สถาบันโภชนาการ ม.มหิดล ผนึกกำลัง ส.อ.ท. เดินหน้าพัฒนาฐานข้อมูลโภชนาการผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มในภาชนะบรรจุ

ข่าวเศรษฐกิจ Friday September 5, 2025 18:20 —ThaiPR.net

สถาบันโภชนาการ ม.มหิดล ผนึกกำลัง ส.อ.ท. เดินหน้าพัฒนาฐานข้อมูลโภชนาการผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มในภาชนะบรรจุ

เมื่อเร็วๆนี้ สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการจัดทำ ฐานข้อมูลโภชนาการผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มในภาชนะบรรจุ เพื่อยกระดับคุณภาพข้อมูลด้านโภชนาการของประเทศ และส่งเสริมสุขภาพผู้บริโภค โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร. ชลัท ศานติวรางคณา ผู้อำนวยการสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล และคุณเจริญ แก้วสุกใส ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม และกรรมการ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท) เป็นผู้ลงนาม พร้อมด้วย รองศาสตราจารย์ ดร. ยุราพร สหัสกุล หัวหน้าหน่วยฐานข้อมูลด้านอาหารและโภชนาการ สถาบันโภชนาการ ดร. ทองดี ปาโส กรรมการ ส.อ.ท. และ ดร.พิเชฐ อิฐกอ เลขาธิการ กลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ส.อ.ท. ร่วมเป็นสักขีพยาน

ที่ผ่านมา สถาบันโภชนาการ ม.มหิดล ได้พัฒนาฐานข้อมูลคุณค่าทางโภชนาการ (Food Composition Data Table) อย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2530 ส่วนใหญ่เป็นการรวบรวมข้อมูลคุณค่าทางโภชนาการของวัตถุดิบ เช่น พืชผลทางการเกษตรฯ และอาหารปรุงสุก ขณะที่ข้อมูลโภชนาการของผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มในภาชนะบรรจุยังมีอยู่อย่างจำกัด และมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมการบริโภคในปัจจุบัน ที่ผู้บริโภคพึ่งพาอาหารแปรรูปในชีวิตประจำวันมากขึ้น ด้วยเหตุนี้ สถาบันโภชนาการจึงเห็นความจำเป็นในการเพิ่มขีดความสามารถของฐานข้อมูลในปัจจุบัน ให้ครอบคลุมผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มในภาชนะบรรจุด้วย

รศ.ดร.ชลัท ศานติวรางคณา กล่าวว่า "ฐานข้อมูลชุดใหม่นี้ จะเข้ามาเติมเต็มช่องว่างด้านข้อมูลโภชนาการของผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มในภาชนะบรรจุ ซึ่งมีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการทำงานด้านสาธารณสุข โดยจะช่วยให้สามารถ ประเมิน-ภาวะโภชนาการได้อย่างละเอียดและแม่นยำขึ้น วิเคราะห์ปริมาณสารอาหารที่ได้รับจากการบริโภค ติดตาม-พฤติกรรมการบริโภค เพื่อปรับแนวทางการดูแลสุขภาพ หรือการรักษาให้เหมาะสม ดูแล-ภาวะโภชนาการแบบองค์รวมทั้งการป้องกัน (Preventive Care) ดูแลตัวเอง (Self-Care) และสนับสนุนการรักษาโดยแพทย์ (Medical care) รวมถึงใช้เป็นข้อมูลในการพัฒนาเมนูอาหาร เพื่อให้ดีต่อสุขภาพมากขึ้น"

ทั้งนี้ ฐานข้อมูลดังกล่าวจะเปิดให้ประชาชนเข้าถึงได้ โดยเฉพาะนักวิชาการด้านสาธารณสุข นักวิจัย และผู้พัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร สามารถนำไปใช้ในการประเมินภาวะโภชนาการ วางแผนการจัดอาหารสำหรับผู้ป่วย หรือปรับปรุงสูตรอาหารให้มีคุณค่ามากยิ่งขึ้น และผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ สามารถนำข้อมูลไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในการดูแลสุขภาพตนเอง และการป้องกันโรค ซึ่งเป็นกระแสสุขภาพที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน

ด้านสภาอุตฯ ดร. ทองดี ปาโส เปิดเผยว่า "ปัจจุบันบริษัทผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มชั้นนำที่สนใจเข้าร่วมโดยสมัครใจ เช่น ซีพีเอฟ, ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์, อายิโนะโมะโต๊ะ, เป๊ปซี่โค, โคคา-โคล่า, ที.ซี. ฟาร์มาซูติคอล เป็นต้น ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการ สร้างฐานข้อมูลชุดนี้ โดยในระยะแรกจะมุ่งเน้นที่ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภค ก่อนจะขยายไปยังสินค้ากลุ่มอื่นๆ ต่อไป"การผนึกกำลังครั้งนี้เป็นตัวอย่างความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน (Public-Private Partnerships - PPPs) ที่เล็งเห็นประโยชน์ร่วมกันในการดูแลสุขภาพของผู้บริโภค โดยมีสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยเป็นตัวแทนภาคเอกชนที่เข้ามาสนับสนุนแลกเปลี่ยนข้อมูลผลิตภัณฑ์อาหาร ขณะที่สถาบันโภชนาการจะทำหน้าที่รวบรวม วิเคราะห์ และเผยแพร่ข้อมูล เพื่อสร้างฐานข้อมูลโภชนาการที่โปร่งใส ทันสมัย สอดคล้องกับสถานการณ์การบริโภค และเป็นประโยชน์ต่อการดูแลสุขภาพของประชาชนอย่างยั่งยืน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ