กรุงเทพฯ--20 ธ.ค.--คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส
Price Movement
ราคาทองคำในตลาด COMEX ปิดลดลง 1.20 USDต่อออนซ์ ปิดที่ 1,596.70 USDต่อออนซ์ ในช่วงเช้าวันนี้ปรับตัวสูงขึ้นมาเคลื่อนไหวบริเวณ 1,599 USDต่อออนซ์ ราคามีแนวโน้ม rebound ขึ้นสู่แนวต้านบริเวณ 1,620 ซึ่งเป็นเส้น MA 200 วัน แต่อาจมีแรงขายทำกำไร
Key Points in Gold Market
- ราคาทองคำในตลาด COMEX มีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,585.50 — 1,611.50 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำ rebound ขึ้นได้แต่ชนแนวต้านบริเวณ 1,600 — 1,610 โดยมีแนวโน้มจะผ่านแนวต้านบริเวณ 1,600 ได้ และกำลังสร้างฐานเพื่อขึ้นสู่แนวต้านถัดไปบริเวณ 1,620 ซึ่งอาจมีแรงขายทำกำไรบริเวณแนวต้าน 1,610 / 1,620 แต่กรอบแนวรับยกตัวสูงขึ้น โดยแนวรับแรกอยู่ที่บริเวณ 1,585 — 1,590 และแนวรับถัดไปบริเวณเส้น MA 50 สัปดาห์บริเวณ 1,578 ราคายังยืนเหนือเส้น MA 50 สัปดาห์ได้ แสดงถึงแนวโน้มที่ดีขึ้น การปรับตัวขึ้นแนวต้านบริเวณ 1,620/ 1,650 อาจใช้เวลาสร้างฐานและแกว่งตัวอยู่ในกรอบบริเวณ 1,585 — 1,620 ก่อนถัดไปบริเวณ ภาพทางเทคนิคในระยะสั้น เส้น MA ราย 4 ช.ม. แสดงแนวโน้มราคาจะขึ้นไปทดสอบบริเวณแนวต้าน 1,610 ถ้าผ่านไปได้จะไปทดสอบเส้น MA 200 วันบริเวณ 1,620 ถ้ายืนเหนือ 1,620 ได้แสดงแนวโน้มที่ดีขึ้น ถ้าหากผ่านไปได้ในปลายสัปดาห์อาจไปถึงระดับ 1,640 — 1,650 การขึ้นชนแนวต้านในแต่ละระดับจะมีแรงขายทำกำไร ทำให้นักลงทุนสามารถซื้อ ขาย Trading ได้ในกรอบ 1,585 — 1,620 .ในช่วงต้นสัปดาห์ ส่วนในปลายสัปดาห์ ถ้าไม่หลุดเส้น MA 50 สัปดาห์บริเวณ 1,578 มีแนวโน้มสร้างฐานบริเวณเหนือ 1,600 เพื่อไปสู่แนวต้าน 1,620 / 1,640 โดยมีเป้าหมายของสัปดาห์ที่บริเวณ 1,640 ส่วนการหลุดแนวรับบริเวณ1,585/ 1,578 อาจลงไปที่ระดับ 1,550
- สัญญาณทางเทคนิคในรายวันมีแนวโน้มดีขึ้น นักลงทุนที่เปิด Long ไว้.บริเวณ 1,585 ถือต่อ โดยมีเป้าหมายทำกำไรบริเวณ 1,620 โดยมีจุด Stop Loss บริเวณ 1,578 หรือเล่น Trading ในกรอบ 1,585 — 1,620
- ผลการประชุมของรมว.ยูโรโซน ในการระดมเงินทุน 2 แสนล้านยูโรให้แก่ IMF เพื่อเป็นเงินทุนช่วยเหลือประเทศที่ประสบปัญหาหนี้ ปรากฎว่ายังไม่ได้ครบตามเป้าหมาย เนื่องจาก อังกฤษปฏิเสธที่จะให้เงินกู้ ทำให้ในขณะนี้ได้เงินเพียง 1.5 แสนล้านยูโรจากธนาคารกลางของประเทศในยูโรโซน 17 ประเทศ ส่วนประเทศอื่น นอกยูโรโซน แสดงความประสงค์ที่จะให้ความช่วยเหลือแต่ต้องรอขออนุมัติจากรัฐสภาก่อน รวมถึงมีความพยายามที่จะขอความช่วยเหลือจาก G20 และประเทศที่มีศักยภาพสูง เช่น จีน และ รัสเซีย
- ประธานธนาคารกลางยุโรป กล่าวถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของระบบธนาคารในปี 2012 ทำให้ตลาดเงินตอบรับต่อข่าวนี้ ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงอีกครั้ง และนักลงทุนยังคงขายสินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้น โดยมีความต้องการถือเงินสด โดยเฉพาะดอลล่าร์สรอ. เพิ่มขึ้น ทำให้ค่าเงิน USD ยังแข็งค่าอยู่ในระดับ 1.30 USDต่อยูโร
- ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปรับลดลง 100.13 จุดหรือ -0.84% ปิดที่ 11,766.26 จุด จากสถานการณ์ในยูโรโซนที่ยังไม่ดีขึ้น และการที่ธนาคารกลาง สหรัฐจะให้ธนาคารพาณิชย์ต่างๆเพิ่มทุนสำรองให้มากขึ้น เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับระบบธนาคาร ทำให้หุ้นของธนาคารต่างๆ ปรับลดลงแรง
- ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นมาที่ระดับ 31.27 บาทต่อดอลล่าร์
- รายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ วันอังคาร ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนพ.ย.วันพุธยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ย.ตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ วันพฤหัสบดี ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 3/2011 จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีการผลิตทั่วประเทศเดือนพ.ย.ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงปลายเดือนธ.ค.ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนพ.ย. วันศุกร์ รายได้ส่วนบุคคลเดือนพ.ย. ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ย.ยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ย.
- ราคาโลหะเงินปิดลดลง 0.80 USDต่อออนซ์ ปิดที่ 28.68 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 28.68 — 29.80 USDต่อออนซ์ ishares silver trust ขายโลหะเงินออก 45.37 ตันถือโลหะเงินจำนวน 9,698.04 ตัน วันนี้คาดว่ามีแนวต้านบริเวณ 30.0/ 30.9 USDต่อออนซ์ และแนวรับบริเวณ 28.5 / 27.9 USDต่อออนซ์ แนะนำ Trading ในกรอบ 27.9 — 30.9 USDต่อออนซ์
- SPDR ถือทองคำเท่าดิมจำนวน 1,279.98 ตัน
Technical Analysis:
++ ราคาทองคำมีแนวต้านที่ 1,610/1,620/1,640 และแนวรับที่ 1,585/1,578/1,550 สัญญาณทางเทคนิคในรายวันเป็นบวก นักลงทุนอาจเปิด Long ไว้ถือต่อเพื่อทำกำไร บริเวณ 1,620 โดยมีจุด Stop Loss บริเวณ 1,585/1,578 หรือ Trading ในกรอบ 1,585 — 1,620
++ ราคาโลหะเงินมีแนวแนวต้านบริเวณ 30.0/ 30.9 USDต่อออนซ์ และแนวรับบริเวณ 28.5 / 27.9 USDต่อออนซ์ แนะนำ Trading ในกรอบ 27.9 — 30.9 USDต่อออนซ์