กรุงเทพฯ--30 ม.ค.--ปตท.
ฝ่ายบริหารความเสี่ยงราคาและวิเคราะห์ตลาดต่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) รายงานถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันว่า ราคาน้ำมันสัปดาห์ที่ 23 - 27 ม.ค. 55 ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงทั้ง 3 ชนิด โดยราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) เฉลี่ยปรับตัวลดลง 0.44 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล อยู่ที่ 110.53 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ราคาน้ำมันดิบเวสเท็กซัส (WTI) เฉลี่ยปรับตัวลดลง 0.57 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล อยู่ที่ 99.44 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล และราคาน้ำมันดิบดูไบ (Dubai) เฉลี่ยปรับตัวลดลง 1.21 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล อยู่ที่ 109.05 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันเบนซินเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 0.84 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล อยู่ที่ 125.06 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล และราคาน้ำมันดีเซลเฉลี่ยลดลง 1.59 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล อยู่ที่ 126.88 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล โดยมีปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคา ได้แก่
ผลกระทบต่อราคาน้ำมันในเชิงลบ
- International Monetary Fund (IMF) ปรับลดตัวเลขคาดการณ์ GDP ของโลกปี 2555 มาอยู่ที่ระดับ 3.3% จากระดับ 4% ที่ประกาศไว้ตั้งแต่เดือน ก.ย. 54
- กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก (Initial Jobless Claims) สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 21 ม.ค. 55 เพิ่มขึ้น 25,000 รายจากสัปดาห์ก่อน มาอยู่ที่ 377,000 ราย
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานยอดขายบ้านใหม่ (New Home Sales) ในเดือน ธ.ค. 54 ลดลง 2.5% อยู่ที่ 307,000 หลัง สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น
- นายกรัฐมนตรีกรีซ Lucas Papademos และกลุ่มสหภาพยุโรปยังไม่สามารถสรุปการเปลี่ยนถ่ายหนี้จากระยะสั้นเป็นระยะยาว (Debt Swap) กับเจ้าหนี้เอกชนได้สำเร็จ โดยกรีซเสนออัตราดอกเบี้ยที่ 3.5% ในขณะที่ทางเจ้าหนี้เอกชนเรียกร้องอัตราดอกเบี้ยไม่ต่ำกว่า 4%
- สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ Fitch Rating คาดการณ์สถานะประเทศสหภาพยุโรป 6 ประเทศ มีแนวโน้มเชิงลบและปรับลด Sovereigh Credit ได้แก่ อิตาลีจาก A+ ลดลงมาอยู่ที่ A-, สเปนจาก AA- ลดลงอยู่ที่ระดับ A, เบลเยี่ยมจาก AA+ ลดลงอยู่ที่ AA, ไซปรัสจาก BBB ลดลงมาอยู่ที่ BBB-, สโลวาเนียจาก AA- ลดลงมาอยู่ที่ A อย่างไรก็ตามคงความน่าเชื่อถือ ไอร์แลนด์อยู่ที่ระดับเดิม BBB+
- บริษัทน้ำมันแห่งชาติของลิเบียรายงานอัตราการผลิตน้ำมันดิบเดือน ธ.ค. 54 เพิ่มขึ้น 300,000 บาร์เรลต่อวันมาอยู่ที่ระดับ 1.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ผลกระทบต่อราคาน้ำมันในเชิงบวก
- Thomson Reuters/University of Michigan รายงานดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคของสหรัฐฯ ในเดือน ม.ค. 55 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 5.10 จุด อยู่ที่ระดับ 75.0 จุด สูงที่สุดในรอบ 1 ปี
- Ben Bernake ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ FED ประกาศคงระดับอัตราดอกเบี้ยที่ 0 - 0.25% จนถึงปี พ.ศ. 2557 และระบุมีความพร้อมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม (QE3)
- Markit รายงานดัชนี Purchasing Managers' Index (PMI) ของทวีปยุโรปเบื้องต้นเดือน ม.ค. 55 เพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 50.4 จุด (+2.1 จุดจากเดือนก่อน) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน
- สหภาพยุโรปมีมติคว่ำบาตรอิหร่านโดยมีผลบังคับไม่ให้ประเทศสมาชิกจัดซื้อน้ำมันดิบจากอิหร่านในทันทีและสัญญาซื้อขายที่มีอยู่ในปัจจุบันจนถึงวันที่ 1 ก.ค. 55 อย่างไรก็ตามอิหร่านตอบโต้จะหยุดส่งออกน้ำมันดิบสู่สหภาพยุโรปก่อนการบังคับใช้มาตรการจริง และจะปิดช่องแคบ Hormuz หากมียอดส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่านลดลง
- ซูดานใต้ลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบมาอยู่ที่ระดับ 135,000 บาร์เรลต่อวัน จากระดับ 275,000 บาร์เรลต่อวัน และอาจจะหยุดดำเนินการผลิตอย่างสิ้นเชิง จากเหตุความขัดแย้งกับประเทศซูดาน (เหนือ) ในการส่งน้ำมันผ่านท่อขนส่งที่พาดผ่านเขตแดนของซูดาน (เหนือ) ซึ่งเป็นช่องทางการส่งออกของน้ำมันดิบซูดานใต้
ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงจากข่าวอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศสหรัฐฯ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ และจาก Fitch Rating ปรับลดระดับความน่าเชื่อถือเครดิตของภาคเอกชนของประเทศในสหภาพยุโรป นอกจากนี้ Front Weather พยากรณ์อากาศในช่วงระหว่าง 31 ม.ค. - 4 ก.พ. 55 อุณหภูมิบริเวณทวีปอเมริกาเหนือจะสูงกว่าปกติ อย่างไรก็ตามอิทธิพลของพายุไซโคลน Iggy ที่พัดผ่านบริเวณตะวันตกเฉียงเหนือของชายฝั่งออสเตรเลียส่งผลให้แท่นขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่ง อาทิ Vincent และ Van Gogh ปริมาณรวม 160,000 บาร์เรลต่อวัน ต้องหยุดดำเนินงานชั่วคราว นอกจากนี้ Reuters รายงานโครงการท่อส่งน้ำมัน Abu Dhabi Crude Pipeline หรือ ADCOP (ปริมาณ 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน) จากสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ไปยังคลังน้ำมันบริเวณ Gulf Of Oman อาจล่าช้ากว่ากำหนดเดิมในเดือน มิ.ย. 55 เนื่องจากปัญหาทางเทคนิคระหว่างผู้ว่าจ้าง และผู้รับเหมา นอกจากนี้บริษัท Chevron Corp ของสหรัฐฯ ถูกฟ้องเรียกร้องความเสียหายเป็นเงิน 11,100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์น้ำมันรั่วไหลจากแท่นขุดเจาะนอกชายฝั่ง Rio de Janeiro ประเทศบราซิลในช่วงเดือน พ.ย. 54 อาจส่งผลให้ต้นทุนในการผลิตและขุดเจาะเพิ่มขึ้น ในระยะสั้นคาดว่าราคาน้ำมันดิบ WTI และ Brent จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 98 - 101 USD/BBL และ 109 - 113 USD/BBL ตามลำดับ