บริษัท เทลสกอร์ จำกัด ผู้นำแพลตฟอร์ม Influencer Marketing ชั้นนำของประเทศไทย เดินหน้าสร้าง Creator Economy อย่างยั่งยืน จับมือ คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (ABAC) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) ร่วมกันพัฒนาหลักสูตร "Influencer Marketing" และกิจกรรมการเรียนรู้เชิงปฏิบัติ เพื่อปูรากฐานให้นักศึกษาก้าวสู่สายอาชีพจริง พร้อมเสริมทักษะทั้งด้านความคิดสร้างสรรค์ กลยุทธ์ และจริยธรรม ในฐานะนักการตลาดและคอนเทนต์ครีเอเตอร์รุ่นใหม่ ความร่วมมือในครั้งนี้สะท้อนบทบาทของ Tellscore ในการเป็น Influencer Standard Setter ที่ไม่เพียงสร้างมูลค่าทางการตลาดให้กับแบรนด์และครีเอเตอร์ แต่ยังให้ความสำคัญกับการส่งต่อองค์ความรู้สู่เยาวชน ซึ่งเป็นหัวใจของการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน
คุณสุวิตา จรัญวงศ์ ประธานกรรมการบริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท เทลสกอร์ จำกัด กล่าวว่า "เราเชื่อมั่นว่าอนาคตของอุตสาหกรรมคอนเทนต์ครีเอเตอร์และอินฟลูเอนเซอร์ ขึ้นอยู่กับคนรุ่นใหม่ในวันนี้ ความร่วมมือกับ คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (ABAC) ถือเป็นการวางรากฐานสำคัญในการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับ Creator Economy ตั้งแต่ในรั้วมหาวิทยาลัย โดยผสานองค์ความรู้ทางวิชาการเข้ากับประสบการณ์จริงจากภาคอุตสาหกรรม เพื่อให้นักศึกษาได้พัฒนาทักษะที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาด พร้อมก้าวเข้าสู่อาชีพด้วยความมั่นใจ ความสามารถ และจริยธรรมในวิชาชีพ
จากประสบการณ์ของเราที่ทำงานกับคอนเทนต์ครีเอเตอร์และอินฟลูเอนเซอร์หลากหลายรุ่น เราเห็นว่าการเติบโตอย่างยั่งยืน ไม่ได้วัดจากยอดผู้ติดตามเท่านั้น แต่ต้องมี Creator Mindset ที่ผสมผสานทั้ง Soft Skill และ Hard Skill อย่างสมดุล ทั้งด้านความคิดสร้างสรรค์ การวิเคราะห์ การใช้เทคโนโลยี และความเข้าใจในบทบาทของตนต่อสังคม
Tellscore มีวิสัยทัศน์ในการเป็นมากกว่าแพลตฟอร์ม แต่ยังส่งเสริมการสร้าง Ecosystem ที่ช่วยยกระดับอุตสาหกรรม Influencer Marketing และขับเคลื่อน Creator Economy อย่างยั่งยืน ความร่วมมือครั้งนี้จึงสอดคล้องกับพันธกิจระยะยาวของเรา ในการพัฒนาบุคลากร สร้างองค์ความรู้ และสนับสนุนการสื่อสารที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม"
ภายใต้ความร่วมมือครั้งนี้ Tellscore จะมีบทบาททั้งด้านการออกแบบหลักสูตรให้ทันสมัย สอดคล้องกับแนวโน้มของอุตสาหกรรม และการถ่ายทอดความรู้ผ่านรูปแบบ Experiential Learning ที่ให้นักศึกษาได้เรียนรู้จากเคสจริง ใช้เครื่องมือจริง และฝึกวิเคราะห์ข้อมูลจากสถานการณ์จริงในวงการ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ณัทภัฏ ปั้นจาด คณบดีคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า "หนึ่งในพันธกิจหลักของคณะนิเทศศาสตร์คือการร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อสร้างสรรค์สิ่งที่เป็นประโยชน์แก่สังคม การผนึกกำลังกับ Tellscore ครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการยกระดับการเรียนการสอนด้าน Influencer Marketing ที่ไม่เพียงเชื่อมโยงกับสถานการณ์จริงของอุตสาหกรรมในประเทศ แต่ยังตอบโจทย์ระดับนานาชาติ
ABAC มุ่งมั่นให้นักศึกษาได้รับการเรียนรู้ที่ทันสมัยรอบด้าน ทั้งในเชิงทฤษฎีและการลงมือปฏิบัติจริง ความร่วมมือนี้จะช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจภาพรวมของอุตสาหกรรมได้ลึกซึ้งมากขึ้น ทั้งในแง่ของกลยุทธ์ จริยธรรม และบทบาทที่ครีเอเตอร์พึงมีในฐานะผู้สื่อสารสาธารณะที่มีอิทธิพลต่อสังคม
Content Creator ในปัจจุบันไม่ใช่แค่ผู้ผลิตเนื้อหา แต่คือแรงขับเคลื่อนของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ และเป็นตัวแปรสำคัญที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคม ความร่วมมือนี้จึงถือเป็นการเตรียมความพร้อมให้บัณฑิตของเราเป็นผู้ผลิตสื่อที่มีคุณภาพ เข้าใจระบบ และมีจริยธรรมที่แข็งแรง เพื่อประโยชน์ของทั้งอุตสาหกรรมและสังคมโดยรวม"
Tellscore ยังย้ำแนวทางการพัฒนาครีเอเตอร์รุ่นใหม่อย่างยั่งยืนผ่าน 3 แกนหลัก ได้แก่
แนวทางดังกล่าวไม่ได้เป็นเพียงแค่ทฤษฎี แต่ได้รับการพัฒนาต่อยอดจากงานวิจัยเชิงลึก "อนาคตอุตสาหกรรมคอนเทนต์ครีเอเตอร์ในไทย พ.ศ. 2578 (Futures of Content Creators in Thailand 2035)" ซึ่งจัดทำโดย Tellscore ร่วมกับ FutureTales Lab และสถาบัน TIMS เพื่อสำรวจภาพรวมของอุตสาหกรรมครีเอเตอร์ในอนาคต ซึ่งสะท้อนถึงทิศทางที่ครีเอเตอร์รุ่นใหม่จะต้องเผชิญ ทั้งในมิติของสังคม เทคโนโลยี เศรษฐกิจ และค่านิยม การเติบโตในอนาคตจึงไม่ใช่แค่การมีผู้ติดตามมากขึ้น แต่คือการเติบโตอย่างมีคุณภาพ มีจุดยืน และส่งต่ออิทธิพลในทางที่ดีต่อสังคม ซึ่งถือเป็นกรอบแนวคิดสำคัญที่ถูกถ่ายทอดสู่หลักสูตรความร่วมมือในครั้งนี้ (สามารถศึกษาฉบับเต็มได้ที่ https://th.tellscore.com/th/Download/FOCC2035)
ความร่วมมือระหว่าง Tellscore และ ABAC ในครั้งนี้จึงถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการยกระดับระบบนิเวศอินฟลูเอนเซอร์ของประเทศไทย ตั้งแต่รากฐานทางการศึกษา เชื่อมโยงแนวคิดเชิงวิชาการกับประสบการณ์จริง เพื่อสร้างบุคลากรที่มี "ทักษะ ความคิด และคุณค่า" พร้อมก้าวสู่ยุค Creator Economy