เอ็มเอฟซีโชว์ผลกำไรสุทธิสูงสุดในรอบ 16 ปี ตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าทรัพย์สินสุทธิเพิ่มขึ้นจากปี 2554

ข่าวเศรษฐกิจ Monday March 5, 2012 10:50 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--5 มี.ค.--บลจ. เอ็มเอฟซี เอ็มเอฟซีโชว์ผลกำไรสุทธิสูงสุดในรอบ 16 ปี ตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าทรัพย์สินสุทธิเพิ่มขึ้นจากปี 2554 ถึงร้อยละ 35เน้นสร้างความพึงพอใจในผลตอบแทนจากกองทุนทุกประเภท พร้อมสร้างแบรนด์ขยายฐานลูกค้าภายใต้สโลแกนใหม่ “ เพื่อนสนิททางการลงทุน” บลจ. เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เผยผลกำไรสุทธิของบริษัทโตเพิ่มขึ้นจากปี 2553 ร้อยละ 10 และถือเป็นกำไรสุทธิสูงสุดในรอบ 16 ปี ตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) ปี 2555 เป็น 361,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 35 จากปี 2554 ซึ่งมี NAV 268,140 ล้านบาท และรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 17 จากปี 2554 ที่ 753 ล้านบาทเป็น 885 ล้านบาทในปี 2555 เน้นกลยุทธ์หลักสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าจากผลงานการบริหารกองทุนและผลตอบแทนทุกประเภทกองทุน สร้างความแข็งแกร่งของแบรนด์ “MFC” ให้อยู่ในใจลูกค้า พร้อมขยายฐานลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น ผ่าน Campaign โฆษณาในสื่อต่างๆตลอดปี ภายใต้สโลแกนใหม่ “ เพื่อนสนิททางการลงทุน” มุ่งหาStrategic Partners เพื่อขยายธุรกิจและฐานลูกค้า โดยเน้นสร้างการเติบโตและรายได้ที่ยั่งยืนให้กับบริษัท นางสาวประภา ปูรณโชติ กรรมการผู้จัดการ บลจ.เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2554 มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนทุกประเภทภายใต้การจัดการของบริษัทเติบโตเพิ่มขึ้นจากปี 2553 คิดเป็นร้อยละ 3.4 กล่าวคือ จากมูลค่าทรัพย์สินสุทธิปี 2553 จำนวน 259,221 ล้านบาทเป็น 268,140 ล้านบาทในปี 2554 โดยกองทุนรวมภายใต้การจัดการของบริษัทลดลงร้อยละ 3.3 จากมูลค่าทรัพย์สินสุทธิในปี 2553 จำนวน 160,447 ล้านบาทเป็นจำนวน 155,037 ล้านบาทในปี 2554 เนื่องจากความสำเร็จของการบริหารกองทุน Thailand Equity Fund และกองทุน Tsunami Recovery Fund ที่สามารถบริหารได้ผลเป็นอย่างดี จึงได้มีการทะยอยคืนเงินต้นและผลตอบแทนให้กับผู้ถือหน่วยลงทุน ทำให้มูลค่า NAV ในส่วนของกองทุนรวมลดลง อย่างไรก็ดี ในส่วนของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเติบโตเพิ่มร้อยละ 17.6 จากมูลค่าทรัพย์สินสุทธิปี 2553 จำนวน 72,919 ล้านบาทเป็นจำนวน 85,768 ล้านบาทในปี 2554 และกองทุนส่วนบุคคลเติบโตเพิ่มร้อยละ 5.7 จากมูลค่าทรัพย์สินสุทธิในปี 2553 จำนวน 25,855 ล้านบาทเป็นจำนวน 27,335 ล้านบาทในปี 2554 โดยเอ็มเอฟซีได้เสนอขายกองทุนใหม่ในปีที่แล้ว 23 กองทุน รวมมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 14,344 ล้านบาท และมีส่วนแบ่งการตลาดของกองทุนรวมตราสารทุน และกองทุนรวมผสมเป็นอันดับ 1 คิดเป็นร้อยละ 20.81 และ26.17 ตามลำดับ (ข้อมูลจาก สมาคมบริษัทจัดการลงทุน ณ 31 ธันวาคม 2554 ) ทั้งนี้ในปีที่ผ่านมา เอ็มเอฟซีสามารถสร้างผลงานเป็นที่น่าพอใจแก่ผู้ถือหน่วยลงทุนจากการจ่ายเงินปันผลของกองทุนรวม 38 กองทุน สูงกว่าปี 2553 ถึงร้อยละ 52 จากเงินปันผลรวมปี 2553 ที่ ประมาณ 1,400 ล้านบาทเป็น 2,134 ล้านบาทในปี 2554 ซึ่งกองทุนที่จ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหน่วยลงทุนสูงสุด คือ กองทุนเปิดเอ็มเอฟซีเฟล็กซิเบิลฟันด์ (MFX) จ่ายเงินปันผล 8.46 บาท ต่อหน่วยลงทุน และกองทุนที่จ่ายเงินปันผลรวมสูงสุด คือ กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี ไอ-ดิวิเดนด์ ฟันด์ (Hi-Div) จ่ายเงินปันผลสูงสุดรวมกว่า 338.28 ล้านบาท หรือหน่วยลงทุนละ 2.57 บาทต่อหน่วยลงทุน เอ็มเอฟซียังคงมีผลงานการบริหารกองทุนทาร์เก็ตฟันด์ประสบความสำเร็จคืนผลตอบแทนให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้ตามเป้าหมาย รวม 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิด I-Emerging10 ปิดกองทุนได้ภายใน 1 ปี 3 เดือน 6 วัน ได้ผลตอบแทนสูงกว่าเป้าหมายที่ ร้อยละ 12.94 กองทุนเปิด I-Gold7 ปิดกองทุนได้ภายใน 4 เดือน 25 วัน ให้ผลตอบแทนตามเป้าหมายที่ร้อยละ 7 และกองทุนเปิด SPOT 7S2 ปิดกองทุนได้ภายใน 1 เดือน 6 วัน ให้ผลตอบแทนตามเป้าหมายที่ร้อยละ 7 เช่นกัน นอกจากนี้ภายในสองเดือนแรกของปี 2555 เอ็มเอฟซียังสามารถปิดกองทุนทาร์เก็ตฟันด์ได้ตามเป้าหมายอีกรวม 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิด I-US10 ปิดกองทุนได้ภายใน 1 ปี 3 เดือน ได้ผลตอบแทนสูงกว่าเป้าหมายร้อยละ 13.50 กองทุนเปิด SPOT7 ปิดกองทุนได้ภายใน 1 ปี 3 เดือน 29 วัน ให้ผลตอบแทนร้อยละ 7 และกองทุนเปิด SPOT7S4 ปิดกองทุนภายใน 2 เดือน 20 วัน ให้ผลตอบแทนร้อยละ 7 นอกจากนี้ ยังมีกองทุนภายใต้การบริหารของเอ็มเอฟซีที่ได้รับรางวัลได้แก่ กองทุนเปิดเอ็มเอฟซีเพิ่มค่าหุ้นระยะยาว (MV-LTF) ได้รางวัล Morningstar Awards Thailand 2010 ประเภทกองทุนหุ้นขนาดใหญ่ ซึ่งประกาศผลในปี 2554 โดยนับเป็นกองทุนที่ได้รับรางวัลดังกล่าว 2 ปีติดต่อกัน ในปี 2554 กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี อิสลามิกฟันด์ (MIF-LTF) เป็นกองทุนระดับ 5 ดาวจากการจัดอันดับผลการบริหารกองทุนของ Morningstar เป็นอันดับหนึ่งของกองทุนรวมตราสารทุน (Equity General) จากจำนวนกองทุนทั้งหมด 180 กองทุน โดยให้ผลตอบแทนสูงถึงร้อยละ 17.79 เมื่อเทียบกับผลตอบแทนเฉลี่ยของกองทุนทั้งหมด ที่ร้อยละ -0.20 และยังมีผลตอบแทน 3 ปีย้อนหลังเป็นอันดับหนึ่ง จาก 172 กองทุน โดยให้ผลตอบแทนสูงถึงร้อยละ 44.18 ต่อปี ในขณะที่ผลตอบแทนเฉลี่ยเท่ากับร้อยละ 30.43 ต่อปี นอกจากนี้กองทุนของเอ็มเอฟซีที่ได้รับการจัดอันดับ 4-5 ดาวในแต่ละประเภทกองทุนยังมีถึง 24 กองทุน (ข้อมูลและการจัดอันดับจาก Morningstar ) นางสาวประภา กล่าวต่อไปว่า ในปี 2555 นี้ บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิเป็น 361,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 35 และมีรายได้เพิ่มเป็น 885 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 17 โดยบริษัทจะเน้นกลยุทธ์หลักในการสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าจากผลงานการบริหารกองทุนและผลตอบแทนทุกประเภทกองทุน โดยบริษัทให้ความสำคัญด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยมีการลงทุนในซอฟแวร์ระบบงานลงทุนใหม่ เพื่อช่วยในการทำงานของผู้จัดการกองทุนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น มีความทันสมัยสามารถรองรับการลงทุนในตราสารรูปแบบใหม่ๆ ในตลาดได้มากกว่าระบบเดิม ซึ่งระบบงานดังกล่าวเป็นที่นิยมแพร่หลายในอุตสาหกรรมการจัดการกองทุนทั่วโลก นอกจากนั้น ยังได้ลงทุนในระบบซื้อขายหน่วยลงทุนและระบบทะเบียนกองทุนรวม ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุนในการใช้บริการด้านข้อมูลรวมถึงการทำธุรกรรมได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว โดยสามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตเพื่อติดต่อได้ทุกที่ทุกเวลา ระบบงานดังกล่าวยังช่วยให้บุคคลากรฝ่ายขายสามารถรับรู้ข่าวสาร และข้อมูลสนับสนุนต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการทำงาน และสามารถติดต่อและบริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น กรรมการผู้จัดการเอ็มเอฟซี กล่าวว่า ในปีนี้ เอ็มเอฟซีจะเน้นเรื่องการสร้างความแข็งแกร่งของแบรนด์ “MFC” ให้อยู่ในใจของลูกค้า รวมทั้งขยายฐานลูกค้าใหม่ผ่านการโฆษณาประชาสัมพันธ์แบรนด์ให้เป็นที่รู้จักผ่านสื่อต่างๆ ครอบคลุมทั้งสื่อโทรทัศน์ BTS อาคารสำนักงาน สื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ และสื่อ online ตลอดปี 2555 โดยเป็นการปรับภาพลักษณ์ใหม่ให้มีความทันสมัย และใกล้ชิดลูกค้ามากยิ่งขึ้นภายใต้สโลแกน ”เพื่อนสนิททางการลงทุน” หรือ” Your Investment Partner” ด้วยแนวคิดของเอ็มเอฟซีเป็นเหมือนเพื่อนสนิททางการลงทุน ซึ่งเพื่อนที่ดี เพิ่มมูลค่าทางการลงทุนให้กับลูกค้าได้ โดยเอ็มเอฟซีพร้อมผลักดันลูกค้าสู่ความสำเร็จทางการลงทุนด้วยมุมมองและประสบการณ์ของผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน นางสาวประภา กล่าวว่า บริษัทมีแผนงานในการออกกองทุนหลากหลายประเภทเพื่อตอบสนองความต้องการและการจัดพอร์ตการลงทุนของลูกค้าแต่ละกลุ่ม นอกเหนือจากกองทุน Flagship ต่างๆ ที่มีการลงทุนครบทุกประเภทอยู่แล้ว โดยแผนการออกกองทุนใหม่ในปีนี้ มีจำนวน 25 กองทุน ดังนี้ กองทุนตราสารหนี้ 10 กองทุน กองทุน Target Fund ที่ลงทุนในประเทศ 3 กองทุน กองทุน Target Fund ต่างประเทศ 4 กองทุน กองทุนตราสารทุนในประเทศ 3 กองทุน กองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ (FIF) 1 กองทุน กองทุนอสังหาริมทรัพย์และ REITs 3 กองทุน และกองทุน Infrastructure Fund อีก 1 กองทุน นางสาวประภา กล่าวเสริมว่า นอกจากเรื่องผลตอบแทนที่ดีแล้ว บริษัทยังคงให้ความสำคัญกับการจัดกิจกรรมที่สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าอย่างต่อเนื่องตลอดปี เช่น กิจกรรม MFC Fund Family ซึ่งเป็นกิจกรรมไลฟสไตล์ที่ให้ความรู้และการนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น การจัดดอกไม้ การบรรยายความรู้ฮวงจุ้ยและโหงวเฮ้ง การลงทุน การนวดเพื่อผ่อนคลาย ฯลฯ การจัดกิจกรรมท่องเที่ยว การจัดกิจกรรมชมภาพยนตร์ รวมทั้ง บริษัทจะมีการจัดสัมมนาให้ความรู้ด้านการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เช่น MFC Finance Forum เป็นต้น การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต ข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ: คุณสุทรรศิกา คูรัตน์, คุณสุวรรณา ชีวนันทชัย บลจ.เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) โทร.0-2649-2230, 0-2649-2232 ผลการดำเนินงานย้อนหลังของกองทุนเปิดเอ็มเอฟซีอิสลามิกหุ้นระยะยาว (MIF-LTF) ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2554 ย้อนหลัง 3 เดือน ย้อนหลัง 6 เดือน ย้อนหลัง 1 ปี ย้อนหลัง 3 ปี ย้อนหลังตั้งแต่จัดตั้งกองทุน MIF-LTF 10.72% 15.91% 17.77% 199.46% 50.73% เกณฑ์มาตรฐาน 11.91% -1.55% -0.72% 127.87% 31.99% ผลการดำเนินงานย้อนหลังของกองทุนเปิดเอ็มเอฟซีอิสลามิกหุ้นระยะยาว (MIF-LTF) ณ วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2555 ย้อนหลัง 3 เดือน ย้อนหลัง 6 เดือน ย้อนหลัง 1 ปี ย้อนหลัง 3 ปี ย้อนหลังตั้งแต่จัดตั้งกองทุน MIF-LTF 13.35% 15.77% 35.80% 240.38% 61.41% เกณฑ์มาตรฐาน 18.50% 10.50% 16.25% 165.60% 48.45% * การวัดผลการดำเนินงานเป็นไปตามมาตรฐานสมาคมบริษัทจัดการลงทุน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ