ภาวะตลาดทองคำวันนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Friday October 14, 2011 15:48 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 ต.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ ข้อมูลทองคำวันนี้ - ราคาสมาคม เปิดที่ 24,300-24,450 - ราคา Gold Spot เปิดที่ 1,666 - อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท 30.85-30.88 - GFV11 Hi- Low 24,830-24,590 ปิดที่ 24,600 Gold & Silver Insight สัญญาทองคำ และ โลหะเงินตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 14.1 ดอลลาร์ หรือ 0.8% ปิดที่ 1,668.5 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 1.122 ดอลลาร์ ปิดที่ 31.667 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำพุ่งขึ้นแข็งแกร่งเมื่อวันก่อน นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐยังเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดสัญญาทองคำร่วงลงด้วย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโ จนส์ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 40.72 จุด หรือ 0.35% แตะที่ 11,478.13 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 3.59 จุด หรือ 0.30% แตะที่ 1,203.66 จุด ดัชนี Nasdaq ปิดบวก 15.51 จุด หรือ 0.60% แตะที่ 2,620.24 จุด จากแรงขายที่ส่งเข้าฉุดหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังจากเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค เปิดเผยว่าผลประกอบการไตรมาส 3 หดตัวลง อันเนื่องมาจากการขาดทุนในตลาดปล่อยกู้จำนอง นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน หลังจากจีนเปิดเผยยอดเกินดุลการค้าร่วงลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ปรับตัวลงเพียงเล็กน้อย ขณะที่ Nasdaq ปิดบวกเพราะได้แรงซื้อที่ส่งเข้าหนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 1.34 ดอลลาร์ หรือ 1.59% ปิดที่ 84.23 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากสำนักงานสารนิเทศด้านพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มขึ้นเกินคาด และหลังจากจีนเปิดเผยว่ายอดเกินดุลการค้าร่วงลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ทำให้นักลงทุนกังวลว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกอาจทำให้ความต้องการพลังงานลดลงด้วย กองทุน SPDR Gold Trust กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. วันที่ 14 ตุลาคม ขายออก 0.48ตัน เปลี่ยนแปลงการถือครองจากระดับ 1227.99ตัน เข้าสู่ระดับ 1227.51ตัน USD/EU ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลล่าร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (13 ต.ค.) หลังจากธนาคารกลางยุโรปเตือนว่า ยูโรโซนมีโอกาสที่จะเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยอันเนื่องมาจากปัญหาหนี้สิน นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงวิตกกังลว่าวิกฤตหนี้สาธารณะอาจส่งผลกระทบต่อภาคธนาคารในยุโรป ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้น 0.03% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3782 ยูโรต่อดอลลาร์ จากระดับของวันพุธ 1.3786 ยูโรต่อดอลลาร์ โดยค่าเงินดอลล่าร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลยูโรเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 1.3778 ดอลล่าร์ต่อยูโร USD/JPY ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลล่าร์สหรัฐ 0.53% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 76.830 เยนต่อดอลล่าร์ จากระดับ 77.240 เยนต่อดอลล่าร์ โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลเยนเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 76.960 เยนต่อดอลลาร์ USD/THB ค่าเงินบาทปิดตลาดวานนี้ อยู่ที่ระดับ 30.80-30.83 บาทต่อดอลล่าร์ ซึ่งไม่มีการเคลื่อนไหวมากนักระหว่างวัน โดยค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ระดับ 30.85-30.88บาทต่อดอลล่าร์ ข่าวเศรษฐกิจโลก - นายเฮอร์แมน แวน รอมปุย ประธานสภายุโรป และนายโฮเซ มานุเอล มาร์โรโซ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ได้ออกแถลงการณ์ร่วม เพื่อแสดงความพอใจที่รัฐสภาสโลวาเกียลงมติอนุมัติการขยายกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) "กองทุน EFSF จะช่วยให้เรามีความแข็งแกร่งมากขึ้น และยังเป็นเครื่องมือที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการปกป้องเสถียรภาพการเงินของยูโรโซน นอกจากนี้ กองทุน EFSF ยังถือเป็นประโยชน์ของ 17 ชาติสมาชิกยูโรโซนโดยตรง และเป็นประโยชน์ต่อชาติสมาชิกอียูในวงกว้างด้วย" แถลงการณ์ระบุ รัฐสภาสโลวาเกียมีมติอนุมัติให้มีการขยายกองทุน EFSF ด้วยการลงคะแนนเสียง 114 ต่อ 30 เสียง ซึ่งการลงมติครั้งนี้ได้รับเสียงสนับสนุนจากพรรคฝ่ายค้านหลัก หลังจากที่รัฐสภาได้คว่ำแผนการดังกล่าวในการลงมติครั้งแรก การขยายกองทุน EFSF ช่วยให้กองทุนสามารถปล่อยเงินกู้ได้เต็มศักยภาพที่มูลค่า 4.40 แสนล้านดอลลาร์ จากเดิมที่สามารถปล่อยกู้ได้เพียง 2.50 แสนล้านดอลลาร์ และยังจะช่วยให้กองทุน EFSF สามารถอัดฉีดเงินเพื่อเพิ่มทุนให้กับธนาคารในยุโรปด้วย - กระทรวงการคลังของสหรัฐรายงานว่า ยอดขาดดุลการค้าและบริการทั่วโลกของสหรัฐอยู่ที่ 4.561 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นตัวเลขที่เกือบทรงตัวจากเดือนก่อนหน้านั้น ในขณะที่ยอดขาดดุลการค้าต่อญี่ปุ่นพุ่งขึ้น เนื่องจากการนำเข้ารถยนต์ที่กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง รายงานของกระทรวงฯ ระบุว่า ยอดขาดดุลกับญี่ปุ่นได้พุ่งขึ้น 27.9% สู่ระดับ 6.71 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากยอดนำเข้าที่พุ่งขึ้น 14.7% สู่ 1.212 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2551 ในขณะที่ยอดส่งออกไปยังญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 1.7% สู่ 5.41 พันล้านดอลลาร์ ยอดขาดดุลการค้าและบริการกับทั่วโลกของสหรัฐได้ปรับขึ้นเป็น 4.563 หมื่นล้านดอลลาร์สำหรับเดือนกรกฎาคม จากการรายงานเบื้องต้นที่ 4.481 หมื่นล้านดอลลาร์ ในขณะที่ ยอดนำเข้าสินค้าและบริการทั่วไปของสหรัฐอยู่ที่ 2.2322 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นตัวเลขที่เกือบทรงตัวจากยอด 2.2333 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนกรกฎาคม - สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของสเปนลงมาอยู่ที่ระดับ AA- จากระดับ AA โดยให้แนวโน้มเป็นลบ เอสแอนด์พีกล่าวในแถลงการณ์ว่า แม้เศรษฐกิจสเปนส่งสัญญาณการฟื้นตัวในปี 2554 แต่แนวโน้มการขยายตัวยังคงมีความเสี่ยงอยู่มาก เนื่องจากอัตราว่างงานที่อยู่ในระดับสูง, ภาวะตึงตัวด้านสินเชื่อ, หนี้สาธารณะที่ยังคงอยู่ในระดับสูง และการชะลอตัวของเศรษฐกิจในประเทศที่เป็นคู่ค้าหลักของสเปน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ