เอ็น. ซี. เฮ้าส์ซิ่ง และเอส. แพ็ค แอนด์ พริ้นท์ เตรียมซื้อขายในตลท. 29 และ 30 มี.ค. ศกนี้

ข่าวทั่วไป Monday March 29, 2004 09:30 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--29 มี.ค.--ตลาดหลักทรัพย์ฯ
ตลท.รับ 2 บริษัท คือบมจ. เอ็น. ซี. เฮ้าส์ซิ่ง และบมจ. เอส. แพ็ค แอนด์ พริ้นท์ เข้าซื้อขาย 29 และ 30 มี.ค.2547 รวมบริษัทเข้าจดทะเบียนไตรมาสแรก 7 บริษัท
นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย ประธานศูนย์ระดมทุนและตลาดหลักทรัพย์ใหม่ เปิดเผยว่า คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้อนุมัติรับหลักทรัพย์จดทะเบียนใหม่อีกสองบริษัท คือบริษัท เอ็น. ซี. เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) และบริษัท เอส. แพ็ค แอนด์ พริ้นท์ จำกัด (มหาชน) เข้าเป็นบริษัท จดทะเบียนใหม่ ทำให้ในไตรมาสแรกของปีนี้มีบริษัทเข้าจดทะเบียนรวม 7 บริษัท
บริษัท เอ็น. ซี. เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทบ้านจัดสรรเพื่อขาย มีทุนชำระแล้ว 1,000 ล้านบาท เป็นหุ้นสามัญจำนวน 200 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5 บาท โดยจะเข้าจดทะเบียนในหมวดธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้กลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง และเริ่มซื้อขายวันที่ 29 มี.ค. 47 ใช้ชื่อย่อว่า "NCH" โดยมีบริษัท ซิกโก้ แอ็ดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
NCH เสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรกจำนวน 40 ล้านหุ้น หรือร้อยละ 20 ของทุนชำระแล้วหลังเพิ่มทุนที่ราคา 20 บาทต่อหุ้น โดยจะนำเงินทุนที่ระดมได้ไปใช้ชำระค่าที่ดิน ซื้อที่ดินและพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ คืนหนี้สถาบันการเงิน รวมทั้งเป็นเงินทุนหมุนเวียน ทั้งนี้ บริษัทอยู่ระหว่างเตรียมเปิดโครงการใหม่อีก 4 โครงการ
สำหรับบริษัท เอส. แพ็ค แอนด์ พริ้นท์ จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายกล่องกระดาษและรับจ้างพิมพ์หนังสือ มีทุนชำระแล้ว 300 ล้านบาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญจำนวน 60 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5 บาท เข้าจดทะเบียนในหมวดธุรกิจบรรจุภัณฑ์ ภายใต้กลุ่มอุตสาหกรรมวัตถุดิบและสินค้าอุตสาหกรรม และเริ่มซื้อขายในวันที่ 30 มี.ค. 47 ใช้ชื่อย่อว่า "S-PAC" โดยมีบริษัท ซิกโก้ แอ็ดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงินเช่นกัน
S-PAC ได้เสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก รวม 14 ล้านหุ้น หรือร้อยละ 23 ของทุนชำระแล้วหลังการเพิ่มทุนในราคาหุ้นละ 17 บาท โดยมีวัตถุประสงค์ในการนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปชำระคืนเงินกู้ สร้างอาคารโรงงาน ซื้อเครื่องจักร รวมทั้งใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ทั้งนี้ S-PAC มีโครงการลงทุนก่อสร้างโรงงานใหม่ เพื่อขยายกำลังการผลิตกระดาษลูกฟูกขนาดลอนใหญ่โดยจะใช้เงินลงทุนไม่น้อยกว่า 180 ล้านบาท
NCH ดำเนินธุรกิจโดยมุ่งพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นที่ดินของตนเองที่จัดหาได้เพื่อขายภายใต้โครงการ
"บ้านฟ้า" หรือภายใต้ชื่อโครงการเดิมซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องจากการพัฒนาทรัพย์สินที่ได้จากการซื้อหลักประกันหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้และสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ในระยะที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันบริษัทพัฒนาโครงการมาแล้ว 23 โครงการกระจายอยู่ทั้ง 4 มุมเมือง รวมมูลค่ากว่า 12,000 ล้านบาท
NCH มีรายได้จากการขายเท่ากับ 1,698 ล้านบาทในปี 2545 และ 2,401 ล้านบาท ในปี 2546 และมีกำไรสุทธิในปี 2546 จำนวน 219.73 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้และสำรองตามกฎหมาย
สำหรับ S-PAC มีบริษัทย่อย 1 แห่ง คือ บริษัทสหกิจบรรจุภัณฑ์ จำกัด และมีโรงงาน 2 แห่ง ตั้งอยู่ที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และเขตบางขุนเทียน จังหวัดกรุงเทพฯ ซึ่งทั้งบริษัทและบริษัทย่อยมีกระบวนการผลิตที่ทันสมัยได้มาตรฐานการผลิต ISO 9001 : 2000
ด้านผลการดำเนินงานของ S-PAC นั้น บริษัทมีกำไรสุทธิปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยในปี 2546 มีมูลค่า 115 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 64 เมื่อเทียบกับปี 2545 ทั้งนี้ S-PAC มีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิ
ผู้สนใจข้อมูลของบมจ.เอ็น. ซี. เฮ้าส์ซิ่ง และบมจ. เอส. แพ็ค แอนด์ พริ้นท์ ดูข้อมูลได้จากเว็บไซต์ของตลท.ที่ www.set.or.th และบริษัทเซ็ทเทรด ดอท คอม ที่ www.settrade.com หรือจากเว็บไซต์ของบมจ. เอ็น. ซี. เฮ้าส์ซิ่งได้ที่ www.ncgroup.co.th
ติดต่อส่วนสื่อมวลชนสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารองค์กร
ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร. 0-2229 - 2036 / รุ่งรัชนี อริยภิญโญ โทร.0-2229-2659
กุลวิดา จินตกะวงส์ โทร. 0-2229 - 2037 / ณัฐพร บุญประภา โทร. 0-2229 - 2049--จบ--
-นท-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ