่ยวกับศักยภาพความน่าเชื่อถือต่อตลาดโลก

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ