ก.ล.ต. สั่งพักการปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ติดต่อกับผู้ลงทุน 4 ราย และตำหนิอีก 1 ราย

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday January 25, 2012 17:17 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--25 ม.ค.--ก.ล.ต. ก.ล.ต. สั่งพักการปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ติดต่อกับผู้ลงทุน 4 ราย เนื่องจากใช้บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของลูกค้าเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์ให้แก่บุคคลอื่น ยุ่งเกี่ยวกับทรัพย์สินของลูกค้า และปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ใช้ความรู้ความสามารถเยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพ อีกทั้งตำหนิผู้ติดต่อกับผู้ลงทุน 1 ราย เนื่องจากปฏิบัติหน้าที่นอกขอบเขตที่ได้รับมอบหมาย โดยการลงโทษผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนที่ปฏิบัติไม่เป็นไปตามมาตรฐานการปฏิบัติงานดังกล่าวมีผลตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2554 นายวสันต์ เทียนหอม รองเลขาธิการ ก.ล.ต. เปิดเผยว่า ก.ล.ต. สั่งพักการปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนของนายสนองพล รุ่งเรืองวรวัฒน์ ผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนบริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย พลัส จำกัด (มหาชน) เป็นเวลา 6 เดือน ภายหลังตรวจพบว่านายสนองพลส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ในบัญชีของลูกค้าเป็นเวลานานกว่า 1 ปี โดยรับคำสั่งจากบุคคลอื่นที่ไม่ใช่เจ้าของบัญชีหรือผู้รับมอบอำนาจจากเจ้าของบัญชี ไม่ดำเนินการให้เจ้าของบัญชีมอบอำนาจให้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ และเรียกชื่อบุคคลอื่นเป็นลูกค้าเพื่ออำพรางให้บริษัทเข้าใจว่าเจ้าของบัญชีเป็นผู้ส่งคำสั่งด้วยตนเอง พร้อมกันนี้ ก.ล.ต. สั่งพักการปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนและห้ามปฏิบัติหน้าที่ผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์ของนายลภดล ธีระพงษ์ ผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนและผู้จัดการสาขาของบริษัทหลักทรัพย์ นครหลวงไทย จำกัด เป็นเวลา 2 เดือน เนื่องจากซื้อขายหลักทรัพย์ในบัญชีของลูกค้าโดยไม่มีหลักฐานว่าลูกค้าเป็นผู้ส่งคำสั่งซื้อขาย จนทำให้ลูกค้าได้รับความเสียหาย จากการตรวจสอบพบว่านายลภดลและลูกค้ามีข้อตกลงให้นายลภดลดูแลบัญชีให้ แต่นายลภดลไม่แจ้งให้ลูกค้าทราบก่อนส่งคำสั่งซื้อขายตามข้อตกลง นอกจากนี้ ก.ล.ต. ได้สั่งพักการปฏิบัติหน้าที่ผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนของนางสาวจริยา สิงหราไชย ผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนของบริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคิน จำกัด เป็นเวลา 1 เดือน เนื่องจากซื้อขายหลักทรัพย์ในบัญชีลูกค้าโดยพลการจนทำให้ลูกค้าได้รับความเสียหาย ในขณะเดียวกัน ก.ล.ต. สั่งพักการปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนของ น.ส. ปภาดา ทัตพรพันธ์ ผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนของบริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด เป็นเวลา 3 เดือน เนื่องจากไม่ปฏิบัติหน้าที่ในการดูแลลูกค้าตามที่บริษัทมอบหมาย แต่กลับให้ผู้ใต้บังคับบัญชาซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รับอนุญาต (trader) ทำหน้าที่ติดต่อชักชวน และให้คำแนะนำในการซื้อขายหลักทรัพย์ พร้อมทั้งขอทำนามบัตรให้กับเจ้าหน้าที่ดังกล่าวโดยระบุตำแหน่งในนามบัตรว่าเป็นเจ้าหน้าที่การตลาดของบริษัท ซึ่งทำให้ลูกค้าเข้าใจว่าเป็นเจ้าหน้าที่การตลาดที่ได้รับความเห็นชอบจาก ก.ล.ต. และได้รับมอบหมายจากบริษัทแล้ว และต่อมาเจ้าหน้าที่ดังกล่าวซื้อขายหลักทรัพย์ในบัญชีหลายรายการที่ลูกค้าไม่ได้สั่ง หรือไม่ตรงกับคำสั่งของลูกค้า ทำให้ลูกค้าได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ ก.ล.ต. ตำหนิการปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าและบันทึกพฤติกรรมของ น.ส. สิริรัตน์ เลิศศิริรังสรรค์ เนื่องจากได้ชักชวนและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำ วัตถุมีค่า น้ำมัน และเงินตราต่างประเทศ ในตลาดต่างประเทศ ซึ่งไม่ใช่สัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อยู่ในขอบเขตการประกอบธุรกิจของบริษัทที่ตนสังกัด อีกทั้งได้แสดงตน ที่ทำให้ผู้ลงทุนเข้าใจว่าเป็นตัวแทนหรือผู้ทำการตลาดให้แก่บริษัทในต่างประเทศดังกล่าว “การที่ผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนใช้บัญชีของลูกค้าซื้อขายหลักทรัพย์ให้แก่บุคคลอื่น ตัดสินใจซื้อขายหลักทรัพย์ของลูกค้าโดยที่ไม่ได้รับคำสั่ง ซึ่งเป็นการยุ่งเกี่ยวกับทรัพย์สินของลูกค้า รวมถึงการไม่ระมัดระวังรอบคอบในการประกอบวิชาชีพและคำนึงถึงประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ อาจจะทำให้ลูกค้าได้รับความเสียหายได้จึงควรได้รับการลงโทษเพื่อไม่ให้เป็นแบบอย่าง ส่วนผู้ลงทุนเองก็ควรซื้อขายหลักทรัพย์ด้วยตนเองหรือหากจำเป็นก็ต้องมอบอำนาจตามกฎระเบียบของบริษัทหลักทรัพย์แต่ละแห่ง และหมั่นคอยดูแลพอร์ตการลงทุนของตนเองอย่างสม่ำเสมอ” นายวสันต์ กล่าว
แท็ก ก.ล.ต.   บัญชี  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ