เทคโนโลยีการชาร์จ์แบบไร้สายจากปอร์เช่ (Porsche) ยกระดับการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อความสะดวกสบายสูงสุด

ข่าวยานยนต์ Monday September 8, 2025 11:02 —ThaiPR.net

เทคโนโลยีการชาร์จ์แบบไร้สายจากปอร์เช่ (Porsche) ยกระดับการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อความสะดวกสบายสูงสุด

  • ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้านได้อย่างสะดวกสบายโดยไม่ต้องใช้สายหรือเสียบปลั๊ก
  • กำลังชาร์จสูงสูดที่ 11 กิโลวัตต์ พร้อมประสิทธิภาพสูงถึง 90%
  • โชว์เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด กับสีตัวถังเรืองแสงสุดล้ำ
  • พร้อมเปิดตัวคาเยนน์ อิเล็กทริคทั่วโลกสิ้นปีนี้

ปอร์เช่ กำลังจะนำเทคโนโลยีการชาร์จแบบไร้สายเช่นเดียวกับการชาร์จโทรศัพท์มาสู่วงการรถยนต์ไฟฟ้า โดยปอร์เช่จะเป็นผู้ผลิตรายแรกที่เปิดตัวและจำหน่ายระบบการชาร์จแบบไร้สาย 11 กิโลวัตต์ พร้อมฐานชาร์จแบบ One-Box ซึ่งสามารถชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าผ่านฐานชาร์จได้โดยไม่จำเป็นต้องติดตั้งวอลล์บ็อกซ์หรือกล่องควบคุมเพิ่มเติม โดยคาเยนน์ อิเล็กทริค ใหม่ จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกที่สามารถสั่งซื้อพร้อมฐานชาร์จแบบไร้สายนี้ได้ และจะเริ่มจัดจำหน่ายฐานชาร์จแบบไร้สายที่ศูนย์บริการปอร์เช่ และสั่งซื้อทางออนไลน์ได้ทาง Porsche Shop ในปี 2026 นี้ นอกจากนี้ ในงาน IAA Mobility ที่จัดขึ้นที่มิวนิก ปอร์เช่ยังได้มีการจัดแสดงรถยนต์ต้นแบบในสีตัวถังเรืองแสงสุดล้ำ โดยคาเยนน์ อิเล็กทริคจะเผยโฉมเป็นครั้งแรกในโลกในสิ้นปีนี้

สตุ๊ทการ์ท/มิวนิก. ไมเคิล สไตเนอร์ (Michael Steiner) กรรมการบริหารฝ่ายพัฒนาของปอร์เช่ กล่าวว่า "ความง่ายในการใช้งาน ความเหมาะสมต่อการใช้ในชีวิตประจำวัน และโครงสร้างพื้นฐานด้านการชาร์จ ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญต่อการยอมรับรถยนต์ไฟฟ้า เราภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่จะได้นำเทคโนโลยีการชาร์จแบบไร้สายนี้มาใช้กับรถยนต์ปอร์เช่ ซึ่งจะทำให้การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้านสะดวกและง่ายดายมากกว่าที่เคย"

ด้วยกำลังการชาร์จสูงสุดถึง 11 กิโลวัตต์ ปอร์เช่สามารถพัฒนาการชาร์จแบบไร้สายที่มีกำลังเทียบเท่ากับการชาร์จแบบ AC โดยมีประสิทธิภาพการถ่ายโอนกระแสไฟฟ้าจากโครงข่ายสู่แบตเตอรี่สูงถึง 90 เปอร์เซ็นต์

จากข้อมูลของปอร์เช่ พบว่าประมาณ 75 เปอร์เซ็นต์ของการชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้าล้วนของปอร์เช่มักเกิดขึ้นที่บ้าน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพอันมหาศาลของการชาร์จแบบไร้สาย โดยฐานชาร์จไร้สายของปอร์เช่ (ยาว/กว้าง/สูง 117/78/6 ซม.) สามารถติดตั้งได้ทั้งในโรงจอดรถ ลานจอดรถ รวมไปถึงที่จอดรถกลางแจ้ง โดยสามารถเชื่อมต่อเข้ากับระบบไฟฟ้าในบ้านได้ตามปกติ ซึ่งลูกค้าสามารถใช้บริการติดตั้งจากปอร์เช่เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งาน

เพื่อให้สามารถชาร์จไฟแบบไร้สายได้ รถยนต์เองก็ต้องมีฮาร์ดแวร์ที่สามารถรองรับเทคโนโลยีใหม่นี้ด้วยเช่นกัน โดยคาเยนน์ อิเล็กทริค (รหัสรุ่น E4) จะเป็นรุ่นแรกที่สามารถเลือกติดตั้งระบบการชาร์จแบบไร้สาย (Porsche Wireless Charging) และอุปกรณ์แผ่นรับสัญญาณการชาร์จแบบไร้สาย (Porsche Wireless Vehicle Plate) โดยชุดแผ่นรับสัญญาณจะติดตั้งไว้บริเวณใต้ท้องรถ ระหว่างล้อคู่หน้า และได้รับการป้องกันจากเศษหินและสภาพอากาศ สำหรับขั้นตอนการชาร์จ เพียงแค่จอดรถยนต์ให้อยู่เหนือฐานชาร์จบนพื้น ก็สามารถถ่ายโอนพลังงานแบบไร้การสัมผัสระหว่างอุปกรณ์ทั้งสองได้ โดยมีระยะห่างเพียงไม่กี่เซนติเมตร ซึ่งในขั้นตอนนี้ คาเยนน์ อิเล็กทริค จะปรับระดับลดลงโดยอัตโนมัติ ซึ่งฐานชาร์จยังมาพร้อมเซนเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวและระบบตรวจวัตถุแปลกปลอม โดยกระบวนการชาร์จจะหยุดทำงานทันทีหากมีสิ่งมีชีวิตเข้ามาอยู่ระหว่างรถกับแผ่นชาร์จ หรือหากมีวัตถุโลหะวางอยู่บนแผ่นและเกิดความร้อนขึ้น

ระบบการชาร์จแบบไร้สายของปอร์เช่จะได้รับการเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน My Porsche ซึ่งสามารถติดตามสถานะการชาร์จและเชื่อมต่อกับรถยนต์ปอร์เช่ได้หลายคัน และด้วยระบบกล้องรอบทิศทาง (Surround View) ยังช่วยให้ผู้ขับขี่บังคับทิศทางรถยนต์เข้าสู่ตำแหน่งที่เหมาะสมสำหรับการชาร์จได้ง่ายขึ้น ทันทีที่รถถูกจอดในตำแหน่งเหนือฐานชาร์จและดึงเบรกมือ กระบวนการชาร์จจะเริ่มขึ้นโดยอัตโนมัติ ฟังก์ชั่นที่คุ้นเคยจากการชาร์จแบบ AC เช่น การตั้งเวลาชาร์จพร้อมระบบปรับอุณหภูมิแบตเตอรี่ก่อนการชาร์จ (preconditioning) ก็ยังคงมีให้ใช้งานกับการชาร์จแบบไร้สายเช่นกัน

ฐานชาร์จแบบไร้สายมีน้ำหนักประมาณ 50 กิโลกรัม มาพร้อมกับโมดูล LTE และ WLAN เป็นมาตรฐาน เพื่อให้รองรับการอัปเดตซอฟต์แวร์ระยะไกลและรองรับโครงสร้างพื้นฐานที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยระบบการชาร์จแบบไร้สายของปอร์เช่จะเริ่มต้นวางขายที่ยุโรปในปี 2026 และประเทศอื่น ๆ ในอนาคต

หลักการทำงานของระบบชาร์จแบบเหนี่ยวนำ (Inductive Charging)

ระบบการชาร์จแบบเหนี่ยวนำเป็นระบบที่ใช้ในการชาร์จสมาร์ทโฟน รวมไปถึงในแปรงสีฟันไฟฟ้า โดยพลังงานจะถูกถ่ายโอนผ่านอากาศด้วยสนามแม่เหล็ก โดยขดลวดทองแดงและเฟอร์ไรต์ที่ตั้งอยู่ในฐานของแผ่นชาร์จจะทำหน้าที่ส่งพลังงานผ่านขดลวดนี้ กระแสไฟฟ้าสลับจะไหลผ่านขดลวดดังกล่าวและสร้างสนามแม่เหล็กขึ้นมา

นวัตกรรมการชาร์จแบบไร้สายของปอร์เช่ได้ใช้เทคโนโลยีอัลตร้าไวด์แบนด์ (Ultra-Wideband) เพื่อกำหนดตำแหน่งที่ถูกต้องของตัวรถเหนือฐานชาร์จ โดยเมื่อรถเข้ามาอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ระบบจะแจ้งเตือนผู้ขับขี่ ขดลวดรองในตัวรถซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวรับ จะสร้างกระแสไฟฟ้าสลับจากสนามแม่เหล็กนั้น จากนั้นวงจรเรียงกระแสจะเปลี่ยนเป็นกระแสตรง เพื่อให้แบตเตอรี่พลังงานสูงในคาเยนน์ อิเล็กทริคสามารถกักเก็บพลังงานไฟฟ้าไว้ได้

ผ่านการทดสอบประสิทธิภาพในการกันน้ำและความทนทาน

ฐานชาร์จไร้สายยังถูกออกแบบมาให้รองรับการใช้งานแบบกลางแจ้ง โดยชิ้นส่วนที่มีกระแสไฟฟ้าทั้งหมดจะถูกป้องกันจากฝนและหิมะ แม้จะขับรถทับฐานชาร์จโดยตรงก็จะไม่ทำให้เกิดความเสียหาย การกระจายของรังสีแม่เหล็กไฟฟ้าระหว่างการชาร์จก็ถูกจำกัดให้อยู่เฉพาะใต้ท้องรถเท่านั้น ระบบชาร์จแบบไร้สายยังได้ผ่านการทดสอบประสิทธิภาพความทนทานจาก T?V Sued และฐานชาร์จก็ได้รับการรับรองมาตรฐาน CE และ UL ซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมของยุโรปและสหรัฐอเมริกา

มิติใหม่ของการชาร์จความเร็วสูง (Fast Charging)

ประสิทธิภาพการชาร์จของคาเยนน์ อิเล็กทริคยังเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางไกลอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกันกับมาคันน์และไทคานน์ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เป็นผู้นำในเซกเมนต์ด้วยกำลังชาร์จ 270 และ 320 กิโลวัตต์ โดยคาเยนน์ อิเล็กทริคได้สร้างบรรทัดฐานใหม่เช่นกัน ด้วยความสามารถในการรองรับกำลังการชาร์จแบบ DC สูงสุดถึง 400 กิโลวัตต์ ซึ่งเท่ากับว่าคาเยนน์ อิเล็กทริคจะสามารถชาร์จพลังงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพได้ที่ Porsche Charging Lounge

หลังจากการปรากฏตัวอย่างเป็นทางการของคาเยนน์ อิเล็กทริคครั้งแรกในประเทศอังกฤษ คาเยนน์ อิเล็กทริค ได้ปรากฏตัวอีกครั้งในงาน IAA ที่มิวนิก โดยโดดเด่นด้วยสีเรืองแสงสุดล้ำ ซึ่งทันทีที่มีการใช้กระแสไฟฟ้า รถยนต์ต้นแบบจะถูกเปลี่ยนสีเป็นสีเรืองแสงซึ่งปรากฏในลวดลายพรางไดนามิก โดยบางส่วนของรถแต่ละคันจะมีส่วนที่เว้นว่างไว้และจะถูกแต่งเติมด้วย 5 เฉดสีตั้งแต่สีฟ้าไปจนถึงสีม่วง

จัดแสดงรถยนต์ต้นแบบคาเยนน์ อิเล็กทริคที่พรางตัวอย่างโดดเด่นด้วยสีเรืองแสงสุดล้ำ

หลังจากการปรากฏตัวอย่างเป็นทางการของคาเยนน์ อิเล็กทริคครั้งแรกในประเทศอังกฤษ คาเยนน์ อิเล็กทริค ได้ปรากฏตัวอีกครั้งในงาน IAA ที่มิวนิก โดยโดดเด่นด้วยสีเรืองแสงสุดล้ำ ซึ่งทันทีที่มีการใช้กระแสไฟฟ้า รถยนต์ต้นแบบจะถูกเปลี่ยนสีเป็นสีเรืองแสงซึ่งปรากฏในลวดลายพรางไดนามิก โดยบางส่วนของรถแต่ละคันจะมีส่วนที่เว้นว่างไว้และจะถูกแต่งเติมด้วย 5 เฉดสีตั้งแต่สีฟ้าไปจนถึงสีม่วง

นวัตกรรมการเคลือบสีนี้ประกอบด้วยการเคลือบสีสูงสุดถึง 25 ชั้น ตั้งแต่ชั้นเคลือบตัวนำไฟฟ้า ชั้นขั้วไฟฟ้าและชั้นฉนวนไฟฟ้า รวมไปถึงการเคลือบสีแบบเรืองแสง (Electroluminescent) ด้วยเม็ดสี ภายใต้พลังงานไฟฟ้าเพื่อแสดงสีออกมา นอกจากนี้ยังมีการเคลือบใสอีกกว่า 15 ชั้น ซึ่งใช้สีในการเคลือบใสไปกว่า 100 ลิตร การขัดสีอีกกว่า 30 ครั้งและใช้สายไฟยาวถึง 500 เมตร ซึ่งเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการสร้างสรรค์รถยนต์ต้นแบบที่เป็นเอกลักษณ์คันนี้

รถยนต์ต้นแบบคาเยนน์ อิเล็กทริคนี้ จะถูกจัดแสดงครั้งแรกในงาน IAA Mobility ที่มิวนิก ตั้งแต่วันที่ 9 ถึง 14 กันยายน 2025 นี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ