สรุปราคาซื้อขายทองคำ และ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 เวลา 09.00 น.

ข่าวเศรษฐกิจ Monday February 13, 2012 15:06 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--13 ก.พ.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ ทิศทางราคาทองคำ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,733 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,717 เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 30.82 กับ 30.85 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 25,200 บาท กับ 25,300 บาท และกลับมาปิดที่ 25,100 บาท กับ 25,200 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 4,476 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 10,087 คู่สัญญา และ Silver Futures อยู่ที่ 4 คู่สัญญา ปริมาณการซื้อขาย Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 5% แบบ 10 บาท ลดลง 4% GFG12 ปิดที่ 25,240 บาท เและ GFJ12 ปิดที่ 25,520 บาท และ GF10G12 ปิดที่ 25,240 บาท และ GF10J12 ปิดที่ 25,520 บาท สัญญา Comex ปิดลดลง 15.9 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,725.3 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 32 เซนต์ ปิดที่ระดับ 33.60ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำที่ 1,278.65 ตัน (ซื้อเข้า 0.30 ตัน) น้ำมัน NYMEX ปิดลดลง 1.17 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 98.67 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดลดลง 89.23 จุดปิดที่ระดับ 12,801.23 จุด Ratio Gold / Silver เท่ากับ 51.1 ต่อ 1 ข่าวที่สำคัญ - นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า ปัญหาต่างๆในตลาดที่อยู่อาศัยยังคงฉุดรั้งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ และทำให้นโยบายต่างๆของเฟดมีประสิทธิภาพลดลง นายเบอร์นันเก้ยกตัวอย่างว่า มูลค่าบ้านที่ลดลงในระยะหลังอาจทำให้ผู้บริโภคใช้จ่ายน้อยลงราว 2-3.75 แสนล้านดอลลาร์ต่อปี และการใช้จ่ายผู้บริโภคก็เป็นกลไกหลักที่ผลักดันการเติบทางทางเศรษฐกิจ เขากล่าวว่าความไม่สมดุลอย่างรุนแรงระหว่างอุปสงค์และอุปทาน การคุมเข้มการปล่อยสินเชื่อเพื่อบ้าน และบ้านที่ถูกยึดเป็นจำนวนมาก เป็นปัญหาหลักที่ขัดขวางการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัย นอกจากนั้นนายเบอร์นันเก้ยังย้ำว่า เศรษฐกิจสหรัฐ “ฟื้นตัวช้าจนน่าหงุดหงิด" พร้อมกับยืนยันว่าจะพยายามต่อไปเพื่อช่วยให้ตลาดที่อยู่อาศัยฟื้นตัวดังเดิม และมีรายางานข่าวว่าเจ้าหน้าที่เฟดระดับต้นๆ ดูเหมือนจะมีความต้องการให้มีมาตรการ QE เพิ่มเติม จากที่ได้ประชุมไปเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งจะมีการเปิดเผยข้อมูลการประชุมในวันพุธนี้ แม้ว่าจะมีสัญญาณเพียงเล็กน้อยที่เฟดจะดำเนินการดังกล่าว - รัฐสภากรีซมีมติด้วยคะแนนเสียง 2 ใน 3 อนุมัติมาตรการรัดเข็มขัดฉบับใหม่ตามที่พรรคร่วมรัฐบาลของกรีซได้ทำข้อตกลงร่วมกันเมื่อวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา เพื่อปูทางให้กรีซสามารถรับความช่วยเหลือรอบที่ 2 จากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป (อียู) - สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารอิตาลี 34 แห่ง ซึ่งรวมถึงธนาคารรายใหญ่อย่างยูนิเครดิต S&P กล่าวว่า เมื่อพิจารณาจากหนี้สินมหาศาลของอิตาลีแล้ว ธนาคารต่างๆในอิตาลีมีโอกาสมากขึ้นที่จะได้รับผลกระทบจากความเสี่ยงด้านการเงินจากภายนอก และมีแนวโน้มว่ากำไรของธนาคารต่างๆในอิตาลีจะยังคงซบเซา - สำนักงานพลังงานสากล (ไออีเอ) ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในปีนี้อีกครั้ง เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ซบเซา ขณะที่ผลผลิตน้ำมันจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) พุ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2551 โดยไออีเอ ปรับลดคาดการณ์ความต้องการน้ำมันทั่วโลก ลงประมาณ 500,000 บาร์เรลต่อวัน หลังจากที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 3.3% ในปีนี้ จากก่อนหน้านี้ที่คาดว่า จะขยายตัวได้ 4% ตัวเลขเศรษฐกิจ - Trade Balance ออกมาที่ -48.8B จากที่คาดว่าจะออกมาที่ระดับ -48.1B - Prelim UoM Consumer Sentiment ออกมาที่ 72.5 จากที่คาดว่าจะออกมาที่ระดับ 74.4 - Federal Budget Balance ออกมาที่ -27.4B จากคาดว่าจะออกมาที่ระดับ -58.5B วิเคราะห์ทางเทคนิค Gold — ราคาทองคำมีการปรับฐานลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงการซื้อขายคืนวันศุกร์ โดยลงไปทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1706 เหรียญ โดยประมาณ และมีการดีดตัวกลับมาปิดตลาด Comex ที่ระดับ 1725 เหรียญ โดยที่ยังมีการแกว่งตัวในทิศทาง Sideway ในกรอบ 1700 - 1740 เหรียญ ราคาคงต้องรอความชัดเจนในการแก้ปัญหากรีซต่อไป และเริ่มมีการให้ความสนใจในการแก้ปัญหาของอีตาลีและโปรตุเกสตามมาด้วย อย่างไรก็ดีโดยภาพรวมสัญญาณทางเทคนิค ยังเป็นการเคลื่อนตัวในทิศทาง Sideway โดยลักษณะน่าจะเคลื่อนตัวในระดับ 1710 - 1740 เหรียญได้ ภาพรวมของ Oscillator ทั่วไปยังเป็นทิศทาง Sideway เช่นเดียวกัน Gold Futures G12 จะมีแนวรับที่ระดับ 25,320 บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,550 บาท Gold Futures J12 จะมีแนวรับที่ระดับ 25,650 บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,870 บาท Silver Futures G12 จะมีแนวรับที่ระดับ 1,020 บาท และแนวต้านที่ระดับ 1,060 บาท คำแนะนำ สำหรับนักลงทุนระยะรายวัน (Daily Trade) เก็งกำไรในภาวการณ์แกว่งตัวแนะนำให้ซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวและขายเมื่อราคาชนแนวต้านด้านบน ในกรอบ 1710-1740 เหรียญ นักลงทุนรายสัปดาห์ (Weekly Trade) ทยอยซื้อสะสม โดยถือครองพอร์ทที่ 50% นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง ทยอยซื้อสะสม โดยถือครองพอร์ทที่ 50% เช่นเดียวกัน สรุปได้ว่า ราคาทองคำในภาพรวมระยะกลางและระยะยาวน่าจะเป็นแนวโน้มขาขึ้น ในขณะที่ค่าเงินบาทเองทรงตัวอยู่ที่ระดับ 30.88 บาท/ดอลลาร์ในตอนเช้า ซึ่งใกล้เคียงกับช่วงปิดตลาดคืนวันศุกร์ ส่วนค่าเงินยูโรเริ่มดีดตัวกลับมาอยู่ที่ระดับ 1.3228 ดอลลาร์/ยูโรได้ในเช้าวันนี้ หลังจากวันศุกร์ลงไปทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1.3165 ดอลลาร์/ยูโร ภาพรวมราคาทองคำยังเป็นแนวโน้มในทิศทางขาขึ้น แนะนำให้ทยอยเข้าช้อนซื้อและขายทำกำไรในระยะสั้นได้ โดยให้บริหาร Portfolio ให้เหมาะสม บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้น และโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยง โปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ