ธนาคารไทยเครดิต จำกัด (มหาชน) เดินหน้าสู่จังหวัดร้อยเอ็ดส่งต่อกิจกรรมสร้างความรู้ทางการเงินให้กับผู้ค้ารายย่อย ผ่านเวที "มหกรรมการเงิน ตังค์โต Know-how ประจำปี 2568" ณ ตลาดสดเทศบาลจตุรพักตรพิมาน หนึ่งในตลาดที่มีบทบาทสำคัญด้านเศรษฐกิจชุมชน ของจังหวัดร้อยเอ็ด ภายใต้แคมเปญ "ลดหนี้ มีตังค์ ธุรกิจโต" (Less Debt, More Wealth, Business Health) ซึ่งมุ่งยกระดับความมั่นคงทางการเงินของผู้ค้าทั่วภูมิภาคอีสาน โดยได้รับเกียรติจาก นางสาวปราณี วงศ์บุตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายจีระศักดิ์ ศรีเพชร พาณิชย์จังหวัดร้อยเอ็ดเข้าร่วมงานมอบประกาศเกียรติคุณ "The Best Market Owner" ให้กับ คุณวิจิตรา ชัยยง รองนายกเทศมนตรีจตุรพักตรพิมาน เพื่อยกย่องบทบาทด้านการพัฒนาผู้ค้ารายย่อยอย่างต่อเนื่อง ณ ตลาดสดเทศบาลจตุรพักตรพิมาน จังหวัดร้อยเอ็ด
นางสาวเขมฤทัย อัศวนนท์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายพัฒนาและส่งเสริมผู้ประกอบการ ธนาคารไทยเครดิต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "การเข้าถึงบริการทางการเงินเพียงอย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอ ผู้ค้ารายย่อยต้องการความรู้และเครื่องมือในการบริหารจัดการการเงินอย่างเป็นระบบ โครงการตังค์โต Know-how จึงออกแบบมา เพื่อตอบโจทย์การนำความรู้ไปปรับใช้ในการแก้ปัญหาจริงของผู้ค้า ตั้งแต่การปรับโครงสร้างหนี้ การสร้างวินัยการออม ไปจนถึงการใช้เทคโนโลยีเพื่อขยายธุรกิจ โดยหลักสูตรการอบรมได้รับการรับรองจากคณะบัญชี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย"
ตลาดสดเทศบาลจตุรพักตรพิมานเป็น 1 ใน 10 ตลาดที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ด้านการเงินในระดับประเทศ การขยายผลสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือในครั้งนี้ เป็นก้าวสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานรากของภูมิภาค โดยธนาคารจะเดินสายจัดอบรมต่อเนื่องทุกภูมิภาค
"การได้รับเกียรติจากรองผู้ว่าราชการจังหวัดและพาณิชย์จังหวัดร้อยเอ็ด ในการร่วมมอบประกาศเกียรติคุณ สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของโครงการและการยอมรับจากภาครัฐต่อการพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการรายย่อย ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่น" นางสาวเขมฤทัย กล่าว
ธนาคารไทยเครดิต ยังคงมุ่งมั่นยกระดับการให้บริการทางการเงินอย่างยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาความรู้และเสริมทักษะทางการเงินแก่ผู้ประกอบการรายย่อย SME และ Micro SME เพื่อให้สามารถวางแผนทางการเงินและพัฒนาธุรกิจได้อย่างมั่นคง ภายใต้ปรัชญา "Everyone Matters ทุกคนคือคนสำคัญ" ที่มุ่งหวังให้ทุกคนเข้าถึงบริการทางการเงินได้อย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม