ก.ล.ต.ไฟเขียว CHOW ขายหุ้น IPO จำนวน 200 ล้านหุ้น

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday December 7, 2011 16:54 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--7 ธ.ค.--IR PLUS "อนาวิล จิรธรรมศิริ" เผย ก.ล.ต.ออกหนังสืออนุญาตขายหุ้น IPO แล้ว เมื่อวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา พร้อมจัดพิธีแต่งตั้งผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย วันที่ 8 ธันวาคมนี้ มั่นใจหุ้นได้รับความสนใจจากนักลงทุน เพราะเป็นบริษัทฯ ที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง ธุรกิจมีทิศทางเติบโตชัดเจน นายอนาวิล จิรธรรมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ CHOW ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กแท่งยาว (Billet) รายใหญ่ของประเทศที่มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับในระดับสากล เปิดเผยว่า หลังที่บริษัทฯ ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ต่อประชาชนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ไปเมื่อวันที่ 5 กันยายน ที่ผ่านมานั้น ขณะนี้ทางสำนักงาน ก.ล.ต.ได้มีหนังสืออนุญาตให้บริษัทฯ เสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ต่อประชาชนทั่วไปแล้ว โดยลงวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา ดังนั้นบริษัทฯ จึงได้เตรียมจัดพิธีลงนามแต่งตั้งผู้จัดการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย รวมทั้งผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย อย่างเป็นทางการในวันนี้ (8 ธันวาคม 2554) และคาดว่าจะเปิดให้จองหุ้นได้ในสัปดาห์ถัดไป “บริษัทได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ต่อประชาชนกับสำนักงาน ก.ล.ต. ไปเมื่อวันที่ 5 กันยายน ที่ผ่านมา และได้รับอนุญาตให้เสนอขายหุ้นได้เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม รวมใช้เวลาเพียงประมาณ 3 เดือนเท่านั้น ซึ่งต้องขอขอบคุณทีมงานของสำนักงาน ก.ล.ต. จริงๆ เพราะบริษัทเข้าใจว่า ช่วงที่ผ่านมา มีปัญหาด้านอุทกภัยน้ำท่วม ทำให้การทำงานและติดต่อสื่อสารไม่สะดวก แต่ทีมงานของสำนักงาน ก.ล.ต. ยังคงทำงานและประสานร่วมกับบริษัทและที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัทอย่างเต็มที่”นายอนาวิลกล่าว เขากล่าวต่อว่า มั่นใจว่าหุ้น IPO ของ CHOW จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุน เพราะกำหนดกรอบราคาไว้ไม่สูงจนเกินไปที่หุ้นละ 2.90 — 3.10. บาท คิดเป็น P/E (อัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น) อยู่ที่ประมาณ 11.51 — 12.30 เท่า เมื่อคิดจากผลกำไรสุทธิของบริษัทในช่วง 4 ไตรมาสย้อนหลัง ซึ่งเป็นช่วงที่ธุรกิจเพิ่งเริ่มฟื้นตัวหลังจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกตกต่ำในปี 2552 เปรียบเทียบกับค่า P/E เฉลี่ยของบริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ mai ในช่วง 1 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 - 30 พฤศจิกายน 2554 ซึ่งมีค่าเท่ากับ 16.51 เท่า ทำให้อัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้นที่ใช้กำหนดราคามีส่วนลดอยู่ประมาณร้อยละ 25.48 ถึงร้อยละ 30.29 นอกจากนั้น หากคำนวณค่าเฉลี่ยอัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้นในช่วง 1 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 - 30 พฤศจิกายน 2554 ของบริษัทในหมวดอุตสาหกรรมเหล็ก ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและสามารถคำนวณอัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้นได้ ซึ่งมีจำนวนทั้งหมด 21 บริษัท จะมีค่าเท่ากับ 21.66 เท่า โดยบริษัทฯ มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง ผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตได้อย่างต่อเนื่องไปจนถึงปี 2555 ตามการขยายตัวของอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศ และการขยายฐานลูกค้าเข้าไปทดแทนตลาด Billet นำเข้าได้เพิ่มขึ้น ซึ่งข้อเท็จจริงนี้เห็นได้จากผลประกอบการในงวด 9 เดือนแรกของปี บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 168.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 185.83 ล้านบาท หรือร้อยละ 1,084.99 จากปีก่อน และเชื่อว่าผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตได้อย่างต่อเนื่องไปจนถึงปี 2555 ตามการขยายตัวของอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศ และการขยายฐานลูกค้าเข้าไปทดแทนตลาด Billet นำเข้าได้เพิ่มขึ้น สำหรับในปี 2555 บริษัทฯ มีเป้าหมายจะผลักดันให้รายได้เติบโตไม่น้อยกว่า 30% จากปี 2554 ตามกำลังการผลิตที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 300,000 ตัน เป็น 360,000 ตัน หลังจากพบว่าความต้องการใช้เหล็กจะเพิ่มสูงขึ้น ตามอุตสาหกรรมเหล็กที่ยังเติบโตได้ดี จากปัจจัยการขับเคลื่อนโครงการเมกะโปรเจ็คต่างๆ ของภาครัฐ และความต้องการใช้เหล็กเพื่อฟื้นฟู ซ่อมแซมโครงสร้างต่างๆ หลังอุทกภัย ประกอบกับบริษัทฯ เอง ก็สามารถขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น ด้วยการเข้าไปทดแทนส่วนแบ่งทางด้านการตลาดของเหล็กนำเข้า จากความได้เปรียบด้านต้นทุนการขนส่ง การส่งมอบให้กับลูกค้าได้ตรงเวลา ลูกค้าสามารถสั่งสินค้าในล็อตที่เล็กลง โดยไม่ต้องสั่งสินค้าล็อตใหญ่เหมือนการนำเข้า ทำให้การบริหารจัดการ inventory ได้ง่ายขึ้น ซึ่งสนับสนุนให้ผลประกอบการของบริษัทฯ เติบโตอย่างต่อเนื่องได้เป็นอย่างดี และเชื่อว่าปัจจัยเหล่านี้จะทำให้นักลงทุนเห็นถึงความคุ้มค่ากับการลงทุนในหุ้น CHOW ทั้งนี้ บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เพื่อขอเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 200 ล้านหุ้น ซึ่งเป็นหุ้นในส่วนที่ยังไม่ได้เรียกชำระจำนวน 200 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท และการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับกิจการ และหลังจากเสนอขายหุ้นIPO จะทำให้บริษัทฯ มีทุนชำระแล้วจำนวน 800 ล้านบาท

แท็ก ก.ล.ต.   ประกัน  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ