
นางสาวภิรมศรี บุญทน รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 11 อุบลราชธานี (สศท.11) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า "ยางพารา" ถือเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีศักยภาพสูงของจังหวัดอำนาจเจริญ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรในพื้นที่ เนื่องจากตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศยังคงมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมยานยนต์และผลิตภัณฑ์แปรรูปต่าง ๆ อีกทั้งยางพารายังเป็นพืชที่สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพภูมิอากาศได้ดี ทำให้ปลูกได้อย่างเหมาะสมในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยที่ผ่านมาภาครัฐ ได้ให้การส่งเสริมอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านเทคโนโลยีการปลูก การเพิ่มผลผลิต และการเชื่อมโยงตลาด เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรอย่างยั่งยืน
สศท.11 ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การปลูกยางพาราของจังหวัดอำนาจเจริญ พบว่า แปลงใหญ่ยางพารา กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางอำเภอหัวตะพาน ตำบลคำพระ อำเภอหัวตะพาน จังหวัดอำนาจเจริญ เป็นกลุ่มแปลงใหญ่ ที่ประสบความสำเร็จ มีการบริหารจัดการกลุ่มอย่างมีประสิทธิภาพ ได้รับคัดเลือกเป็นกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางดีเด่น ระยะเริ่มต้น ระดับประเทศ จากการยางแห่งประเทศไทย ประจำปี 2564/2565 ซึ่งกลุ่มแปลงใหญ่ฯ เริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2564 เพื่อยกระดับการผลิตและการตลาดยางพาราของเกษตรกรในพื้นที่ โดยมีนายสว่าง ธรรมวงศ์ เป็นประธานกลุ่ม มีสมาชิกเกษตรกรรวม 214 ราย ซึ่งเดิมนั้นเกษตรกรดำเนินการผลิตยางพาราในรูปแบบต่างคนต่างผลิตและจำหน่ายให้กับลานรับซื้อใกล้บ้าน หลังจากการรวมกลุ่มแปลงใหญ่ฯ ทางกลุ่มเป็นผู้รวบรวมผลผลิตของสมาชิกและนำเข้าสู่ระบบตลาดกลางยางพาราในแพลตฟอร์ม TRT (Thai Rubber Trade) ซึ่งเป็นระบบการซื้อขายที่มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และสนับสนุนการซื้อขายอย่างเป็นธรรม ซึ่งระบบ TRT ยังช่วยให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายสามารถตรวจสอบข้อมูลการซื้อขายได้อย่างชัดเจน รวมถึงข้อมูลแหล่งที่มาของยางพาราด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย อีกทั้งในปี 2567 กลุ่มแปลงใหญ่ฯ ได้ยกระดับการผลิตให้สอดรับ กับข้อกำหนด EUDR (EU Deforestation-free Regulation) หรือกฎระเบียบว่าด้วยการนำเข้าสินค้าที่ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่า อีกทั้งต้องสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ตลอดกระบวนการภายใต้ข้อกำหนดดังกล่าว ทั้งนี้ สมาชิกกลุ่มแปลงใหญ่ฯ จำเป็นต้องขึ้นทะเบียนกับการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) และมีเอกสารสิทธิในที่ดินที่ใช้จัดทำสวนยางพารา ขณะเดียวกัน กลุ่มจะต้องมีการจัดเก็บและบริหารข้อมูลของสมาชิกอย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะข้อมูลการรับซื้อและจำหน่ายยางพารา ที่สามารถตรวจสอบได้อย่างชัดเจน และการจำหน่ายยางจะต้องดำเนินการผ่านจุดรับซื้อที่ได้รับการรับรองตามเกณฑ์ EUDR
สำหรับการดำเนินงานในปี 2568 กลุ่มแปลงใหญ่ฯ จำหน่ายยางก้อนถ้วยผ่านตลาดกลางยางพาราบุรีรัมย์ โดยใช้ระบบการประมูลราคาผ่านแพลตฟอร์ม TRT ซึ่งเปิดโอกาสให้เกษตรกรสามารถจำหน่ายผลผลิตในราคาที่สูงกว่าตลาดทั่วไปเฉลี่ย 2-3 บาท/กิโลกรัม ส่งผลให้สมาชิกกลุ่มแปลงใหญ่ฯ มีรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม และส่งเสริมให้เกิดระบบการค้ายางพาราที่มีความยั่งยืนและเป็นธรรมมากยิ่งขึ้น ซึ่งจากการประชุมใหญ่ประจำปีแปลงใหญ่ยางพารากลุ่มเกษตรกร ชาวสวนยางอำเภอหัวตะพาน ปีบัญชี 28 กุมภาพันธ์ 2568 พบว่า กลุ่มแปลงใหญ่ฯ มีทุนดำเนินการรวมทั้งสิ้น 1,624,687.69 บาท รวบรวมยางก้อนถ้วยจากสมาชิกเกษตรกรได้ประมาณ 1,019 ตัน จำหน่ายในราคาเฉลี่ย 34.18 บาท/กิโลกรัม (ราคาสูงกว่าตลาดทั่วไป 2.25 บาท) สร้างรายได้รวม 34,829,420 บาท หรือคิดเป็นรายได้สุทธิ (กำไร) 240,826.92 บาท
ทั้งนี้ การดำเนินงานในระยะต่อไป กลุ่มแปลงใหญ่ฯ ตั้งเป้าหมายในการรวบรวมผลผลิตยางพาราจากสมาชิกเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 2,000 ตัน โดยมุ่งหวังการเพิ่มรายได้ให้กับสมาชิกได้อย่างเป็นรูปธรรม พร้อมส่งเสริมการดำเนินงานให้มีความยั่งยืนและสอดคล้องกับมาตรฐานตลาดทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจากการดำเนินงานที่ผ่านมานับเป็นผลสำเร็จของ กลุ่มแปลงใหญ่ฯ ที่มุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพการผลิตยางพาราให้ได้รับการรับรองมาตรฐาน ตรงตามความต้องการของตลาด ควบคู่กับการวางแผนการผลิตและการตลาดอย่างเป็นระบบ มีการบริหารจัดการที่ยึดประโยชน์สูงสุดของสมาชิกและชุมชนโดยรอบ อีกทั้งยังส่งเสริมการสร้างเครือข่ายเกษตรกรผู้ปลูกยางพาราคุณภาพ เพื่อขับเคลื่อนสู่อุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและยั่งยืนในระยะยาว หากท่านใดสนใจข้อมูลเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้ที่นายสว่าง ธรรมวงศ์ ประธาน แปลงใหญ่ยางพารากลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางอำเภอหัวตะพาน ตำบลคำพระ อำเภอหัวตะพาน จังหวัดอำนาจเจริญ โทร 09 2356 8255 หรือ สศท.11 อุบลราชธานี โทร. 0 4534 4654 หรืออีเมล [email protected]