กรุงเทพฯ--14 พ.ย.--IR PLUS
BWG สมราคาคุยโชว์ผลงาน Q3/54 กำไร 38.94 ลบ.เพิ่มขึ้น 187.51% จากปีก่อนที่ทำได้ 13.55 ลบ. หนุนงวดสะสม 9 เดือนกำไรโตกระฉูด 270.89% จาก 22.33 ลบ. เป็น 82.83 ลบ. "สุวัฒน์ เหลืองวิริยะ" เผยกำไรพุ่งตามปริมาณงานที่เพิ่มขึ้น หนุนรายได้โนในทิศทางกัน มั่นใจโค้งสุดท้ายยังโชว์ผลงานแจ่ม เหตุปริมาณขยะยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงหลังน้ำลด เผยได้เห็นรายได้โต 30% ตามเป้าแน่
นายสุวัฒน์ เหลืองวิริยะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) หรือ BWG ผู้ประกอบธุรกิจบำบัดกากอุตสาหกรรมอย่างครบวงจรระดับแนวหน้าของประเทศไทยกล่าวถึงผลประกอบการในไตรมาสที่ 3/2554 (กรกฎาคม-กันยายน) ว่า บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 38.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.39 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 187.51 จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 13.55 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิต่อหุ้นที่ 0.07 บาท จากปีก่อนที่ทำได้0.04 บาท/หุ้น ส่งผลให้ผลประกอบการในงวดสะสม 9 เดือนกำไรสุทธิเติบโตได้อย่างโดดเด่น โดยบริษัทฯ มีกำไรสุทธิสะสม 9 เดือนที่ 82.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60.49 ล้านบาท หรือร้อยละ 270.89 จากกำไรสุทธิในปีก่อนที่ทำได้ 22.33 ล้าน และมีกำไรสุทธิต่อหุ้นที่ 0.20 บาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ทำได้ 0.07 บาท/ต่อหุ้น ในขณะที่เมื่อเทียบกับผลประกอบการในปี 2553 ทั้งปีที่ทำได้ 41.03 ล้านบาท หรือ 0.13 บาท/หุ้น พบว่าผลประกอบการในงวดสะสม 9 เดือนของปีนี้สูงกว่าถึง 41.80 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 101.88
เขากล่าวต่อว่า ผลประกอบการของ BWG ที่เติบโตขึ้นอย่างโดดเด่นในไตรมาสที่ 3/2554 ต่อเนื่องจนถึงงวดสะสม 9 เดือน เป็นผลมาจากบริษัทฯ มีรายได้เพิ่มขึ้นตามปริมาณขยะที่ขยายตัวอย่างชัดเจน โดยในงวดไตรมาสที่3/2554 บริษัทฯ มีรายได้จากการให้บริการจัดการกากอุตสาหกรรมจำนวน 239.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 72.86 ล้านบาท หรือร้อยละ 44 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 166.47 ล้านบาท ส่งผลให้ มียอดสะสม 9 เดือน สิ้นสุดไตรมาส 3 ของปี 2554 จำนวน 623.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 171.84 ล้านบาท หรือร้อยละ 38 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 451.72 ล้านบาท เนื่องจากกลยุทธ์ทางด้านการตลาด ความพร้อมในการให้บริการ และความเข้มงวดมากขึ้นในการกำกับดูแลของหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องกับการกำจัดกากอุตสาหกรรม
ในขณะที่รายได้จากงานก่อสร้าง สำหรับไตรมาส 3 ของปี 2554 ทำได้จำนวน 82.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 60.41 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 269 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 22.44 ล้านบาท และมียอดสะสม 9 เดือน สิ้นสุดไตรมาส 3 ของปี 2554 จำนวน 157.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 92.59 ล้านบาท หรือร้อยละ 143 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 64.60 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามการรับรู้รายได้เนื่องจากงานที่ทำเสร็จ ในขณะที่ต้นทุนบางส่วนเป็นต้นทุนคงที่ไม่ได้ผันแปรตามสัดส่วนรายได้ และต้นทุนบางส่วนสามารถลดลงได้เนื่องจากการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพจึงทำให้ผลประกอบการออกมาเติบโตอย่างโดดเด่น ดังกล่าว
นายสุวัฒน์ กล่าวต่อถึงแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาสสุดท้ายของปีว่า มีโอกาสเติบโตต่อเนื่องแม้ว่าจะเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัทฯ อยู่ในนิคมอุตสาหกรรมฝั่งตะวันออกที่ไม่เกิดปัญหาอุทกภัย ส่วนลูกค้าที่ได้รับผลกระทบมีอัตราเพียง 5% ของลูกค้าทั้งหมดเท่านั้น ประกอบกับเชื่อว่าหลังน้ำลดจะทำให้เกิดการทำความสะอาดโรงงานครั้งใหญ่ซึ่งจะทำให้มีปริมาณขยะเพิ่มขึ้น ดังนั้นจะช่วยชดเชยรายได้ที่ชะลอไปจากโรงงานที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยทั้งหมด จึงมั่นใจว่าในปี 2554 บริษัทฯ จะสามารถผลักดันรายได้ให้ขยายตัวในอัตราร้อยละ 30 ตามเป้าหมายที่วางไว้ได้