
"บมจ.เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์" หรือ SJWD ต่อยอดขยายการลงทุนธุรกิจคลังสินค้าห้องเย็นในอาเซียน จากกลุ่มประเทศ CLMV + China สู่ "อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย สิงคโปร์" ที่เศรษฐกิจมีศักยภาพเติบโตสูง สร้างคลัสเตอร์ในภูมิภาคตอกย้ำศักยภาพเป็น Cold Chain Hub in Asean ที่แข็งแกร่ง รับแนวโน้มอุตสาหกรรมคลังสินค้าห้องเย็นในอาเซียนเติบโตต่อเนื่อง วางเป้าหมายเป็นหนึ่งในธุรกิจหลักที่ขับเคลื่อนการเติบโต
นายบรรณ เกษมทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SJWD ผู้ให้บริการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนแบบครบวงจรรายใหญ่ที่สุดในอาเซียน เปิดเผยว่า บริษัทฯ เห็นถึงศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และสิงคโปร์ ซึ่งเป็นประเทศชั้นนำในอาเซียนที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของภูมิภาค จึงปักหมุดขยายการลงทุนธุรกิจคลังสินค้าห้องเย็นและการขนส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิ จากกลุ่มประเทศ CLMV + China (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา เวียดนาม + จีน) สู่กลุ่มประเทศดังกล่าว เพื่อเสริมศักยภาพเป็น Cold Chain Hub in Asean หรือศูนย์กลางของธุรกิจคลังสินค้าห้องเย็นในอาเซียนที่แข็งแกร่ง รวมถึงสร้างคลัสเตอร์คลังสินค้าห้องเย็นในภูมิภาคนี้

ทั้งนี้ SJWD เข้าลงทุนในธุรกิจบริการโลจิสติกส์ในอินโดนีเซีย ที่มีขนาดเศรษฐกิจและจำนวนประชากรมากที่สุดในภูมิภาคนี้และเป็นหนึ่งในประเทศหลักของการลงทุนในอาเซียนตั้งแต่ปี 2560 ผ่านบริษัทเอสซีจี บาริโตะ โลจิสติกส์ จำกัด (SCG Barito Logistics) สามารถให้บริการโลจิสติกส์ครอบคลุมทั่วประเทศ ได้แก่ เกาะชวา, สุมาตรา, กาลิมันตัน, ซูลาเวซี, บาหลี และมาลูกู ทั้งการขนส่งสินค้าทางบก คลังสินค้าทั่วไป และคลังสินค้าอันตราย โดยมีฟลีทรถขนส่งของบริษัทฯ กว่า 200 คัน คาดว่าปี 2568 จะมีรายได้ 45 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต 8%จากปีก่อน จากการให้บริการแก่ลูกค้าที่เป็นบริษัทในเครือ SCG และบริษัทจากไทยที่ลงทุนในอินโดนีเซีย นอกจากนี้ SJWD ได้ร่วมทุนกับกลุ่ม Samudera ผู้ดำเนินธุรกิจสายการเดินเรือรายใหญ่ในอินโดนีเซีย ดำเนินธุรกิจคลังสินค้าห้องเย็น ปัจจุบันได้บริหารพื้นที่คลังสินค้าห้องเย็นในเครือข่ายของพาร์ทเนอร์ และอยู่ระหว่างเจรจาความร่วมมือทางธุรกิจกับผู้ประกอบการคลังสินค้าห้องเย็นรายใหญ่ในอินโดนีเซีย ซึ่งมีคลังสินค้าห้องเย็น 7 แห่ง รวม 3 -4 หมื่นพาเล็ต
ส่วนฟิลิปปินส์ SJWD หลังจากร่วมทุนกับบริษัท รอยัล คาร์โก จำกัด ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจรและคลังสินค้าห้องเย็นรายใหญ่ในฟิลิปปินส์ จัดตั้งบริษัทร่วมทุนภายใต้ชื่อบริษัท เอสซีจี โลจิสติกส์ ฟิลิปปินส์ จำกัด ในปี 2566 เพื่อยกระดับบริการและขยายธุรกิจโลจิสติกส์ในฟิลิปปินส์ SJWD เห็นโอกาสเติบโตของธุรกิจคลังสินค้าห้องเย็นในฟิลิปปินส์และศักยภาพของรอยัล คาร์โก ที่มีพื้นที่คลังสินค้าห้องเย็นให้บริการกว่า 1.4 แสนตารางเมตร รวมกว่า 3.3 หมื่นพาเล็ต ปัจจุบันอยู่ระหว่างหารือความร่วมมือ เพื่อขยายการลงทุนในฟิลิปปินส์
ขณะที่มาเลเซียเป็นประเทศล่าสุดที่ SJWD เข้าลงทุน ซึ่งจะเพิ่มศักยภาพเชื่อมการขนส่งสินค้าระหว่างไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ โดยร่วมกับ Swift Haulage Berhad หรือ SWIFT (สวิฟท์) ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจรรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์มาเลเซีย ตั้งบริษัทร่วมทุน Swift Cold Chain Sdn Bhd เพื่อลงทุนคลังสินค้าห้องเย็นในมาเลเซีย 3 โครงการ ได้แก่
- โครงการ GVL Cold Chain ภายใน Shah Alam International Logistics Hub (ชาห์ อลัม อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์ ฮับ) เพื่อบริการลูกค้าในพื้นที่ตอนกลาง มีพื้นที่ประมาณ 1.1 หมื่นตารางเมตร จัดเก็บสินค้าได้ 1 หมื่นพาเล็ต คาดว่าก่อสร้างแล้วเสร็จไตรมาส 4/2568 และเปิดบริการต้นปี 2569
- โครงการก่อสร้างคลังสินค้าห้องเย็นที่เมืองโจโฮร์บะฮูร์เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าในมาเลเซียและสิงคโปร์ มีพื้นที่ 10,000 ตารางเมตร จัดเก็บสินค้าได้ 1 หมื่นพาเล็ต ปัจจุบันอยู่ระหว่างเตรียมการก่อสร้าง คาดว่าแล้วเสร็จไตรมาส 4/2569 โดยทั้ง 2 โครงการใช้งบลงทุนรวมกว่า 800 ล้านบาท
- โครงการก่อสร้างคลังสินค้าห้องเย็นที่เมืองปีนัง พื้นที่ 1 - 2 หมื่นตารางเมตร คาดว่าจะได้ข้อสรุปในไตรมาส 1/2570
"SJWD ให้ความสำคัญกับการขยายคลัสเตอร์โลจิสติกส์ในอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซียและสิงคโปร์ เนื่องจากเป็นประเทศชั้นนำในอาเซียนที่มีศักยภาพเติบโตสูง อย่างไรก็ตามด้วยภูมิประเทศที่เป็นลักษณะเป็นหมู่เกาะ การขนส่งสินค้าจึงต้องใช้ความเชี่ยวชาญและเครือข่ายการให้บริการที่ครอบคลุม รวมถึงการนำเสนอโซลูชันเพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะและแก้ไขปัญหาด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชนแก่ลูกค้า โดยมีบริการหลากหลายรูปแบบ ทั้งการขนส่งสินค้าทางบก ทางราง และทางน้ำ บริการคลังสินค้าห้องเย็น คลังสินค้าทั่วไป และตัวแทนรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ (Freight Forwarder) เพื่อตอบสนองความต้องการขนส่งสินค้าของแต่ละประเทศ และกระจายสินค้าจากสิงคโปร์ มายังมาเลเซีย ฟิลิปปินส์ หรืออินโดนีเซีย" นายบรรณ กล่าว
นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม SJWD กล่าวว่า กลุ่มประเทศ CLMV + China เป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญในธุรกิจคลังสินค้าห้องเย็นของ SJWD ที่มีฐานตลาดกว้างครอบคลุม ทั้งตลาดการบริโภคภายในประเทศ และตลาดนำเข้าส่งออก สามารถให้บริการเชื่อมต่อและเสริมศักยภาพให้กับการขยายธุรกิจบริการขนส่งข้ามแดนสินค้าควบคุมอุณหภูมิและสินค้าทั่วไปในเส้นทางไทย - อาเซียน - จีน ส่งผลให้ SJWD สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบและเส้นทางการขนส่ง รวมถึงให้บริการขนส่งสินค้าข้ามแดนจากประเทศอื่น ๆ มาที่กัมพูชาในช่วงที่มีการปิดด่านชายแดน
ทั้งนี้ SJWD ร่วมกับพาร์ทเนอร์ (RMA) ขยายคลังสินค้าห้องเย็นในกัมพูชาอีก 1,200 ตารางเมตร รวมเป็น 3,400 ตารางเมตร ใช้งบลงทุน 5.5 แสนดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 17.5 ล้านบาท) ล่าสุดได้ร่วมมือกับ Express Food Group (EFG) ผู้ดำเนินธุรกิจ Food Chain รายใหญ่ในกัมพูชา เช่น เดอะพิซซ่า คอมปะนี, แดรี่ควีน, สเวนเซ่น ให้บริการนำเข้าและขนส่งอุปกรณ์ทำอาหารจากไทย - กัมพูชา โดยนำเสนอโซลูชันในช่วงที่ปิดด่านชายแดน ด้วยการปรับเส้นทางขนส่งผ่าน สปป.ลาว เวียดนาม มายังกัมพูชา และการขนส่งสินค้าทางเรือ นอกจากนี้ ได้ให้บริการแก่ร้านคาเฟ่ TOURles JOUR Cafe ซึ่งเป็นลูกค้าของ EFG ขนส่งวัตถุดิบทำขนมจากเวียดนามและจัดส่งไปยังร้านคาเฟ่ในกัมพูชา 6 - 7 สาขา นอกจากนี้ บริษัทฯ วางแผนขยายการให้บริการโลจิสติกส์ภายใต้ความร่วมมือกับ Transimex พาร์ทเนอร์ของบริษัทฯ ในเวียดนาม ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจรแบบ End to End โดยให้บริการขนส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิแก่บิ๊กซี (BigC)
SJWD วางเป้าหมายให้ธุรกิจคลังสินค้าห้องเย็นและการขนส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิ เป็นหนึ่งในธุรกิจหลักที่ขับเคลื่อนการเติบโต สอดคล้องกับภาพรวมธุรกิจคลังสินค้าห้องเย็นในอาเซียนปี 2565 - 2570 ที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง เช่น อินโดนีเซีย คาดว่ามูลค่าตลาดรวมจะเพิ่มขึ้นเกือบ 80% จาก 6,981 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น 12,504 ล้านดอลลาร์สหรัฐ, ฟิลิปปินส์ จาก 5,043 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น 7,387 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 46.5%, มาเลเซีย จาก 1,836 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น 2,377 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 29.5%, สิงคโปร์ จาก 829 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น 1,041 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 25.6%, เวียดนาม จาก 4,374 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น 6,437 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 47.2%, ไทย จาก 3,417 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น 4,738 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 38.7%
ส่วนในประเทศไทย SJWD ปัจจุบันขยายการลงทุนคลังสินค้าห้องเย็น 10 แห่งใน 6 จังหวัด ครอบคลุมพื้นที่ยุทธศาสตร์ของอุตสาหกรรม ได้แก่ สมุทรสาคร สมุทรปราการ ปทุมธานี ฉะเชิงเทรา สระบุรี และเชียงใหม่ มีพื้นที่รวมกว่า 1.6 แสนตารางเมตร รองรับสินค้าได้กว่า 100,000 ตัน หรือกว่ 240,000 พาเล็ต และวางแผนขยายการลงทุนในจังหวัดสุราษฎร์ธานี และขอนแก่น เพื่อเพิ่มศักยภาพการบริการครอบคลุมทุกภาคของประเทศไทย