
บริษัท เบอริงเกอร์ อินเกลไฮม์ (ไทย) จำกัด ร่วมกับ สมาคมความดันโลหิตสูงแห่งประเทศไทย ลงนามบันทึกความร่วมมือในโครงการ "CheCKD Now" เพื่อยกระดับความรู้ ความเข้าใจ และการตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคไตเรื้อรังในกลุ่มผู้ป่วยที่มีโรคความดันโลหิตสูง โดยเน้นการตรวจคัดกรองตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ส่งเสริมการดูแลสุขภาพตนเองอย่างเหมาะสม และลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะไตวายเรื้อรังในระยะยาว พิธีลงนามจัดขึ้น ณ สำนักงานใหญ่ ของบริษัท เบอริงเกอร์ อินเกลไฮม์ (ไทย) จำกัด
โรคไตเรื้อรัง (Chronic Kidney Disease หรือ CKD) นับเป็นหนึ่งในปัญหาสาธารณสุขสำคัญของประเทศไทย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น เบาหวานและความดันโลหิตสูง ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลจากระบบคลังข้อมูลด้านการแพทย์และสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ในปีงบประมาณ 2567 ประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังกว่า 1.12 ล้านคน และโรคนี้ก่อให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจที่มีมูลค่าสูงถึง 1.6 ล้านล้านบาทต่อปี การเผชิญหน้ากับปัญหาดังกล่าวจึงต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาควิชาการ เพื่อสร้างระบบป้องกันและดูแลสุขภาพอย่างยั่งยืน

โครงการ CheCKD Now มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้ผู้ป่วยความดันโลหิตสูงตระหนักถึงการทำงานของไตและเข้าใจถึงความเสี่ยงของโรคไตเรื้อรังมากยิ่งขึ้น โดยเน้นให้เกิดการคัดกรองตั้งแต่ระยะแรกเริ่มเพื่อให้ประชาชนเข้าใจในการทำงานของไต และเข้าพบแพทย์เพื่อรับการแนะแนวทางการดูแลตนเองเพื่อชะลอความเสื่อมของไต และลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนในอนาคต ในความร่วมมือครั้งนี้ บริษัท เบอริงเกอร์ อินเกลไฮม์ (ไทย) จำกัด จะสนับสนุนชุดตรวจคัดกรองไมโครอัลบูมินในปัสสาวะ ซึ่งเป็นวิธีการตรวจตัดกรองการทำงานของไตในระยะเริ่มต้นที่สะดวกและประหยัดในการตรวจหาโปรตีนอัลบูมินในปัสสาวะที่ถูกพบในกลุ่มคนที่มีภาวะการทำงานของไตเสื่อมแก่สมาคมความดันโลหิตสูงแห่งประเทศไทย เพื่อกระจายไปยังโรงพยาบาลทั่วประเทศ
ศาสตราจารย์ นายแพทย์อภิชาต สุคนธสรรพ์ นายกสมาคมความดันโลหิตสูงแห่งประเทศไทย กล่าวว่า "หนึ่งในพันธกิจหลักของสมาคมฯ คือการลดภาวะแทรกซ้อนในผู้ป่วยความดันโลหิตสูง โดยเฉพาะโรคไตเรื้อรัง ซึ่งในระยะเริ่มแรกมักไม่แสดงอาการใด ๆ แต่สามารถก่อให้เกิดผลกระทบที่รุนแรงต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย รวมถึงสร้างภาระทางเศรษฐกิจในระดับประเทศ การคัดกรองและเฝ้าระวังตั้งแต่ต้นจึงถือเป็นหัวใจสำคัญของการป้องกันโรคดังกล่าว ความร่วมมือในโครงการ 'CheCKD Now' จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการคัดกรองผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังส่งเสริมผู้ป่วยได้ขอรับคำปรึกษาจากแพทย์ในการดูแลตนเองอย่างถูกต้อง ทั้งด้านโภชนาการ การออกกำลังกาย และการควบคุมค่าความดันโลหิตอย่างสม่ำเสมอ สมาคมฯ มีความตั้งใจให้โครงการนี้เป็นต้นแบบของความร่วมมือระหว่างภาควิชาการและภาคเอกชน ที่สามารถขยายผลอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยและลดจำนวนผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังในประเทศไทยอย่างเป็นรูปธรรม"
นายริคาร์เต้ เซลวานเดส ริเวร่า ผู้จัดการทั่วไป และหัวหน้าฝ่ายเภสัชภัณฑ์สำหรับมนุษย์ บริษัท เบอริงเกอร์ อินเกลไฮม์ (ไทย) จำกัด กล่าวว่า "การดูแลสุขภาพเชิงรุกคือหัวใจสำคัญของการป้องกันโรคและการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย โครงการ 'CheCKD Now' สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเราที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนภาครัฐ และการแพทย์ในการควบคุมโรคไม่ติดต่อในประเทศไทย ความร่วมมือสมาคมความดันโลหิตสูงแห่งประเทศไทยในครั้งนี้ เป็นจุดเริ่มต้นของการส่งเสริมให้ผู้ป่วยเข้าถึงการตรวจคัดกรองโรคไตได้ตั้งแต่ระยะแรก ซึ่งจะนำไปสู่การรักษาที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เราเชื่อมั่นว่าโครงการนี้จะเป็นพื้นฐานที่แข็งแกร่งสำหรับความร่วมมือในอนาคตที่จะสร้างคุณค่าทั้งในระดับบุคคล ครอบครัว ชุมชน และระบบสาธารณสุขโดยรวม" ความร่วมมือในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะยกระดับการดูแลสุขภาพของประชาชนไทย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ที่ต้องได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่อง โครงการ "CheCKD now" จึงนับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของการส่งเสริมสุขภาพเชิงรุก ที่ไม่เพียงลดภาระด้านการรักษา แต่ยังช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยในระยะยาวอย่างแท้จริง