คู่มือเลือกยางรถยนต์ตามประเภทรถ อัปเดตล่าสุด เลือกให้ตรงการใช้งาน ขับขี่ปลอดภัย คุ้มค่ากว่า

ข่าวยานยนต์ Monday September 8, 2025 09:53 —ThaiPR.net

คู่มือเลือกยางรถยนต์ตามประเภทรถ อัปเดตล่าสุด เลือกให้ตรงการใช้งาน ขับขี่ปลอดภัย คุ้มค่ากว่า

ในโลกของยานยนต์ ยางรถยนต์เปรียบเสมือนรองเท้าของรถ ที่ต้องเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานและสภาพถนน เพราะยางมีผลโดยตรงต่อความปลอดภัย ความสบาย และค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ปัจจุบันมียางหลายประเภทให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นยางสำหรับรถเก๋ง รถกระบะ SUV รถตู้ รถเชิงพาณิชย์ ไปจนถึงยางสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า (EV)คู่มือเลือกยางรถยนต์ตามประเภทรถ (อัปเดต 2025)1. ยางรถยนต์สำหรับรถเก๋ง (Passenger Car Tires)

รถเก๋งเป็นรถที่พบมากที่สุดในเมืองไทย จึงมียางให้เลือกหลายประเภทเพื่อรองรับสไตล์การใช้งานที่แตกต่างกัน

คู่มือเลือกยางรถยนต์ตามประเภทรถ อัปเดตล่าสุด เลือกให้ตรงการใช้งาน ขับขี่ปลอดภัย คุ้มค่ากว่า

1.1 ยางนุ่มเงียบ (Comfort Tires)

คุณสมบัติ: เน้นความสบายและลดเสียงรบกวน ดูดซับแรงสั่นสะเทือนได้ดี

เหมาะกับ: คนที่ใช้รถในเมืองหรือเดินทางพร้อมครอบครัว

ข้อดี: ขับนุ่ม เงียบ สบาย

ข้อเสีย: การยึดเกาะความเร็วสูงอาจไม่ดีเท่ายางสปอร์ต

1.2 ยางประหยัดน้ำมัน (Eco Tires)

คุณสมบัติ: ลดแรงต้านการหมุน (Rolling Resistance) เพื่อช่วยประหยัดน้ำมัน

เหมาะกับ: ผู้ที่ขับทางไกลเป็นประจำ ต้องการประหยัดค่าเชื้อเพลิง

ข้อดี: ประหยัดน้ำมัน ลดมลพิษ

ข้อเสีย: การยึดเกาะในสภาพถนนบางแบบอาจด้อยกว่ายางสมรรถนะสูง

1.3 ยางสปอร์ต (Sport Tires)

คุณสมบัติ: ออกแบบเพื่อสมรรถนะสูง ยึดเกาะดี เข้าโค้งมั่นใจ

เหมาะกับ: รถสปอร์ต รถแต่ง หรือผู้ที่ชอบขับเร็ว

ข้อดี: การควบคุมและการตอบสนองยอดเยี่ยม

ข้อเสีย: ราคาสูง อายุการใช้งานสั้นกว่า

2. ยางสำหรับรถกระบะและ SUV (Pick-up / SUV Tires)

รถกลุ่มนี้มีน้ำหนักมากกว่า จึงต้องการยางที่แข็งแรงและทนทาน

2.1 ยาง HT (Highway Terrain)

เน้นใช้งานบนถนนลาดยาง ให้ความนุ่มเงียบ

เหมาะกับคนที่ขับในเมืองและทางด่วน

ข้อดี: ขับสบายเหมือนยางเก๋ง

ข้อเสีย: ไม่เหมาะกับทางลูกรังหรือออฟโรด

2.2 ยาง AT (All Terrain)

ผสมผสานระหว่างถนนดำและออฟโรด

เหมาะกับผู้ที่ต้องเดินทางต่างจังหวัดบ่อย

ข้อดี: ลุยได้ ทนบาดตำ

ข้อเสีย: มีเสียงรบกวนมากกว่า HT

2.3 ยาง RT (Rugged Terrain)

ลูกผสมระหว่าง AT และ MT

เหมาะกับผู้ที่ขับถนนดำเป็นหลักแต่ต้องการลุยบ้าง

ข้อดี: สมดุล ลุยได้มากกว่า AT แต่ยังขับบนทางดำสบาย

ข้อเสีย: ราคาสูงกว่า AT

2.4 ยาง MT (Mud Terrain)

เน้นลุยหนัก เช่น โคลน หิน ดินทราย

เหมาะกับสายออฟโรดจริงจัง

ข้อดี: สมรรถนะออฟโรดยอดเยี่ยม แข็งแกร่ง

ข้อเสีย: เสียงดัง แข็งบนถนนดำ และสึกไวกว่า

3. ยางสำหรับรถเชิงพาณิชย์และรถตู้ (Light Truck & Commercial Van)

คุณสมบัติ: โครงสร้างแข็งแรง รองรับน้ำหนักบรรทุกมาก

เหมาะกับ: รถขนส่ง รถโดยสาร หรือธุรกิจที่ใช้รถเชิงพาณิชย์

ข้อดี: อายุการใช้งานยาวนาน คุ้มค่าต่อธุรกิจ

ข้อเสีย: แข็งกว่า และมีเสียงดังมากกว่ายางเก๋งทั่วไป

4. ยางสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า (EV Tires)

คุณสมบัติ: ออกแบบเฉพาะเพื่อรองรับน้ำหนักจากแบตเตอรี่และแรงบิดสูงทันที

เหมาะกับ: รถยนต์ไฟฟ้าทุกรุ่น

ข้อดี: ลดแรงต้านการหมุน เพิ่มระยะทางต่อการชาร์จ เงียบและมั่นคง

ข้อเสีย: ราคาสูงกว่ายางทั่วไปเล็กน้อย

5. ยางเฉพาะทาง Ultra High Performance (UHP)

คุณสมบัติ: สำหรับรถสปอร์ตและรถสมรรถนะสูง

ข้อดี: การควบคุมแม่นยำ เข้าโค้งมั่นใจ

ข้อเสีย: ราคาแพง อายุสั้นกว่า

เคล็ดลับการเลือกยางให้คุ้มค่า

ดูคู่มือรถ: ขนาดยางและดัชนีความเร็วต้องตรงตามที่ผู้ผลิตกำหนด

พิจารณาสภาพการใช้งาน: ขับในเมือง ทางไกล หรือออฟโรดบ่อยแค่ไหน

ตรวจสอบ Eco Sticker: เพื่อดูค่าการประหยัดน้ำมัน การยึดเกาะถนน และความเงียบ

เปรียบเทียบราคาและโปรโมชั่น: เพื่อเลือกที่คุ้มค่าที่สุด

สรุป: การเลือกยางรถยนต์ไม่ใช่แค่เรื่องราคา แต่คือเรื่องของความปลอดภัยและประสิทธิภาพการขับขี่ เลือกให้เหมาะกับรถและการใช้งาน จะช่วยให้ขับขี่มั่นใจ ประหยัด และคุ้มค่าที่สุด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ