
นายเจษฎา จันทรประภา ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ สนน. กทม. กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมแผนบริหารจัดการน้ำ เพื่อรับมือสถานการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเฉพาะบ้านเรือนที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำและพื้นที่จุดเสี่ยงที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำที่อาจได้รับผลกระทบในช่วงที่ระดับน้ำเพิ่มสูงว่า กทม. ได้รับหนังสือด่วนที่สุด เรื่อง แจ้งเตือนสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา ฉบับที่ 5 จากกรมชลประทานถึงผู้ว่าราชการจังหวัด 11 จังหวัด พื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ประกอบด้วย จ.อุทัยธานี จ.ชัยนาท จ.สิงห์บุรี จ.อ่างทอง จ.สุพรรณบุรี จ.พระนครศรีอยุธยา จ.ลพบุรี จ.ปทุมธานี จ.นนทบุรี จ.สมุทรปราการ และกรุงเทพฯ ระบุจากการคาดการณ์ช่วง 1-3 วันข้างหน้า ในวันที่ 21 ส.ค. 68 ที่สถานี C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ จะมีปริมาณน้ำไหลผ่าน ประมาณ 1,650-1,850 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)/วินาที
กรมชลประทาน (ชป.) จึงมีความจำเป็นต้องระบายน้ำผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาในอัตรา 1,200-1,500 ลบ.ม./วินาที ซึ่งจะส่งผลทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันอีกประมาณ 0.10-0.90 เมตร บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำ นอกคันกันน้ำบริเวณคลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา และที่ ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา (แม่น้ำน้อย) โดยจะไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชุมชน หากมีปริมาณน้ำเหนือเพิ่มขึ้นที่จะส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา มากกว่า 1,500 ลบ.ม./วินาทีจะแจ้งให้ทราบต่อไป โดย กทม. ได้ประสานงาน และติดตามรายงานข้อมูลจาก ชป. การคาดหมายน้ำขึ้นจากกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ เตรียมความพร้อมแผนรับมือสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ประกอบด้วย ความพร้อมด้านแนวป้องกันน้ำท่วม ความยาวริมแม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางกอกน้อย และคลองมหาสวัสดิ์ ความยาวรวม 88 กิโลเมตร (กม.) แบ่งเป็น แนวป้องกันน้ำท่วมของ กทม. 80 กิโลเมตร แนวป้องกันน้ำท่วมของเอกชนหรือหน่วยงานอื่น 3.65 กม. และแนวป้องกันน้ำท่วมที่ไม่สามารถป้องกันน้ำท่วมได้ หรือแนวฟันหลอ 4.35 กม.
สำหรับแนวฟันหลอได้ก่อสร้างแนวป้องกันน้ำท่วม เพื่อปิดแนวฟันหลอแล้วเสร็จไปกว่าร้อยละ 60 คิดเป็นความยาว 2.60 กม. จากความยาวรวม 4.35 กม. ซึ่งจะแล้วเสร็จเพิ่มเติมก่อนฤดูน้ำหลากเดือน ก.ย. 68 อีก 0.60 กม. คิดเป็นความยาว 3.20 กม. หรือร้อยละ 75 ของความยาวแนวฟันหลอ ส่วนพื้นที่ระหว่างการก่อสร้างได้จัดเรียงกระสอบทรายเป็นแนวป้องกันน้ำท่วมชั่วคราว เพื่อรับมือกับสถานการณ์น้ำที่อาจจะเกิดขึ้น ส่วนบ้านเรือนชุมชนที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำและพื้นที่จุดเสี่ยงที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำที่อาจได้รับผลกระทบ ได้ดำเนินการเรียงกระสอบทรายบริเวณพื้นทางเดินและจุดพื้นที่ต่ำของชุมชนนอกแนว เพื่อป้องกันน้ำจากแม่น้ำไหลเข้าท่วมชุมชนบ้านเรือน รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตามชุมชนนอกแนว เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ทันที ขณะที่บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำได้เรียงกระสอบและติดตั้งเครื่องสูบน้ำในบางพื้นที่ เพื่อป้องกันน้ำจากแม่น้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่ชั้นใน รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ติดตาม ตรวจสอบ เฝ้าระวังตามแนวริมแม่น้ำ โดยเฉพาะในช่วงที่มีระดับน้ำสูงสุดรอบวันตามข้อมูลฐานน้ำของกรมอุทกศาสตร์กองทัพเรือ นอกจากนี้ ได้เตรียมพร้อมด้านระบบระบายน้ำประกอบด้วย อุโมงค์ระบายน้ำ 4 แห่ง สถานีสูบน้ำตามแนวริมแม่น้ำเจ้าพระยาโดยในพื้นที่ฝั่งพระนคร 47 แห่ง และพื้นที่ฝั่งธนบุรี 49 แห่ง กำลังสูบรวม 1230.55 ลบ.ม./วินาที รวมถึงตรวจสอบความพร้อมของประตูระบายน้ำสถานีสูบน้ำที่ตั้งอยู่ตามแนวริมแม่น้ำเจ้าพระยาให้สามารถทำงานได้เป็นปกติ ตรวจความพร้อมงานระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์ควบคุม ตลอดจนจัดเตรียมเครื่องมือ อุปกรณ์ต่าง ๆ และจัดเจ้าหน้าที่ประจำการตามสถานีสูบน้ำตลอด 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้ กทม. ได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพฯ อยู่ภายในสำนักงานเขตทั้ง 50 เขตและหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ร่วมบูรณาการความร่วมมือช่วยเหลือประชาชน โดยประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ที่อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา สถานประกอบการที่อยู่บริเวณริมน้ำ โดยเฉพาะชุมชนนอกแนวคันกั้นน้ำและแนวเขื่อนชั่วคราว หรือบริเวณแนวฟันหลอในเขตกรุงเทพฯ ต้องเฝ้าระวังระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีระดับสูง โดยสามารถดาวน์โหลดตารางเวลาน้ำขึ้นเต็มที่และน้ำลงเต็มที่ของแม่น้ำเจ้าพระยาในแต่ละวัน ได้ที่เว็บไซต์ของสำนักการระบายน้ำ และติดตามการแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำได้ที่ https://pr-bangkok.com/, เพจเฟซบุ๊ก : ศูนย์ป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพมหานคร @BKK_BEST, และเพจเฟซบุ๊ก : กรุงเทพมหานคร X : ศูนย์ป้องกันน้ำท่วม @BKK_BEST และ X : กรุงเทพมหานคร @bangkokbma รวมถึงแจ้งเหตุความเดือดร้อนจากสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา โทร. 0 2248 5115 และผ่านแอปพลิเคชัน Traffy Fondue ตลอด 24 ชั่วโมง